0 Please+Stand+By+-+%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%87+%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%A2

Please Stand By - เนิร์ดแล้วไง มีหัวใจนะเว้ย

เข้าฉาย 19 เมษายน 2561
ผู้ชม : 7,894
ผู้กำกับ : Ben Lewin
ความยาวหนัง : 95.00
Text Size

หนัง Please Stand By เรื่องราวของเด็กสาวออทิสติกที่หนีจากผู้ดูแลของเธอเพื่อจะไปส่งบท Star Trek สำหรับการประกวดการแข่งขันเขียนบท และนี่คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายของเด็กสาวผู้มีความฝัน 


A young autistic woman runs away from her caregiver in an attempt to submit her manuscript to a \"Star Trek\" writing competition.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

17 เมษายน 2561 23:58:53

 

Please Stand By |  Ben Lewin

หนังครอบครัวเรียบๆ สบายๆ ที่มีประเด็นน่าสนใจมากๆ เนื่องจากผมมีโอกาสเข้าไปดูรอบสื่อ ก็เห็นผู้คนมากมายที่เข้ามาชมโดยมีผู้มีอาการออทิสติกเข้ามาด้วย และเนื่องจากมีเพื่อนที่เคยอยู่ในแวดวงเด็กกลุ่มนี้อยู่บ้าง ทำให้ผมดูหนังเรื่องได้มีอรรถรสพอสมควร ที่ถึงแม้หนังจะไม่ได้สนุกสนาน บันเทิงมากมาย แต่การพาเข้าสำรวจโลกของเด็กออทิสติกจากมุมมองแบบธรรมดาสุดๆ ไม่น่าสงสารมากไป ไม่โหดร้ายมากไป ทำให้หนังมันไปไกลกว่าความบันเทิงปกติพอสมควร

หนังว่าด้วยเรื่องของเวนดี้ ผู้เป็นออทิสติกอาศัยอยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนพิเศษเพื่อให้คนกลุ่มนี้มีชีวิตอยู่ในสังคมปกติได้ โดยเธอจะต้องอาศัยอยู่ในกฏระเบียบมากมาย โดยเฉพาะการจำหน้าที่ในแต่ล่ะวัน เพื่อทำหน้าที่ในฐานะของมนุษย์ปกติ (ออทิสติกจะไม่เรียนรู้ตรรกะแบบมนุษย์ แต่จะใช้การจำทุกอย่างแทน อันนี้อธิบายแบบง่ายๆ) เธอใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด โดยหนึ่งในภารกิจประจำวันนั้นเป็นการดู Startrek ก่อนนอน ที่ทำให้เธอเป็นแฟนตัวยงของซีรีย์เรื่องนี้ จนเมื่อมีการประกวดบทภาพยนตร์ Startrek เธอก็ไม่พลาดที่จะลงมือเขียน

โดยหนังจะค่อยๆ เฉลยว่า ที่เวนดี้ยอมทำทุกอย่างทั้งหมด ก็เพื่อกลับไปหา “หลาน” ของเธอ กลับไปหาครอบครัวปกติ หรือพี่สาวที่ตอนนี้ไม่สามารถมีชีวิตร่วมกับเวนดี้ได้ เพราะเวนดี้มีอาการทำร้ายตัวเอง มีโอกาสที่เป็นอันตรายกับเด็กๆ และก็รับมือกับเวนดี้ไม่ไหวแล้ว โดยเราจะได้เห็นวิธีการระงับความโกรธด้วยคำพูดของชื่อเรื่องนั่นคือ “โปรดเตรียมพร้อม” ซึ่งก็เป็นคำคล้องจองกับการจอดของเครื่องบิน และการเดินทางของยานอวกาศนั่นเอง

ในการพบกันครั้งล่าสุดทำให้ทั้งสองแตกหักกันอย่างรุนแรง และเวนดี้คิดว่ามีวิธีเดียวที่จะจัดการเรื่องราวพวกนี้ได้คือ การชนะการประกวดบท Startrek แต่ไปรษณีย์หยุดทำงานแล้วในวันศุกร์ค่ำ เวนดี้ที่ไม่เคยออกเดินเลยป้ายรถเมล์แม้แต่ครั้งเดียว ก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าจะไป LA เพื่อบทประกวดนั่นด้วยตัวเองคนเดียว

มันจึงเป็นหนัง Advanture แบบเส้นตรง ตัดสลับการตามหาคนหายของพี่สาวกับผู้ดูแล มีให้ลุ้นให้สนุกบ้างตามภาษาหนังครอบครัวผจญภัยทั่วไป แต่การพาไปสัมผัสโลกของเด็กออทิสติก และการดิ้นรนมีชีวิตอยู่ของพวกเขาทำให้หนังมีประเด็นที่น่าสนใจ เพราะเราจะค่อยๆ เรียนรู้วิธีการที่คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิต รวมไปถึงบุคคลรอบตัวเขาที่ต้องจัดการวางแผน และรับมือต่างๆ กันไป

ซึ่งบทบาทของหนังที่ทำให้เราฉุกใจคิดถึงคนกลุ่มนี้ทำออกมาได้ดีมาก ยิ่งสำหรับครอบครัวที่ไม่เข้าใจอาการนี้เท่าไหร่นัก มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาเห็นภาพชัดเจนว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไร ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำหน้าที่ในการปูพื้นฐาน และพาผู้คนที่อยู่รอบๆ เด็กออทิสติกจริงได้เป็นอย่างดี ให้เห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เป็นนักเขียนได้ มีมิตรภาพได้ และมีความสุขได้เช่นคนทั่วไป

“เราล้วนมีชิวิตของตัวเอง” ป้าคนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ได้พูดเอาไว้ ความจริงมันมี Coming Of age อยู่สูงมาก โดยเฉพาะกับออทิสติกเพราะการเติบโตไปของพวกเขามันใหญ่หลวงกว่าคนปกติมากเลย

หนังจัดอยู่ในกลุ่มกลุ่มบันเทิงดูสบาย มีบทเนี๊ยบที่เล่นแบบง่ายๆ เพลงโคตรเพราะ ทำให้หนังปลอดภัยในการดู เราชอบความเป็นธรรมชาติของการเป็นออลทิสติคที่แทรกแซมอยู่ในเนื้อเรื่อง และความพยายามของทุกฝ่ายที่จะทำให้ “ทุกคนมีชีวิตของตัวเอง” ไม่ว่าจะฟากพี่สาว ฟากคนดูแล และฟากเวนดี้ 

เป็นหนังที่สนุก ได้เห็นอะไรใหม่ๆ และทำให้ฉุกใจคิดดี ถ้าอยากรู้จักออทิสติกมากกว่านี้ หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้รับชมกัน

ปล. เพื่อนที่ทำงานด้านนี้บอกว่า ดาโกต้า เฟนนิ่งยังเล่นไม่เหมือนเด็กออลทิสติคมากเท่าไหร่ ยังสู้ Sean penn จากเรื่อง Rain man และ I Am Sam ไม่ได้

 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7.6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)