The Flash - เดอะ แฟลช
หนัง The Flash หรือชื่อไทยว่า เดอะ แฟลช เมื่อโลกมาปะทะกันใน "เดอะ แฟลช" เมื่อ แบร์รี่ ใช้สุดยอดพลังของเขาเพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต แต่เมื่อความพยายามของเขาในการจะช่วยเหลือครอบครัวของตัวเองได้เปลี่ยนแปลงอนาคตไปอย่างไม่ตั้งใจ แบร์รี่ ต้องมาพบกับโลกแห่งความเป็นจริงที่ นายพลซ็อด กลับมา พร้อมกับคำขู่ของการทำลานล้างโลก และไม่มีซูเปอร์ฮีโร่คนไหนที่เขาจะไปของความช่วยเหลือได้เลย เว้นแต่ว่า แบร์รี่ จะสามารถเกลี้ยกล่อม แบทแมน อีกคนหนึ่งในกลับมาจากวัยเกษียณของเขาได้ และช่วยเหลืาวคริปโตเนี่ยนที่ถูกจองจำไว้ แม้ว่าทั้งสองจะไม่ใช่คนที่เขาตามหาอยู่ก็ตาม เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการที่จะช่วยเหลือโลกที่เขาอาศัยอยู่และกลับไปยังอนาคตที่เขารับรู้ ความหวังเดียวของ แบร์รี่ คือการเอาชีวิตของตนเองเข้าแลก แต่ว่าการเสียสละอย่างใหญ่หลวงครั้งนี้จะเพียงพอที่จะรีเซ็ตจักรวาลใหม่หรือไม่ ?
The Flash Feature film based on the comic book superhero, The Flash.
อยากจะเท้าความซักเล็กน้อยเกี่ยวกับจักรวาล DC นี้ ตั้งแต่เริ่ม Man of Steel มันก็ 10 ปีมาแล้ว ตอนนั้นพอได้เห็นครั้งแรกก็ "เอ้อ ซุปเปอร์แมนมันต้องแบบนี้สิ !" แล้วพอได้ดูจริง ๆ มันไม่ได้ดีเวอร์ แต่มันดีมาก มากจริง ๆ ไม่ผิดหวัง จนมา BVS ตอนดูจบ ก็ดีนะแต่แอบแปร่ง ๆ แต่ได้ดูตัวเต็มแล้ว เออ มันดีเลยแหละ ถ้าเทียบกับการที่ค่ายบีบให้รีบทำ รีบยัดเพื่อจะได้ตามมาร์เวล เราว่าแซคทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะแบทแมน บู๊ได้สุดมาก รู้สึกว่าเป็นฉากบู๊ที่ดีที่สุดของแบทแมนที่มีมา และเป็นฉากบู๊ที่ดีที่สุดอันนึงของโลกภาพยนตร์เลยสำหรับเรา แล้วนี่ก็ไม่ได้รู้สึกติดอะไรนะที่เอาประเด็นแม่ชื่อเดียวกันมาเล่น เพราะเขาปูมาแต่แรกแล้วว่าบรู๊ชรู้สึกอยากแก้ไขสิ่งที่มันแก้ไม่ได้ ติดอยู่กับอดีต คือปูเรื่องพ่อแม่ตายมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ถึงได้มาเป็นแบทแมน พอมาจุดนึงคนที่กำลังจะฆ่ามนุษย์ต่างดาวที่ดันมีแม่เหมือนกัน ที่แม่กำลังจะตายเหมือนกันอีก เราว่าตรงนี้เราชอบมาก ติดแค่ฟิลตอนที่บอกว่าจะไปช่วยมาธ่าเอง มันดูเฟรนลี่กับซุปเร็วไปหน่อย น่าจะแอค ๆ นิดนึง แต่ก็โอเค เพราะบทสรุปของซีนนั้นคือ ฉากกระทืบฝ่ายร้ายที่โหดสัส อารมณ์เหมือนได้กระทืบคนที่ฆ่าแม่ตัวเอง มันก็สมเหตุสมผลแล้ว ตอนหยุดสู้กับซุปก็ เออ ๆ โอเค เก็ท ๆ แต่เฉย ๆ แต่พอมาตอนไปช่วยแม่ เออ กูเชื่อละ 555 โหดจริงพ่อ
มาจนถึง จัสติซลีก 2017
ก็แบบ...... มึงหนังไม่กี่เรื่องเองมารวมทีมละ อ่า ๆ ๆ ..... ก็เข้าไปดูด้วยความตื่นเต้น เชียร์อัพเต็มที่ พอดูจบมาก็แบบ อืม ก็สนุกดีนะ พยายามหาข้อดี คิดไปหลายวัน หลายตลบ เออแม่งเละแหละ สุด ๆ อะ 5555 แต่ตอนนั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไร พอผ่านไปนาน ๆ พอได้ติดตามจากเพจหนังบ้างอะไรบ้าง เลยได้ยินว่า จริง ๆ มันคือ แซคไม่ทำต่อเพราะมีปัญหาต่าง ๆ ทำให้ต้องออกกลางคันแล้วค่ายเอา ผผก. อเวนเจอร์มาทำต่อ แล้วเขาแก้บทแล้วถ่ายใหม่เยอะมาก พอได้รู้เรื่องแบบนี้ เลยติดตามมาเรื่อย ๆ เลยได้รู้ว่า จริง ๆ มันมีเวอร์ชั่นที่แซคถ่ายเสร็จหมดแล้ว แต่ไม่ได้ออกมาปล่อย เราก็ตามอ่านจนเจอว่าแฟน ๆ ได้มีการเรียกร้อง มีติดแฮชแท็ก #releasethesnydercut กันมาตลอด จนในที่สุด 2021 อาจจะด้วยช่วงโควิดด้วย บวกกับพลังของแฟน ๆ สุดท้ายเราได้ดูเวอร์ชั่นนั้นจริง ๆ ซึ่งมันเหลือเชื่อมากนะเพราะโดยหลักมันไม่มีทางหรอก แต่ได้ดูจริง ๆ ตอนนั้นก็อยากดูมากสมัคร HBO GO รอเลยแต่ในใจก็คิดว่า มันคงไม่ได้มีอะไรต่างกันมากหรอก ก็คงดำเนินไปแบบเดิมแค่มีฉากที่ถูกตัดออก แบทแมนก็คงเน่า ๆ แบบเดิม คงประมาณนั้น แต่..... พอได้ดูจบ ตอนนั้นร้องไห้หนักจริง ๆ หนังมันยาวเหมือนมินิซีรี่ย์ เส้นเรื่องคล้าย ๆ เดิม แต่องค์ประกอบ บทพูดอะไรต่าง ๆ มันไม่ใช่เลย จำได้ว่าตอนดู 2017 ในโรง ฉากที่มาประชุมว่าจะปลุกซุปเปอร์แมน แล้วแบทแมนทะเลาะกับวันเดอร์วูแมนแล้วไปแขวะเรื่องแฟนเขาอีก ตอนนั้นแบบ อะไรวะ นี่หรอแบทแมนกู แต่พอมาดูสไนเดอร์คัท ฉากประชุมนั่นมันแบบ ดูแล้วร้องไห้เลย เพราะมันไม่ใช่แบบที่เรา ๆ เคยดูกันมาสักนิด มันทั้งทรงพลัง เพลงประกอบทรงพลัง ทั้งที่ทุกคนมาคุยเรื่องซุปเปอร์ทรงพลัง แต่ทุกคนที่ยืนในนั้นดูทรงพลังและโดดเด่นเท่า ๆ กันได้ทุกคน ทั้งบทพูด ทุกอย่าง มันคนละเรื่องกับของ จอช วีดอนเลย ดูซีนนั้นจบต้อง Pause มานั่งร้องไห้ จนดูไปถึงตอนจบ อันนี้พีคสุดละ จริงอยู่ว่ามันจบแบบเดิมคือภารกิจสำเร็จ แต่ "วิธีการที่มันจบในแซค สไนเดอร์คัท" อันนี้ไม่รู้เป็นคนเดียวรึเปล่า แต่บอกเลยว่าตอนแฟลชวิ่ง ร้องไห้ปล่อยโฮเลย จากจุดต่ำสุดที่เข็นกระบะใน เวอร์ชั่น 2017 มันเป็นแบบที่มันควรจะเป็นจริง ๆ ของมัน แล้วเป็นว่าแฟลชวิ่งเข้าสปีดฟอร์ซ ตอนดูถึงซีนนั้นคือพูดไม่ออก หายใจไม่ออกด้วยเพราะร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล นี่คือพลังของแฟน ๆ ที่เขาเชื่อมั่นในตัวแซค คือพลังความศรัทธาจริง ๆ ที่ต่อสู้จนได้ดูซีนนี้ มันสุดยอดมากจริง ๆ ทั้งเพลงธีมของแฟลชทั้งงานภาพ รู้สึกอินกับแฟลชมากจริง ๆ ตอนนั้นมันบอกไม่ถูก แล้วหลังจากนั้นก็ดาวน์ไปอีกเพราะคิดว่า จักรวาลนี้จะไม่ได้ไปต่อ สุดท้ายก็ต้องทำใจจริง ๆ ว่าวาสนามีเท่านี้
มาเข้าเรื่อง The Flash
ตั้งตารอดูอยู่แล้ว เพราะความอินในตัวแฟลชจาก Zack Snyder's Justice League ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ จะไม่พูดอะไรมากอยากให้ไปดูเอง จะบอกแค่ว่า ต่อให้ไม่อินจัสติซลีก 2021 แบบผม คุณก็ยังสนุกไปกับหนังได้แบบเต็มที่และอิ่มเอม หนังมันทั้งฮา สนุก ตื่นเต้น เศร้า แม้ว่าซีจีในหนังมันอาจจะไม่ได้ดีมากขนาดนั้น แต่ส่วนตัวที่ชอบดูซีจีระดับเทพ ก็ยังรู้สึกไม่ติดเลยนะ เพราะความสนุกของหนัง,เนื้อเรื่องต่างๆ มันกลบเรื่องแย่ ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปหมดเลย
แบทแมนคีตัน ซุปเปอร์เกิร์ล แบทแฟลก โดนเด่นมาก แต่หนังก็ยังเป็นหนังเดอะแฟลชอยู่แบบเต็มเหนี่ยว แบทแมนคีตันเท่มาก ฉากบู๊นี่ คือเท่ไม่แพ้แบทแฟลก BVS เลย เรานึกถึงกระแสที่มีภาพเบื้องหลังซุปเปอร์เกิร์ลออกมาแรก ๆ แล้วคนขำกันไหม ? พอฉากแรกที่ซุปเปอร์เกิร์ลออกมาสู้ นี่ก็เริ่มน้ำตาไหลละ เพราะมันออกมาดีเกินคาดไปแบบไกลมา ๆ ผิดกับกระแสด่า เราเห็นในเทรลเลอร์ว่าเท่แล้ว ในหนังยิ่งเท่เข้าไปอีกหลายเท่า แล้วก็ดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกสะอื้นแล้วก็ร้องไห้ให้กับหนังเรื่องนี้เรื่อย ๆ ให้กับความดีงาม ให้กับเนื้อเรื่อง ให้กับการอำลาจักรวาลแซคที่เราจะไม่ได้มีโอกาสเห็น JL2 และสุดท้ายไม่อยากสปอยมาก ตั้งแต่ต้นจนบทสรุปของเรื่องนี้สามารถทำให้คุณต้องเสียน้ำตาได้ไม่ยากเลย
ปล.ไปดูกันนะครับ ดู IMAX ได้โปสเตอร์ด้วย
สรุปผลวิจารณ์หนัง