Inside Out - มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
หนัง Inside Out การเติบโตอาจไม่ใช่เรื่องง่าย และมันก็เป็นเช่นนั่น เมื่อ "ไรลีย์" เด็กหญิงวัย 11 ปี ผู้เติบโตขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลางต้องย้ายมายังซานฟรานซิสโก ตามพ่อของเธอที่ได้รับการเสนองานใหม่ ... เช่นเดียวกับเราทุกคน ไรลีย์ถูกควบคุมด้วยอารมณ์ต่างๆของเธอไม่ว่าจะเป็น ความสุข (เอมี่ โพเลอร์), ความกลัว (บิล เฮเดอร์), ความโกรธ (ลิววิส แบล็ค), ความน่ารังเกียจ (มินดี้ คาร์ลลิ่ง) หรือ ความเศร้า (ฟิลลิส สมิธ) อารมณ์ทั้งหมดอาศัยอยู่ในศูนย์บัญชาการใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์ควมคุมส่วนกลางภายในจิตใจของไรลีย์ ที่ที่พวกเขาคอยช่วยแนะนำเธอให้ผ่านชีวิตในแต่ละวันได้ เมื่อไรลีย์และเหล่าอารมณ์ของเธอต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในซานฟรานซิสโก ความโกลาหลวุ่นวายก็คืบคลานมายังศูนย์บัญชาการใหญ่ แม้ ความสุข ซึ่งเป็นอารมณ์หลักและสำคัญที่สุดของไรลีย์พยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ทว่าเหล่าอารมณ์ทั้งหลายกลับขัดแย้งกันเองในการใช้ชีวิตท่ามกลางเมืองใหม่แห่งนี้
Inside Out Growing up can be a bumpy road, and it's no exception for Riley, who is uprooted from her Midwest life when her father starts a new job in San Francisco. Like all of us, Riley is guided by her emotions - Joy, Fear, Anger, Disgust and Sadness. The emotions live in Headquarters, the control center inside Riley's mind, where they help advise her through everyday life. As Riley and her emotions struggle to adjust to a new life in San Francisco, turmoil ensues in Headquarters. Although Joy, Riley's main and most important emotion, tries to keep things positive, the emotions conflict on how best to navigate a new city, house and school.
Inside Out การก้าวผ่านจากเด็กสู่วัยรุ่นที่ทุกคนต้องพบเจอ
นี่ถือเป็นการกลับมาในรอบ 2 ปีของค่ายพิกซ่าร์แอนิเมชั่นสตูดิโอ หลังจากเงียบหายไม่มีหนังฉายไปตั้งแต่เรื่องล่าสุดคือ Monsters University ซึ่งเรียกได้ว่าพักหลังๆ ไม่ได้มีผลงานที่มาสเตอร์พีช น่าจดจำซักเท่าไหร่ จนหลายๆ คนบ่นกันว่า
นี่อาจจะเป็นช่วงขาลงของค่ายนี้แล้วจริงๆ เพราะมีเพียงค่ายเดียวและเป็นค่ายแรกที่บุกเบิกตลาดแอนิเมชั่น 3D เจ้าแรกของโลกเลยก็ว่าได้แต่หลังๆ มาโดนค่ายน้องใหม่อย่าง ดรีมเวิร์คแอนิเมชั่น หรือแม้แต่ ดิสนีย์แอนิเมชั่นสตูดิโอ ก้าวนำไปหลายเรื่องแล้วก็ตาม
พิกซ่าร์กลับมาครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกจากการทำการบ้านอย่างหนักกน่วงเพื่อปรุงรสแอนิเมชั่นชิ้นนี้ ให้ออกมาเพอร์เฟคที่สุด หรือเรียกได้ว่า นี่อาจเป็นผลงานกู้ชื่อครั้งสุดท้ายของค่ายนี้
ในการทำงานอย่างหนักหน่วง ผลงานที่ได้ Inside Out ถือเป็นผลงานกู้ชื่อเสียงของค่ายนี้เลยก็ว่าได้ เพราะตัวหนังเต็มไปด้วยความบันเทิง ความคิดสร้างสารรค์ และความกินใจ จนทำให้หลายๆ เสียงที่ได้ชมมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเจ๋ง มันปัง มันซึ้งมากเลยก็ว่าได้
ตัวหนังตอบโจทย์ในความบันเทิง อย่างดี ที่มาพร้อมกับความสร้างสรรค์ กินใจ จนทำให้ช่วงท้ายๆ หลายๆ คนต้องเสียน้ำตา เป็นการแปลงนามธรรมให้เห็นเป็นรูปธรรมออกมาได้อย่างลงตัวมาก เป็นผลงานที่โดดเด่นถึงขั้นว่า ออสการ์ปีนี้ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมต้องมี Inside Out ติดโผเข้าชิงเป็นเรื่องที่ 3 ของพิกซาร์แน่ๆ และสาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม เรื่องนี้ลอยมาแต่ไกลเลยทีเดียว
สรุป Inside Out ถือเป็นแอนิเมชั่นที่ครบครันกับทุกเพศทุกวัยจริงๆ ซึ้งกินใจ เรียกน้ำตาได้ดี ถือเป็นก้าวแรกของการกลับมายึดบัลลังค์แอนิเมชั่น ของพิกซาร์เลยทีเดียว 10/10
สรุปผลวิจารณ์หนัง