Mission : Impossible - Dead Reckoning - Part One - มิชชั่น : อิมพอสซิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง
เข้าฉาย 11 กรกฎาคม 2566
ผู้ชม : 14,534
ผู้กำกับ
: Christopher McQuarrie
ความยาวหนัง
: 165.00
Text Size
หนัง Mission: Impossible - Dead Reckoning - Part One หรือชื่อไทยว่า มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง เรื่องราวของ อีธาน ฮันท์ และทีมของเขา ที่จะต้องออกไปเผชิญหน้ากับภารกิจที่อันตรายกว่าที่เคยผ่านมา โดยพวกเขาและเธอต้องติดตามอาวุธชิ้นใหม่ที่จะกลายมาเป็นอันตรายกับมนุษยชาติ และด้วยชะตาของโลกที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย อีธาน และทีมของเขาจะต้องออกเดินทางไปทั่วโลก และในระหว่างภารกิจ อีธาน ก็จะได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าภารกิจของเขา แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นชีวิตของคนที่เขารักก็ตาม
Mission: Impossible - Dead Reckoning - Part One Ethan Hunt and his IMF team must track down a dangerous weapon before it falls into the wrong hands.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
ความคิดเห็น (0)
GUEST
มล
22 กรกฎาคม 2566 08:21:06
ไปดูมาแล้วค่ะ เห็นด้วยเลย แอบเสียใจให้คนที่อีธานรักตาย เหมือนนางเอกคนนี้จะไม่แสดงแล้ว คิวบู้ดูอ่อนกว่าภาคอื่นๆมาก เลยต้องตายจะได้เกิดนางเอกคนใหม่
Mission : Impossible - Dead Reckoning - Part One
เราว่าบทหนังนี่มาดีเลยนะแม้จะไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แต่เอามาสร้างเรื่องราวของตัวเองได้น่าสนใจเลย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว้าวอะไรมากนัก 555 คือมันรู้สึกมันยังไม่สุดอะ ซึ่งจุดนี้จะยังไม่ตัดสินว่ามันดีหรือแย่ เพราะมันมีพาร์ท 2 รวม ๆ เรื่องบท สำหรับผมคือกลาง ๆ ไปทางดีมาก เต็ม 10 อาจจะ 8 เลย น่าติดตามอยู่ มันก็ดูสนุกไปได้อยู่อะแหละ
การดำเนินเรื่อง อันนี้รู้สึกว่าแบบ มันยังไม่มาสเตอร์พีชอะ มันดีได้กว่านี้ รู้สึกภาค Fall out มันดีกว่านี้อยู่เยอะเลยนะ การกำกับภาพ ลำดับภาพ การดำเนินเรื่อง อะไรต่าง ๆ มันดูไม่กระชับฉับไว ดูเปื่อย ๆ แอบง่วงเลย ตัวหนังมันดูไม่ค่อยเท่ ไม่รู้จะว่ายังไง บวกกับมีหลาย ๆ ซีนที่มันน่ารำคาญ บางการกระทำก็เยอะเกินจนน่ารำคาญ แบบหนังสายลับพระกาฬ...(เขียนงี้ปะนะ55) แต่กิมมิคคือ นักล้วงกระเป๋าหรอ ? อะไรแบบนั้น ไม่อยากบอกเยอะเดี๋ยวสปอยล์ แต่มัน.....ไม่คูลเท่าไหร่
มหันตภัยในเรื่องนี้ เออมันดูน่ากลัวนะ แต่ในหนังเขาไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าต้องกลัวกับอะไรเลย คือตัวร้ายมันดูไม่น่ากลัว หมายถึงตัวร้ายจริง ๆ นะ ทั้ง ๆ ที่มันร้ายมากเลยนะเอาจริง ๆ รู้สึกมันเบาบางไปหมด อาจจะเป็นเพราะการจัดการตัวละครกับเส้นเรื่องที่หลากหลายเกินไปด้วยมั้ง มันเลยทำให้ไม่โฟกัสกับแก่นหลักจริง ๆ ของเรื่อง พออะไร ๆ มันเยอะเกินไป เลยรู้สึก เบาบาง + อิรุงตุงนัง ไปหมด
แต่ถึงแม้ว่า มันจะดูเรื่อยเปื่อยมากภาคนี้ แต่มันก็ยังมีความสนุกในตัวมันอยู่มากด้วยเหมือนกัน อาจจะฟังดูย้อนแย้ง แต่มันทั้งเปื่อยทั้งสนุกแหละ เพราะหนังมันตั้งเกือบ 3 ชม. อะ มันเลยกลายเป็นมีความรู้สึกทั้งเบื่อ ทั้งความรู้สึก "3 ชม. มันต้องดีกว่านี้ปะ" แต่มันก็สนุกแล้วก็มันส์นิด ๆ ด้วย ...... อะไรเต็มไปหมด ก็ถือว่า ดูสนุกได้ แล้วเนื้อเรื่องไม่ได้เละอะไรเลย มันยังดีพอที่ให้ติดตามไปถึงพาร์ท 2 ก็ต้องรอดูบทสรุปต่อไป
ดนตรีประกอบก็ เฉย ๆ ไม่ได้แย่ไม่ได้ดี กลาง ๆ
ฝีมือนักแสดงดีเลย แต่บางบทอาจจะน่ารำคาญ แสดงดีแต่ภาคนี้รู้สึกไม่ค่อยอินแปลก ๆ
กราฟฟิก ก็ดีนะ แต่รู้สึกชอบงานภาพภาคก่อน ๆ มากกว่าอีก 555
ขออนุญาตสรุปรวม ๆ คือ ไปดูได้เลย สนุกแหละ แล้วก็คิดว่าพาร์ทสองจะดีกว่านี้อีกเยอะเลย รอติดตามครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง