Ride On - ควบสู้ฟัด
เข้าฉาย 26 เมษายน 2566
ผู้ชม : 7,810
ผู้กำกับ
: Larry Yang
ความยาวหนัง
: 126.00
Text Size
หนัง Ride On หรือชื่อไทยว่า ควบสู้ฟัด สตั๊นแมนตกอับและม้าเซกเธาว์คู่ใจของเขาโด่งดังไปทั่วทั้งโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อคลิปที่พวกเขาต่อสู้กับแก๊งทวงหนี้ในชีวิตจริงกลายมาเป็นไวรัล
A washed-up stuntman and his stunt horse become an overnight social media sensation when their real-life fight with debt collectors goes viral.
[รีวิว] RIDE ON - ควบสู้ฟัด
--- 7/10 ---
หนังคารวะ ให้เกียรติเฉินหลงและสตั๊นแมนท์อย่างแท้จริง
สนุก เพลินกับแอ็คชันแบบเฉินหลง
และขยี้เรียกน้ำตา ดราม่าไม่ใช่เล่น
Ride On - ควบสู้ฟัด เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของอดีตสตั๊นท์แมน ผู้เลี้ยงและเติบโตมากับม้าคู่ใจ แต่ทุกอย่างกำลังจะแย่ลง เมื่อความโรยราของร่างกายกลับสร้างชื่อเสียงไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน หนำซ้ำม้าลูกรักก็กำลังจะโดนช่วงชิงไป เขาจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากลูกสาวที่ความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกไม่ค่อยดีนัก เขาต้องคอยรักษาทุกอย่างไว้ ก่อนที่มันจะไม่ไม่เป็นเหมือนเดิม
เราไปดูหนังเรื่องนี้โดยไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ผลออกมากลับดีกว่าที่ อย่างแรกคือความสนุก เพลิดเพลิน เราจะได้เห็นฉากแอ็คชันที่คุ้นเคยในแบบฉบับหนังเฉินหลง ด้วยการต่อสู้ที่ลื่นไหล โดยอาศัยองค์ประกอบของฉากต่าง ๆ ความเฮฮา ความเพลิดเพลินในฉากนั้น ๆ ที่มีความอันตราย และให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนหนังสมัยก่อนที่เจ้าตัวเล่น แต่ฉากแอ็คชันมันไม่ได้เป็นจุดขายหลักและจุดเด่นของเรื่องนี้ มันมีแค่ 2-3 ฉากเท่านั้น แต่ละฉากก็ยังคงเอกลักษณ์อย่างที่ได้กล่าวไปได้เป็นอย่างดี
อย่างที่สอง เชื่อว่าใครที่เป็นแฟนคลับเฉินหลง หรือเคยดูผ่าน ๆ หรือไม่เคยดูเลย ก็คงจะสัมผัสได้เลยว่า หนังเรื่องนี้มันสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกียรติคนทำงานเบื้องหลังอย่างสตั๊นแมนท์ และคารวะเฉินหลงโดยเฉพาะ และยังให้ความรู้สึกว่าเหมือนเป็นจดหมายรักที่ตัวเฉินหลงทิ้งไว้ให้แฟน ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะตัวบทเล่าถึงความเป็นสตั๊นท์แมน ชื่อเสียง ความโด่งดัง การบาดเจ็บ ช่วงรุ่งเรืองและโรยราย หนังมีบทที่ถูกร้อยเรียงและสร้างขึ้นมาโดยเหมือนรู้สึกว่ามีศูนย์กลางเป็นตัวละครเฉินหลงเลยทีเดียว มันมีฉากที่คารวะตัวเฉินหลงอยู่หลายฉากมาก ๆ ที่ทั้งเรียกน้ำตาและรอยยิ้ม
อย่างต่อมาคือเรื่องราวความดราม่า ที่ได้บอกไปว่าหนังมันไม่ใช่หนังที่เน้นแอ็คชัน เรื่องราวจริง ๆ มันเน้นการให้เกียรติ คารวะ เชิดชูสิ่งที่สตั๊นแมนท์และเฉินหลงทำ มันผสมเรื่องราวพวกนี้อย่างกลมกลืนกับประเด็นดราม่าที่ใส่มาในหนังที่เล่าผ่านความสัมพันธ์พ่อและลูกสาวที่ไม่ลงรอยกัน รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนกับม้า ที่ดราม่าจัด ๆ ขยี้สุด ๆ และโคตรจะเรียกน้ำตา คือหนังขยี้แบบจะให้เราเสียน้ำตาให้ได้เลยทีเดียว คือตอนที่ดูไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าหนังจะมาขยี้ดราม่าหนักเบอร์นี้ ต้องชมการที่หนังพยายามทำให้เรารับรู้และเชื่อความสัมพันธ์ของเฉินหลงกับม้าได้อย่างสนิทใจ มันผูกใจเราอย่างไม่รู้ตัว พอมาถึงซีนดราม่ามันเลยถึงและเอาอยู่เลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นในด้านบทนี้ต้องบอกเลยว่าช่วงแรก ๆ ไปถึงกลาง ๆ รู้สึกอารมณ์ของหนังมันจะไม่ต่อเนื่อง มันกระโดดไปมา ประเด็นความสัมพันธ์เรื่องพ่อกับลูกก็เบาบางเกินไป และคลี่คลายง่ายเกินไปมาก ๆ
ทางด้านการแสดงก็เฉินหลงก็ยังคงแสดงเหมือนเฉินหลงที่เราคุ้นเคย แต่ในครั้งนี้ไม่รู้เพราะว่าดูในโรงหรือเพราะบท ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่เคยดูหนังเฉินหลงในโรงหนังเลย พอมาได้ดูจริง ๆ แบบเต็ม ๆ รู้สึกว่าเจ้าตัวแสดงบทดราม่าได้ดีไม่แพ้บทแอ็คชันเลย ในเรื่องนี้รู้สึกว่าเข้าถึงอารมณ์มาก โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสตั๊นแมนท์และเรื่องราวของม้า ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ถือว่ามีอะไรโดดเด่น ก็เล่นไปตามบทที่ได้รับ แต่บทลูกสาวของเฉินหลง ก็น่ารักชะมุดเลยยยยยย
สรุปแล้ว Ride On - ควบสู้ฟัด เป็นหนังที่ดูสนุก เพลิดเพลิน บันเทิง และดราม่า ผ่านทั้งฉากแอ็คชัน การคารวะสตั๊นแมนท์ การหวนคิดถึงเรื่องราวของเฉินหลง การก้าวผ่าน การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมหนัง และความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ที่ทั้งน่ารักและกินใจ มันอาจไม่ใช่หนังที่เลิศเลอเพอร์เฟ็ค แต่เรื่องราวมันก็มากพอที่จะทำให้เราตามติดและอยู่กับมันในเวลาสองชั่วโมงนิด ๆ ได้ดีเลยทีเดียว
สรุปผลวิจารณ์หนัง