Breaking the Cycle - อำนาจ ศรัทธา อนาคต
เข้าฉาย 6 มิถุนายน 2567
ผู้ชม : 3,213
ผู้กำกับ
: เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์, ธนกฤต ดวงมณีพร
ความยาวหนัง
: ไม่ระบุ
Text Size
หนัง Breaking the Cycle หรือชื่อไทยว่า อำนาจ ศรัทธา อนาคต ติดตาม 1 ปี กับ 343 วันของพรรคอนาคตใหม่ ย้อนรอยทุกก้าวสำคัญ จากมุมมองธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคทุกหลักไมล์ของพรรค และสิ่งที่ยังไปต่อของอุดมการณ์ ผ่านหลักฐานประวัติศาสตร์ทางการเมืองเรื่องนี้
ถ้าคิดว่าหนังสารคดีเรื่องนี้ทำมาเพื่อนอวยฝ่ายอนาคตใหม่หรือธนาธร อันนี้ ผิดครับ
ประเทศไทยนั้นมีตำราเรียนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองเอาไว้สอนที่แต่เด็นชั้นประถม มัธยม มหาลัย ส่วนใหญ่เนื้อหาก็มักจะเขียนแบบอวยฝ่ายขวา ยิ่งถ้าบวกกับอาจารย์สลิ่มจ๋าแล้ว ไม่ต้องพูดถึงครับ เลียบูททหารเต็มที่จนเปียกแน่นอน เพราะตำราเรียนเหล่านั้นมันก็ถูกเขียนมาโดยคนฝ่ายขวา เพื่อให้คนรุ่นต่อไปซึมซับ แล้วก็กลับมาสร้างประโยชน์สร้างอำนาจให้พวกเขาเอง โดยที่ความจริงจะเป็นยังไง ไม่สน
แต่กับหนังสารคดีเรื่อง Breaking the Cycle - อำนาจ ศรัทธา อนาคต บอกได้เลยว่า แค่ เอาฟุตเทจต่างๆที่มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วก็มี documentary นิดๆหน่อยๆมันเสริมเท่านั้น พูดง่ายๆคือ ใครติดตามการเมืองอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็แค่ฉายภาพซ้ำ หนังม้วนเดิมเท่านั้นเอง
สิ่งที่ดีงามคือการฉายหนังซ้ำ ฟิลแบบเอาข่าวมารวมๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาสรุปให้ฟัง แต่สามารถเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจได้ (ก็คงด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆมันเป็นแบบนั้นด้วย) ตัดเรื่องการเมืองออกไป มันคือหนังที่เน้นทางสร้างแรงดาลใจได้การต่อสู้กับอะไรบางอย่าง การฝ่าฟัน การเผิชญหน้า การไม่ยอมแพ้ แบบการ์ตูนญี่ปุ่น อะไรแบบนั้น และที่สำคัญหนังเขาไม่ได้ว่าร้ายหรือโจมตีฝ่ายตรงข้ามเลย แต่คือมีการหยิบยกและพูดถึงฝ่ายตรงข้ามอยู่ ซึ่งไม่ได้เป็นการว่าร้ายอะไร แค่เอาเรื่องจริงมาตัดใส่ให้สถานการณ์ครบถ้วน ซึ่งต้องขอบอกว่า ถ้าอีกฝ่ายรู้สึกว่าโดนด่า งั้นขอถามกลับ แล้วมึงทำส้นตีนๆทำไมละ ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำหนะมันถูก ก็แปลว่าเขาไม่ได้ด่าอะไรนะ แต่ถ้าคิดว่าการที่เขาเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาตัดใส่ เป็นการด่า งั้นแสดงว่า มึงก็รู้ตัวนี่ ว่ามึงเหี้ เอง555 ค เอ้ย
สรุปรวมๆเลยก็คือ มันเป็นสารคดีของคนกลุ่มนึงที่พยายามอะไรสักอย่างและมีความไม่ย่อท้อ มีความลุกขึ้นสู้ ฝ่าฟัน และเป็นหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจ แค่มีกรอบเป็นลายการเมืองประเทศไทยเท่านั้นเอง
บทหนังให้10เต็มนะครับ เพราะเรื่องการเมืองไทยนี่โคตรมัน
สรุปผลวิจารณ์หนัง