0 The+Little+Mermaid+-+%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%88%E0%B8%8D%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2

The Little Mermaid - เงือกน้อยผจญภัย

เข้าฉาย 25 พฤษภาคม 2566
ผู้ชม : 14,088
ผู้กำกับ : Rob Marshall
ความยาวหนัง : 135.00
Text Size

หนัง The Little Mermaid หรือชื่อไทยว่า เงือกน้อยผจญภัย เรื่องราวของแอเรียล ธิดาของราชาไทรตันแห่งโลกใต้สมุทร เธอฝันใฝ่อยากเป็นมนุษย์เดินดินและตกหลุมรักเจ้าชาย จนยอมแลกเสียงของเธอเพื่อให้รับมนตร์ให้กลายร่างเป็นมนุษย์สามวันและทำภารกิจเพื่อให้เจ้าชายจุมพิตรักแท้กับเธอให้ได้ The Little Mermaid ฉบับ Live Action กำกับโดย Rob Marshall ซึ่งเคยกำกับ Mary Poppins Returns , Pirates of Caribbean: On Stranger Tides นอกจากฮัลลีย์ เบลลีย์ในบทแอเรียลแล้ว ยังมี โจน่าห์ ฮาวเออร์-คิง รับบท เจ้าชายเอริค, เมลิซซ่า แมคคาร์ธีย์ รับบทเออซูล่า ฆาบิเอร์ บาร์เดม รับบทเป็นราชา ไทรทัน โดยหนังยังคงรูปแบบมิวสิคัล มีเพลงเก่าและเพลงใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 4 เพลง ผลงานของอลัน เมนเคน ร่วมกับ ลิน มานูเอล มิแรนด้า จาก Moana


A young mermaid makes a deal with a sea witch, to trade her beautiful voice for human legs so she can discover the world above water and impress a prince.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

31 พฤษภาคม 2566 19:29:11

ขอรีวิวในฐานะคนที่ไม่เคยดูเวอร์ชั่นอนิเมะมาก่อน.......
(ขออนุญาตบอกก่อนว่าดูเวอร์ชั่นไทย)

ถึงจะไม่เคยดูอนิเมชั่นมาก่อน แต่รู้จักแหละเคยเห็น เคยฟังซาวด์แทร็กทุกเพลง แล้วก็ได้ยินและติดตามมาก่อนที่หนังจะเข้าว่ามีดราม่าโน่นนี่นั่นเรื่องนางเอก ซึ่งเรื่องนี้ก็เข้าใจนะ คนดูการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กก็ย่อมต้องมีความคาดหวังว่า 1 2 3 4 ต้องแบบนี้ ๆ แต่ส่วนตัวก็มองว่าให้โอกาสผู้กำกับ ในเมื่อเขาออกมายืนยันแล้วว่า เขาเลือกมาได้ถูกคน เราก็พร้อมเชื่อและเข้าไปดูแบบไม่อคติ ทั้งยังเอาใจช่วยด้วยซ้ำ แต่......ไม่ถึงจริง ๆ ซึ่งเงื่อนงำในครั้งนี้ เราคิดว่า เป็นเรื่องของผู้กำกับมากกว่าตัวนักแสดง

บรรยากาศในหนัง

เข้าใจว่าผู้กำกับเคยทำ The pirates of the caribbean มาก่อน มันก็เลยแอบ ๆ มีไวบ์แบบนั้นมา ผสม ๆ กับความอควาแมนนิดหน่อย สรุปรวม ๆ คือ ยังไม่รู้สึกว่าหนังมีความเป็นตัวของตัวเองสูงพอทั้งที่การเอาการ์ตูนมิวสิคัลที่มีเพลงระดับตำนานมาทำ มันก็ควรไปได้มากกว่านี้หลายเท่า แต่ดูเหมือนยังขาดความปราณีตในการนำเสนอหลาย ๆ อย่าง

สิ่งที่ขัดใจไม่ใช่สีผิวนางเอก แต่เป็นทั้งหมดเลย รวมถึงพระเอกด้วย

ดูออกว่านักแสดงตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีที่สุดแล้ว โดยที่ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าน้อง Wanna be ด้วย แต่คิดว่าน่าจะมีปัญหาที่การกำกับการแสดงมากกว่า ความรักระหว่างพระเอกนางเอก เราไม่รู้สึกถึงมันเลย สายตาที่ทั้งสองส่งให้กันมันยังไม่ทำให้เราเชื่อจริง ๆ ว่ามีใจให้กันนะ ถ้าเรื่องก่อนหน้านี้อย่าง อะลาดิน เอออันนั้นเราเชื่อมากกว่า แล้วอะลาดินตัวพระเอกคือแสดงออกมาได้มีเสน่ห์จนเราอินแล้วเอาใจช่วยไปกับเขา แต่ The Little Mermaid พระเอกดูเรียบมาก ไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลย อย่างชอตที่เป็นเพลงโซโล่ ที่ทะเลาะกับแม่คือ การถ่าย ลำดับภาพต่าง ๆ ก็ไม่ส่งเสริมนักแสดงเลย ดูจืดมาก หรือนางเอกอย่าง แฮลลี เบลีย์ เราว่าเขาแสดงออกมาได้ดีนะ แต่ตัวหนังไม่ได้ส่งเขาขนาดนั้น บางชอตเหมือนจะแกงด้วยซ้ำ พอมันเป็นอย่างนี้ ตัวหลักดูดรอป อะไร ๆ มันก็ดูดรอปไปหมด กลายเป็นไปไม่ถึงจริง ๆ แต่โดยรวมไม่ได้แย่นะ แค่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น สิ่งที่มันดูพยายาม พยาย๊ามพยายามจริง ๆ ในหนังคือ เหมือนอยากจะเล่นประเด็นความขัดแย้งระหว่าง 2 โลก ก็แต่ดำเนินเรื่องมาแบบ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ถ้าโฟกัสไปที่ความขัดแย้งนี้เป็นหลัก แล้วสอดแทรกความรักอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ แต่ซีนสุดท้ายจะดีกว่า อิมแพคกว่าแน่นนอน

สิ่งที่ดูแล้วรู้สึกดีงามและน่าจดจำจริงคือ เออร์ซูร่า ทั้งสองร่าง ชอบมาก กับราชาไตรตัน ที่ออกไม่มาก แสดงไม่มาก แต่ดูขลังและมีเสน่ห์แม้ว่าฉากกับบรรยากาศในหนังไม่ได้สร้างให้เขาดูทรงพลังขนาดนั้น แต่ก็นั่นแหละ เรื่องของความปราณีตในการสร้าง แต่สายตาสีหน้า การแสดงของทั้งสองคนก็เหมาะสมกับความเป็นรุ่นใหญ่ดี และสิ่งที่แบกหนังเรื่องนี้จริง ๆ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ สัตว์ 3 ตัว เซบัสเตียน ฟาวเดอร์ สกัตเติล คือเดอะแบกแบบ ขั้นสุด ดีงามน่ารักตลกมากและโดดเด่นกว่าตัวหลักทั้งปวง ถ้าเข้าไปเพื่อดู 3 ตัวนี้ เราบอกเลยว่า คุ้ม

ส่วนถ้าใครอยากรู้ว่า โบกี้ ไลอ้อน ทำออกมาเป็นยังไง จริง ๆ ไม่ค่อยอยากวิจารณ์ตรงนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันไม่เข้ากับโบกี้จริง ๆ ส่วนตัวไม่คิดว่าโบกี้ต้องพัฒนาอะไร โบกี้เก่งอยู่แล้ว แค่เพลงเรื่องนี้มันไม่เหมาะกับเสียงหรือการร้องแบบโบกี้แค่นั้น ไม่ได้ประชดนะ 555 เดี๋ยวอธิบาย คือนึกออกไหม ? เราไม่ต้องไปบอกว่าโบกี้ต้องพยายามอีก หรือต้องพัฒนาอะไร เพราะเขาก้าวมาไกลถึงจุดที่เป็นศิลปินแล้ว โบกี้คือโบกี้ ไม่ต้องเป็นนางเงือก ไม่ต้องเป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นจะไม่บอกว่า โบกี้ทำไม่ได้หรือต้องปรับปรุงอะไร แต่เพลงนี้ไม่เข้ากับโบกี้ มันคือแค่นั้น โบกี้ยังเป็นเดอะเบสเสมอในทางของเขา

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
9
การดำเนินเรื่อง
3
ดนตรีประกอบ
10
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
7.2
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
26 พฤษภาคม 2566 13:54:12

The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย (Live Action)

ต้องขอบอกเลยว่ากระแสแรงจริง ๆ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Little Mermaid (Live Action) หรือ เงือกน้อยผจญภัย ฉบับคนแสดง ที่มีทั้งด้านลบและด้านบวก ในฐานะที่เราเองก็เป็นแฟนคลับแอนิเมชันของค่าย Disney มาตั้งแต่เด็ก จะบอกให้วางฉบับ ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ไปเลยก็ยังไงอยู่เพราะตัวเนื้อเรื่องเองก็ดำเนินไปแทบจะเส้นเดียวกัน เอาเป็นว่ามาดูกันที่เนื้องานกันดีกว่า

เริ่มกันที่งานภาพ เอฟเฟคภายในเรื่องต้องบอกว่าดีมาก ๆ สวยงามสมกับเป็นโลกแห่งท้องทะเล จังหวะช่วงเข้าเพลง Under the sea คืออลังการมาก ตามมาตรฐานดิสนีย์เลยแหละ แต่ต้องดูแบบปล่อยวางทุกอย่างจริง ๆ นะ (เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าพรสววรค์เงือกนั้นอาจจะทนทานกับพิษของแมงกะพรุนก็ได้นะ)  เสียดายตรงฉากปราสาท Atlantica ที่เปิดตัวมาไม่ได้สวยงามอลังการเท่าฉบับแอนิเมชันเท่าไรนัก แต่ที่ชอบมากที่สุดต้องเป็นฉากในถ้ำของ Ursula เราชอบการเล่นแสง สี เวทย์มนตร์ในถ้ำมาก ๆ ดีหมดเลย ยิ่งพอช่วงเพลง Poor unfortunate souls ที่ได้ Melissa McCarthy เป็นผู้รับบท Ursula และขับร้องเองด้วย  คือสุดมาก ทั้งการแสดงสีหน้า ท่าทาง เราขนลุกตามเลย เทียบกับเวอร์ชั่นแอนิเมชันคือได้อารมณ์กว่าเล็กน้อยด้วย

เส้นเรื่องของภาพยนตร์ The Little Mermaid มีการเสริมเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วก็คือดำเนินเรื่องเหมือนกันกับฉบับแอนิเมชันปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) แทบทุกระเบียดนิ้ว มีการเสริมบทเพื่อเพิ่มความมีมิติมากขึ้น แต่ไม่ได้ขาดไปจากเดิมเท่าไร และตัว Halle Bailey ผู้รับบท Ariel เองก็ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่าในเรื่องการแสดงของเธอนั้นทำได้ดีเกินกว่าที่คาดหวังไว้มากจริง ๆ ถึงแม้จะมีบางอารมณ์ที่เธออาจจะยังเข้าถึงไม่สุด ไม่ค่อยอินเท่าไร โดยเฉพาะฉากตรงโขดหิน มันดูแปลก ๆ ไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้แย่อะไรนัก  ไม่ต้องพูดถึงเรื่องร้องเพลงเลยด้วย เพราะเธอทำได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว ยิ่งเพลง Part of Your World คือเสียงดีสุด ๆ ยิ่งได้มาดูในโรงบอกเลยว่าความรู้สึกแตกต่างจากตอนฟังเพลงที่ทาง Disney ปล่อยมาก่อนมาก  

เคมีของแอเรียลกับเจ้าชายอีริค (Jonah Hauer-King) ก็ดีอยู่และมีการเพิ่มบทเสริมเรื่องความสัมพันธ์ตัวละคร ทั้ง 2 คนนี้ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่เจอหน้ากันแล้วรักกันเลย แต่มีการค่อย ๆ สร้างความสัมพันธ์กันไป  เสียดายราชาไตรตันในฉบับภาพยนตร์ยังดูไม่ค่อยยิ่งใหญ่เท่าไร ดูขาดพาวเวอร์ไปหน่อย แต่ชอบโมเม้นท์ของไตรตันกับเซบาสเตียนมาก แอนิเมชันเป็นยังไง ฉบับภาพยนตร์ก็คล้าย ๆ กัน แต่ฉบับแอนิเมชันจะดูขี้เล่นเป็นกันเองกับเซบาสเตียนมากกว่า แต่ถ้าพูดถึงโมเมนท์ที่สนุกสุดในเรื่องก็ต้องแก๊งค์ 3 ช่า เซบาสเตียน ฟลาวเดอร์ และสกัตเติ้ลน่ารักและฮามาก โบ๊ะบ๊ะกันสุด ๆ ในเพลง Kiss the girl ที่เรียบเรียงมาใหม่ก็ดีมาก เสียดายว่าฉากนี้มืดไปหน่อย

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าภาพยนตร์ The Little Mermaid ทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่คาดหวังไว้มาก โดยเฉพาะ Hailly Bailey ที่แม้จะมีบางจุดที่อาจจะต้องแก้ไขเรื่องการแสดงออกทาง สีหน้า สายตาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าทำได้ดีเกินกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว แต่ถ้าพูดถึงตัวภาพยนตร์โดยรวมแล้วก็ถือว่าดีนะแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นมากมายเท่าไรนัก คือมันต้องได้ลองเปิดใจจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
7.6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)