Il buco - ปริศนาถ้ำลับ
เข้าฉาย 8 มิถุนายน 2566
ผู้ชม : 3,133
ผู้กำกับ
: Michelangelo Frammartino
ความยาวหนัง
: 93.00
Text Size
หนัง Il buco หรือชื่อไทยว่า ปริศนาถ้ำลับ
Il buco The extraordinary adventure of the young members of the Piedmont Speleological Group who, having already explored all the caves of Northern Italy, changed course in August 1961 and went South to explore other caves unknown to man.
ถ้ากดเข้ามาดูแล้วได้มีโอกาสมาอ่านตรงนี้ก่อน จะแนะนำว่า ไม่ต้องเปิดดูเทลเลอร์ แต่ให้เข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลยดีกว่า........ รีวิวก็ไม่ต้องอ่าน อ่านแค่พารากราฟแรกพอ
ในฐานะที่ไปดูรอบสื่อมา ก็จะมาเล่าสักเล็กน้อย จะได้ไม่หาว่ามาหลอกให้ไปดู ถ้าคาดหวังว่าจะได้เข้าไปดูหนังแบบ ตื่นเต้นผจญภัย สนุกสุดมัน หฤโหด โหมด Si-Fi มันไม่ได้เป็นแบบนั้น หนังดำเนินไปแบบเรียบ ๆ ตั้งกล้องนิ่ง ๆ เนื้อเรื่องพื้น ๆ แต่ไอพื้น ๆ ของเขามันคือ สำรวจถ้ำไงคุณ !
.
.
.
บทหนังเป็นแบบตามที่เขาบอกในเรื่องย่อแหละ ก็คือเหตุการณ์ ๆ นึง แล้วเราก็เข้าไปดูเหตุการณ์นั้นเฉย ๆ สร้างจากเรื่องจริง บอกแค่นี้พอ ส่วนเขาดำเนินเรื่องยังไง มีอะไรในหนัง มีอะไรซ่อนในถ้ำตอนจบ ต้องไปดูเอง เพราะประเภทนี้มันแทบไม่มีอะไรอยู่แล้วถ้าบอกอะไรมากก็ดูไม่สนุกเลย เข้าไปดูแล้วให้หนังมันพาไปเองดีกว่า เพราะหนังไม่ได้ออกแบบมาให้มันมีดราม่าอะไรที่จะให้เราเข้าไปสนุกสนานกับมัน แต่เป็นเรื่องของสุนทรียภาพมากกว่า การดูหนังเรื่องนี้คือการเข้าไปเสพบรรยากาศ เหมือนเสพงานศิลปะ ที่แสดงออกมาผ่านเหตุการณ์ ๆ หนึ่ง
เข้าไปดูฟุตเทจคนสำรวจถ้ำแคบ ๆ ที่น่าอึดอัด แต่ดูไปดูมากลับรู้สึกโล่งโปร่งสบายไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องของงานภาพ คือทุก ๆ ชอตในหนัง ถ้าแคปออกมา แล้วเอามาวาง แล้วดราฟออกมา จะด้วยสีน้ำมัน หรือ สีน้ำ หรือดินสอ เราจะได้ภาพวาดศิลปะดี ๆ ออกมาทันที 1 ชิ้น ภาพแต่ละชอตในนั้นมันคืองานศิลปะภาพเขียนทิวทัศน์อะไรสักอย่าง บางอันก็เป็นภาพแนว ซิมโบลิค ที่มีความหมายซ่อนเร้นสวย ๆ พูดง่าย ๆ คืองานถ่ายระดับอาจารย์ฟิล์มตั้งกล้องเองนั่นแหละ ชอต 95% ในหนังคืองานศิลป์อันยอดเยี่ยม มันเลยทำให้ ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาดูฉากในถ้ำ (หลายชอตก็อึดอัด แต่คิดว่าเขาตั้งใจ)
การดำเนินเรื่องที่เป็นไปอย่างเนิบ ๆ ถามว่าง่วงไหม ก็ง่วงนิดนึง แต่ไม่หลับนะ เอาจริง ๆ จะลุกไปเข้าห้องน้ำยังไม่อยากไปเลย รู้สึกว่ากลัวพลาดชอตอะไรไป เพราะหนังดำเนินไปเรื่อย ๆ อย่างที่บอกว่าหนังประเภทนี้มันแทบไม่มีอะไร แต่พอมันมีขึ้นมาปุ๊บ เราก็ไม่อยากพลาด แล้วคือมันมีแอบ ๆ ไว้ตลอด พวกซิมโบลิค พวกอิมโมชั่น แม้กระทั่งความปราณีตในการสร้าง เช่น อาศัยธรรมชาติช่วยเซ็ทอัพฉาก ที่มันก็ไม่เคยจะได้ดั่งใจคนทำหนังสักที แต่เขาก็เอาธรรมชาติมาใช้จนได้ แล้วมันเกิดเป็นงานศิลปะที่ดีขึ้นมาจริง ๆ สิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้เรารู้สึกไปกับมันได้ ได้ดูแล้วอาจจะเอามาใช้เป็นไอเดีย หรือเปิดโลกให้ชีวิตเราได้ ส่วนเรื่องเสียงก็ อัดออกมาซาวด์ดีมาก แต่คิดว่าน่าจะมาอัดโฟเล่ (สร้างเสียงทับไปใหม่) ซ้อน ๆ ไปด้วย ทำให้บรรยากาศในการรับชมภาพมันอิมแพคขึ้น
สุดท้ายแนะนำ
ถ้าอยากไปหาความสนุกสนานสำราญใจ เรื่องนี้ไม่เหมาะเลย เว้นแต่ว่าตังกับเวลามันเหลือ ๆ อะ ไปดูได้ ๆ แต่สำหรับ คนเรียนฟิล์ม เด็กเรียนศิลปะ หรือคนที่นั่งทำงานอุดอู้หน้าคอม แล้วอยากไปเปิดหัวโล่ง ๆ เปิดหูเปิดตา ไปเข้าถ้ำกับเรื่องนี้ได้เลย งานภาพควรดูในโรงจริง ๆ ยิ่งฉากในถ้ำ ไม่รู้เอากล้องไปตั้งยังไง นึกภาพไม่ออก
สรุปผลวิจารณ์หนัง