The Tribe - เงียบอันตราย(I)
เข้าฉาย 1 ตุลาคม 2558
ผู้ชม : 8,905
ผู้กำกับ
: Miroslav Slaboshpitsky
ความยาวหนัง
: 130.00
Text Size
หนัง The Tribe เซอเก หนุ่มน้อยย้ายเข้าใหม่มาสู่ โรงเรียนสำหรับผู้พิการหูหนวกเป็นใบ้ได้พบกับกลุ่มอาชญากรรม ชื่อ The Tribe ซึ่งอาศัยโรงเรียนเป็นฉากบังหน้าออกปล้น ค้ายา และค้าประเวณี เซอเกไต่เต้าในกลุ่มจนได้รับความไว้วางใจเขาได้พบกับแอนนา และตกหลุมรัก สาวค้าบริการซึ่งเป็นของหัวหน้าใหญ่ด้วยความ ปราถนา เซอเกพร้อมทำทุกอย่างรวมถึงแหกกฏของ The Tribe เพื่อได้ครอบครองเธอ
เราติดตามเด็กหนุ่มผู้พิการทางการได้ยินคนหนึ่งเข้าไปในโรงเรียนประจำของผู้พิการทางการได้ยิน เด็กหนุ่มต้องเข้าไปปะทะกับสังคมที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ความป่าเถื่อนเลือดเย็น การดิ้นรนของหลากชะตาชีวิต หนังเล่าเรื่องตามลำดับช้าๆ อย่างไม่กระโดดข้ามเวลามากนัก ล้อไปกับการที่ถ่ายภาพเล่าซีนแต่ละซีนด้วย long take ยาว และใช้ภาพขนาด long shot ทำให้หนังรักษาระยะห่างกับคนดูพอสมควรโดยแทบไม่เปิดโอกาสให้เราเข้าไปมากกว่านั้นเลย
นอกเหนือไปทางเทคนิคการเล่าของหนัง การที่ตัวละครทุกตัวใช้ภาษามือคุยกันโดยไม่มีซับไตเติ้ล รหัสทางภาษาที่เราไม่เข้าใจผลักเราไกลจากหนังมากเข้าไปอีก เราจะเข้าใจเรื่องในลักษณะภาพรวมเท่านั้น การถูกทำให้เป็นผู้สังเกตุการณ์ทุกทางทำให้ชื่อที่หนังใช้ (The Tribe) ที่แปลว่าเผ่า อาจเป็นสิ่งที่หนังนำมาเปรียบเทียบตัวละครของพวกเขา
แต่หากพวกเขาจะเป็นเผ่า ในแง่ระบบสังคม วัฒนธรรม ล้วนสะท้อนโลกภายนอกอยู่เสมอ พวกเขาไม่ได้เป็นเผ่าที่มีวัฒนธรรม exotic แบบในสารคดี แต่กลับเป็นกลุ่มคนชายขอบในหลายๆ มิติของสังคม ทั้งสถานภาพพลเมือง ชนชั้นทางเศรษฐกิจ สมรรถภาพของร่างกาย เป็นสังคมที่ดูจะเต็มไปด้วยความรุนแรงเชิงอัตวิสัยอันมีรากมาจากความรุนแรงเชิงโครงสร้างบางอย่างที่ผลักไสให้พวกเขาเป็นคนชายขอบอย่างน่าเศร้าไร้หวัง
จุดตายของผู้พิการทางการได้ยินถูกใช้ในจอภาพยนตร์ได้อย่างทรงพลัง พวกเขาไม่สามารถรับรู้และหลีกเลี่ยงป้องกันตัวเองจากอันตรายที่มาด้วยเสียงเตือน เพราะพวกเขาไม่ได้ยิน เราเห็นตัวละครทำร้ายกันโดยที่พวกเขาไม่ได้ยินเสียงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย เสียงความตายของพวกเขาก็เงียบเชียบสำหรับพวกเขา ซึ่งการถูกทำให้เห็นและได้ยินความเจ็บปวดความตายเต็มโสดประสาททั้งหมดกลับย้อนมาเป็นจุดตายของคนหูดีตาดีแบบพวกเราเสียเอง
สรุปผลวิจารณ์หนัง