Men in Black International - หน่วยจารชนสากลพิทักษ์โลก
หนัง Men in Black International หรือชื่อไทยว่า เอ็มไอบี หน่วยจารชนสากลพิทักษ์โลก Men In Black: International หนังไซไฟคอเมดี้เรื่องนี้ได้ Chris Hemsworth และ Tessa Thompson นักแสดงคู่หูจาก Thor: Ragnarok กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในบท เจ้าหน้าที่ H และ M โดยเรื่องราวจะเป็นการแก้ไขคดีฆาตกรรมลึกลับที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และมีความเกี่ยวพันกับเหล่าเอเลี่ยนที่อาศัยอยู่บนโลกด้วย ในภาคนี้นักแสดงหลักอย่างภาคก่อนอย่าง Tommy Lee Jones และ Will Smith จะไม่กลับมา แต่ทั้งคู่ก็ยังอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับหนังเรื่องนี้ โดยหากเราสังเกตดีๆในตัวอย่างเราจะเห็นรูปภาพของพวกเขาอยู่ด้วย
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
Men in Black International 2019
เตรียมใจก่อนดูว่ามันต้องไม่ดีแน่ๆ แต่คงดูได้เพลินๆ แต่พอดูจบคือมันทั้งไม่ดีและแทบไม่เพลิน
หนัง MIB ภาคนี้ส่วนตัวแล้วชอบแค่ฉากเปิดเรื่องเท่านั้นนอกนั้นเละเทะหมดเลย เนื้อเรื่องไม่น่าติดตาม ตัวละครเราก็ไม่อินไปกับมัน ฉากสู้ทำได้ไม่ดี Soundที่ใช้ในหนังก็ไม่บิ้วอารมณ์ในฉากดีๆ เลยสักฉาก ความแปลกใหม่จากภาคก่อนๆ ก็แทบไม่เห็น (ภาคก่อนๆ เราจะตื่นเต้นกับอุปกรณ์ที่ดูทันสมัย แต่ภาคนี้เหมือนเอาของที่ทันสมัยในสมัยก่อนกลับมาเล่าในยุคที่หนังอื่นๆ มันล้ำไปแล้ว ทำให้แทบไม่ตื่นเต้นอะไรเลย)
ภาคนี้พยายามขยายจักรวาลของ MIB ให้เป็น International แต่มันก็ยังธรรมดาครับไม่มีเสน่ห์หรือแรงดึงดูให้เรารู้สึกว้าวสักเท่าไร จริงๆ คือมันยังดูไม่ยิ่งใหญ่พอ
นักแสดงอย่าง Chris Hemsworth การแสดงในภาคนี้มันดูติดๆ ขัดๆ เหมือนตัวละครมีบุคลิกที่แปลกๆ ขัดกับบุคลิกตัวเอง ทำให้แทบไม่อินกับตัวละครหลักตัวนี้เลย ส่วน Tessa Thompson แสดงได้โอเคนะ แต่ตัวบททำให้ตัวละครนี้มันธรรมดา แต่ก็แสดงคู่กันได้อย่างเคมีลงตัว (ทำให้นึกถึง Thor ขึ้นมาทันที)
สำหรับ Liam Neeson ที่รับบทเป็น Agent High T แสดงได้ดีสุดๆ สีหน้าท่าทางบ่งบอกความรู้สึกของตัวละครนี้ได้ดีแต่ที่แย่คือบท ช่วงท้ายยอมรับว่าบทไม่โอเค
ตัวบทและเนื้อเรื่องเดินเป็นเส้นตรงมาก พร้อมตัวละครบางตัวปูทางมาดีมากๆ แต่ตัวบทลากไปจบแบบงงสุดๆ ความตื่นเต้น ความสนุกแทบหาไม่ได้เลยจากหนัง MIB ภาคนี้
ยอมรับว่าตัวเองต้องทนดูจนจบ แทบจะหาที่ดีของหนังไม่ได้เลย โดยส่วนตัวคือไม่ชอบจริงๆ ไม่รู้จะหาคำชมยังไงเลยละครับ ทั้งผิดหวัง ทั้งเสียดายที่หนังได้นักแสดงดังๆแต่หนังออกมาเป็นแบบนี้
สุดท้าย รีวิวเป็นความคิดส่วนตัวของผม หนังจะสนุกหรือไม่สนุกอยู่ที่คนดูแต่ละคนครับ ยังไงก็อยากให้ไปตีตั๋วดูกันนะครับ แฟน MIB ก็ต้องไม่พลาดเน้อ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
[รีวิว] Men in Black International
--- 6.9/10 ---
อาจสู้ต้นฉบับไม่ได้ แต่ก็เพลินในระดับนึง
คู่พระ-นาง ชวนให้นึกถึงโมเม้นต์ใน Thor: Ragnarok จริงๆ
Men in Black International เป็นหนังภาคต่อของแฟรนไชส์ MIB ที่ภาคสุดท้ายทิ้งไว้เมื่อปี 2012 ที่ในภาคนี้ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวของภาคที่ผ่านมาเท่าไหร่ มีเพียง Easter Egg เล็กๆ ปรากฏเท่านั้น ซึ่งภาคนี้เลือกที่จะเล่าเรื่องราว MIB สาขา London แทน
มาพูดถึงตัวนักแสดงกันก่อนเลย เพราะน่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดใครหลายคนให้มาดูเรื่องนี้ ด้วยความที่เคมีอันลงตัวของ Chris Hemsworth กับ Tessa Thompson จากใน Thor: Ragnarok จึงทำให้ทั้งคู่ได้มาแสดงนำร่วมกันในหนังเรื่องนี้ และก็ดูเคมีเข้ากันเหมือนเดิม
Chris Hemsworth ก็ยังแสดงเหมือนกับ Thor ไม่มีผิดเพี้ยน แถมลุคในชุดสูทนี่หล่อโฮกกกก ส่วนทางด้าน Tessa Thompson อาจจะดูไม่ดุดันเท่า Ragnarok ค่อนข้างจะไปทางเนิร์ดๆ มากกว่า ทั้งคู่เข้าฉากกันได้ฮาในระดับหนึ่ง แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันยังไม่ดูไม่เข้าขา หรือยิงมุก ตบมุกกันได้ฮา แบบใน Thor: Ragnarok สักเท่าไหร่ อาจจะเพราะด้วยบทที่ไม่เอื้ออำนวยหรืออะไรก็ตาม แต่มันก็ยังพอให้ยิ้ม ตลกได้ในหลายๆ ฉาก ส่วนตัวแอบคิดนะว่าถ้าเป็น Chris Hemsworth กับ Tom Hiddleston น่าจะลงตัวกว่านี้มาก ชอบสองคนนี้เข้าฉากในหนัง Marvel สุดๆ แต่ตัวละครที่ส่วนตัวแล้วคิดว่าฮากว่าคู่พระ-นาง คือองค์รักษ์ตัวจิ๋ว ที่ขโมยซีนแบบสุดๆ เรียกได้ว่าอ้างปากทีมีฮาแน่นอน
ทางด้านเนื้อเรื่องโดยรวมไม่ได้หวือหวา ดำเนินหนังเรียบง่าย ดูได้เพลินๆ ตามสไตล์หนัง Blockbuster ทั่วๆ ไป ยังคงมีความเป็น MIB ในภาคเก่าๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยความสนุก+มุกตลก แต่ก็ยังขาดเสน่ห์น่าดึงดูดไปซะหน่อย โดยรวมแล้วมันยังสู้ต้นฉบับไม่ได้อยู่ดี ดูดร็อปลงไปเยอะเหมือนกัน รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ไม่ได้ชวนว้าว หรือแม้กระทั่งการอยู่ร่วมกันในสถานที่ต่างๆ บนโลกของมนุษย์กับเอเลี่ยน ก็ไม่ได้ชวนว้าวเหมือนภาคก่อนๆ แต่ก็ยังดี ที่หนังพยายามขยายโลกของ MIB ให้กว้างขึ้น ถึงแม้เราจะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นแค่น้อยนิดก็ตาม
สรุปแล้ว Men in Black International เป็นการขยายโลก MIB (นิดนึง) ที่ดูได้เพลินๆ ไม่จำเป็นต้องไล่ดูภาค 1-3 มาก็รู้เรื่องไม่งงแน่นอน กึงๆ เป็นภาคต่อ กึ่งๆ รีบูทเช่นกัน ใครยังติดใจและคิดถึงเคมีของคู่พระ-นางจาก Thor: Ragnarok ก็ต้องไปดูกันในเรื่องนี้แหละ
ปล. มีฉาก Cameo ของดาราไทยด้วยนะเออ โดยในฉากนี้ดาราจะเปลี่ยนไปตามแต่ละประเทศที่เข้าฉาย
สรุปผลวิจารณ์หนัง
MIB International เหล้าเก่าในขวดใหม่!
นับตั้งแต่ภาคก่อนที่ฉายไปเมื่อปี 2012 ซึ่งในภาคนี้ได้ปิดไตรภาคของ สายลับ K และ J ไปสมบูรณ์แล้ว ทำให้ในการสร้างภาคใหม่นั้นคงต้องมีการมองหาตัวละครใหม่ มาสานต่อแฟนไชร์บุรุษชุดดำนี้ จนกระทั่งทางผู้สร้างได้ชม Thor Ragnarok ได้เห็นเคมีระหว่าง Chris Hemsworth และ Tessa Thompson จึงทำให้ภาคที่ 4 ของ MIB ได้เริ่มงานสร้างกันซักที
ตัวหนังภาคนี้เป็นการเล่าเรื่องในจักรวาลเดิม โดยมีตัวละคร สายลับ O (Emma Thompson) ที่เป็นผู้อำนวยการของสาขานิวยอร์ค ได้ถูกค้นพบโดย มอลลี่ (Tessa Thompson) ที่สมัยเด็กเธอเคยพบเห็นเอเลี่ยนมาก่อน จึงได้ออกตามหาองค์กรนี้มาตลอด 20 ปี เพราะเธออยากเป็นแบบ MIB ซึ่งพอเธอได้ค้นพบแล้วเธอจะต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ได้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำของ MIB จึงถูกส่งไปทำภาระกิจที่สาขาลอนดอน และได้ช่วยเหลืองานของ สายลับ H (Chris Hemsworth) ในคดีที่มีโลกเป็นเดิมพัน
จุดเด่นในภาคนี้ต้องบอกตรงๆ เลยว่ามีความพยายามที่จะขยายโลกของ MIB ให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นตามชื่อตอน International โดยเนื้อเรื่องไม่ได้มีการเดินเรื่องในเมืองๆ เดียว แต่จะตะลุยไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงเคมีของ Christ กับ Tessa ก็เข้าขากันดีมาๆ ทำให้หนังสนุกน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องจริงๆ
จุดด้อยในภาคนี้คงหนีไม่พ้นด้วยความที่ภาค 1-3 นั้นทำออกมาไว้ดีมาก จนยากที่จะทำให้ได้ทีเท่าเทียบของเดิมที่ลงตัวทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตัวบท นักแสดง และอื่นๆ ที่เรียกได้ว่ากลมล่อมตลอด 3 ภาคเลยก็ว่าได้ แต่ในภาคใหม่นี้ โดยรวมถึงมันจะดูสนุกเพลินๆ อยู่ มันก็จะมีบางช่วงที่ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเรื่องเร็วไป หรือช้าไป ไม่ได้มีความกลมกล่อมเท่าของเดิมเท่าไหร่
สรุปแล้วถึงแม้ว่ามันจะยังสู้ของเดิมไม่ได้แต่ก็เป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่ดูแล้วสนุกเพลินๆ บันเทิงตามหน้าหนังอยู่ครับ อีกทั้ง Cameo ของดาราไทย ในหนังเรื่องนี้ด้วย (โดยแต่ละประเทศจะมีการปรับเปลี่ยนดารา Cameo โดยใช้ดาราของแต่ละประเทศ) ทำเอาเซอร์ไพร์สอยู่ไม่น้อย 7.5/10
เข้าไปดูเพราะพระเจ้าธอร์กับนักรบวัลคิวรี่เลย...
รู้จักจักรวาลนี้น้อยมากๆ เคยดูแต่เวอร์ชั่นการ์ตูนเมื่อสมัยเด็กๆ เลย ไม่เคยดูหนังภาคก่อนหน้านี้ด้วย
ฟิลลิ่งคล้ายๆดูคิงส์แมน หน่วยสายลับขี้โม้ๆ หน่อยๆ ผสมกับหนังเอเลี่ยนต่างดาว ถูกนำมาเล่าเรื่องใหม่ มีใต้บรรทัดเกี่ยวกับการอพยพในยุโรป(ซึ่งน่าจะอิงเรื่องการเมืองการลี้ภัยของชาวซีเรียในยุโรปประมาณนึง) แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรมาก เป็นแค่เรื่องการตีความใต้บรรทัด ส่วนตัวคิดว่าสนุกอยู่ประมาณนึง แต่หากเปรียบเทียบกับคิงส์แมนก็น่าจะชอบคิงส์แมนมากกว่า ด้วยจังหวะหนัง การเล่าเรื่อง การขี้โม้ที่เล่นใหญ่กว่า หากเบี่ยงไปทางหนังอวกาศแนวนี้ก็ยังไม่ได้คลูเท่าไหร่ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องวาเลเรียนของลุค เบซงทำไว้ได้สนุกกว่าเยอะ
กลับมาที่การแสดงของคริส แฮมเวิร์ธกับเธสซ่า ทอมป์สัน (จากธอร์ภาคสาม:แรกนาร็อค) สำหรับคริสน่าจะเล่นเป็นตัวเองเสียเยอะ อารมณ์การแสดงคาแรกเตอร์คล้ายๆกับในเรื่องธอร์มากๆ หล่อๆกวนๆมาดเท่อวดเก่ง แต่มีฉากที่สาวๆน่าจะชอบอยู่เยอะเลย ส่วนนักรบวาคิวรี่ก็เล่นได้แข็งแกร่ง มาดเท่ และดูกวนๆพอๆกัน เรื่องจะนำด้วยเธสซ่ามากกว่าคริสต์
ส่วนงานโปรดักชั่นก็ว้าวอลังการงานสร้างสมกับทุนสร้างที่สูงอยู่ ดูแล้วก็สนุกดีคุ้มค่าตั๋วอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นจดจำอะไรมาก ทั้งเพลง ทั้งซีจี ไม่ค่อยประทับฝังใจอะไรเท่าไหร่
สรุปว่าเป็นหนังดูง่ายๆ นำแสดงโดยพระเจ้าธอร์และนักรบวัลคิวรี่ เป็นหนังสายลับปราบเอเลี่ยนพิทักษ์โลกที่พอดูแล้วเอ็นเตอร์เทนได้อยู่ คุ้มค่าตั๋วไม่ผิดหวัง
สรุปผลวิจารณ์หนัง