The Menu - เมนูสยอง
เข้าฉาย 17 พฤศจิกายน 2565
ผู้ชม : 7,376
ผู้กำกับ
: Mark Mylod
ความยาวหนัง
: 106.00
Text Size
หนัง The Menu หรือชื่อไทยว่า เมนูสยอง Margot และ Tyler ได้เดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่งเพื่อไปรับประทานอาหารที่ Hawthorne ภัตตาคารสุดพิเศษที่ดูแลโดยเชฟ Slowik ผู้ที่จะเตรียมมื้ออาหารที่เปรียบดั่งผลงานศิลปะ แต่วิธีการทำอาหารของเขากลับสร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาแขกทุกท่าน
Young couple Margot and Tyler travel to a remote island to eat at Hawthorne, an exclusive restaurant run by celebrity chef Slowik, who has prepared a lavish molecular gastronomy menu where food is treated as conceptual art, but his approach to cuisine has some shocking surprises for the wealthy guests.
[รีวิว] THE MENU - เมนูสยอง
--- 7.5/10 ---
ตลกร้าย จิกกัด เสียดสี ผ่านการเสิร์ฟเรื่องราวแบบเซอร์ไพรส์
นี่คือฟูลคอร์ส หลากรสชาติ หลากอารมณ์ ที่น่าลิ้มลอง
The Menu - เมนูสยอง คือผลงานการกำกับของ Mark Mylod ผู้กำกับที่คร่ำวอร์ดในวงการซีรีส์มามากมาย ทั้งงานอย่าง Game of Thrones หรือ Succession มาคราวนี้เขามากำกับหนังตลกร้าย จิกกัด เสียดสีวงการอาหารได้อย่างตรงไปตรงมา นำแสดงโดย Ralph Fiennes, Anya Taylor-Joy และ Nicholas Hoult กับเรื่องที่บอกเล่าถึงคู่รักที่ได้เดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่งเพื่อไปรับประทานอาหาร Fine Dining ในร้านสุดหรูกับบรรยากาศโคตรส่วนตัวที่มีแขกทั้งหมดเพียง 12 คนเท่านั้น ทั้งหมดนั้นกำลังจะเจอมื้ออาหารสุดพิเศษแบบฟูลคอร์สที่พวกเขาคาดไม่ถึง
นี่เป็นหนังที่เปรียบเสมือนเราได้เข้าไปนั่งกินอาหารกับเหล่าแขกพิเศษบนเกาะนั้นเลย ไม่ใช่ในแง่ของกายภาพ แต่เป็นในแง่ของความรู้สึก ในขณะที่ในหนังตัวละครต้องลุ้นว่าจานต่อไปจะเจออะไร ทางฝั่งคนดูอย่างเราก็ต้องคอยลุ้นว่าหนังจะเสิร์ฟให้เราได้เห็นอะไร หนังดำเนินเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ค่อย ๆ ไต่ระดับความน่าสนใจไปทีละจานอาหารที่เสิร์ฟผ่านในเรื่องได้อย่างชาญฉลาด ผ่านบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ บวกกับปริศนาต่าง ๆ ของแต่ละตัวละครที่มารวมกันอยู่ ณ ร้านอาหารบนเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอกแบบนี้ เป็นคอร์สหลากรสชาติที่มีทั้งความฉงนชวนสงสัย ความสนุก ตลกร้าย ตื่นเต้น ระทึก สยองขวัญ ที่ไต่ระดับไปเรื่อย ๆ
อย่างที่บอกไปว่ามันคือหนังตลกร้าย เชิงเสียดสี ที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาไม่ใช่เล่น หนังจิกกัดผู้บริโภคที่มากินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นนักวิจารณ์ที่พรรณาบรรยายด้วยถ้อยคำที่สวยหรูเข้าใจยาก อวยเว่อร์จนทำให้อาหารนั้นดัง หรือสับเละจนทำให้ร้านนั้นพัง, พวกที่กินอาหารประเภทนี้เพื่อยกระดับสังคม, พวกคนรวยที่กินจนกลายเป็นมื้อปกติแต่ไม่ได้ใส่ใจเสน่ห์ของ Fine Dining รวมถึงคนธรรมดาที่ไม่ได้อินกับการรับประทานอาหารแบบนี้ รวมถึงหนังก็ยังไม่จิกกัดแม้กระทั่งคนทำอาหารอีกด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันเมื่อมันถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบหนังว่า "หรือจริง ๆ แล้วตัวหนังไม่ได้จิกกัดแค่วงการ Fine Dining กันนะ?" หากมองกันจริง ๆ มันก็จิกกัดวงการหนังเองในทุกภาคส่วนเหมือนกันนี่หว่า! เมื่อมองไปยังโครงสร้างตัวละครยิ่งใช่เข้าไปใหญ่ เชฟและลูกครัว (ผู้กำกับและทีมงาน) ที่พยายามรังสรรค์อาหาร(หนัง) ให้กับแขก(ผู้ชม)ทุกคน แน่นอนว่าเชฟคงทำอาหารให้ทุกคนรู้สึกอร่อยไม่ได้ เช่นเดียวกับผู้กำกับที่ไม่สามารถทำหนังให้ทุกคนชอบได้ เหล่าแขกที่มากินอาหารก็อาจจะวิจารณ์อาหารจานนี้เละเทะ จนคนที่มาอ่านบทวิจารณ์อาจจะไม่ได้ลองชิมแต่ก็ตัดสินไปแล้วว่ามันไม่ดี จนมันทำร้ายจิตใจของเชฟไม่ใช่น้อย หรือเก่งนักก็มาลองทำเองดูสิ๊ว่าจะอร่อยไหม หรือบางทีเชฟก็พยายามรังสรรค์เมนูที่ยากเกินไป แต่งเติมจานให้ดูงดงาม วางเรื่องราวที่ย่อยยากชวนงง น้อย ไม่อิ่ม แต่ผู้บริโภคก็มีหลายประเภท อาจแค่ต้องการมากินให้อร่อย บ้างก็อยากได้ประสบการณ์ บ้างต้องการแค่ท้องอิ่ม เช่นเดียวกับหนังนั่นแหละ...เอ๊ะ...จริง ๆ ก็หลายแวดวงเลยนะเนี่ย
ทั้งหมดทั้งมวลถูกบอกเล่าผ่านนักแสดงที่น่าชื่นชมและน่าสนใจไม่ใช่น้อย เป็นเสมือนของประดับใจที่น่าดึงดูดบนเมนูอาหาร ทั้ง Anya Taylor-Joy ที่ยังคงสวยงดงาม ถึงแม้ไม่ได้มีซีนยาก ๆ หรือซีนชวนทึ่งให้เราได้ว้าว แต่ก็ยังมีเสน่ห์ให้เราชวนมองในทุกอริยาบทของเธอ รวมถึง Nicholas Hoult ที่ถือว่าทำได้ดีและโดดเด่นไม่ใช่น้อย เติมเต็มเรื่องราวได้อย่างดี แต่ที่น่าชื่นชมที่สุดก็คือการแสดงของ Ralph Fiennes ที่มานิ่ง ๆ แต่น่ากลัวและไม่น่าไว้วางใจ ยอดเยี่ยมในทุกซีนปรากฏ และนักแสดงอื่น ๆ ก็ช่วยกันขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าได้กลมกล่อมเป็นอย่างดี
สรุปแล้ว The Menu - เมนูสยอง ถือว่าเป็น Fine Dining ที่หลากรสชาติและเซอร์ไพรส์ไม่ใช่เล่น อร่อยแต่ยังไม่อิ่มเท่าไหร่ แน่นอนว่ายังมีบางจุดที่ชวนสงสัยและไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่นับว่าเชฟรังสรรค์คอร์สนี้ได้อย่างสร้างสรรค์เลยทีเดียว ถือว่าเป็นคอร์สที่น่าลิ้มลองไม่ใช่เล่น
สรุปผลวิจารณ์หนัง