0 Ford+v.+Ferrari+-+%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C+%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%8C

Ford v. Ferrari - ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์

เข้าฉาย 5 ธันวาคม 2562
ผู้ชม : 22,239
ผู้กำกับ : James Mangold
ความยาวหนัง : 155.00
Text Size

หนัง Ford v Ferrari หรือชื่อไทยว่า ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์ จากเรื่องจริงสุดเหลือเชื่อ! สู่ภาพยนตร์แอคชั่น-ชีวประวัติ "Ford v Ferrari" เรื่องจริงของการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์อย่าง ฟอร์ด (Ford) และเฟอร์รารี่ (Ferrari) ในการแข่งขันรถซิ่งระดับโลก เลอม็องส์ (Le Mans) เมื่อปี 1966 "Ford v Ferrari" กำกับฯโดย เจมส์ แมนโกลด์ ที่นอกจากนี้ยังได้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับ เจสัน เคลเลอร์, เจส บัตเตอร์เวิร์ธ และจอห์น-เฮนรี่ บัตเตอร์เวิร์ธ โดยได้ คริสเตียน เบล และแมตต์ เดมอน มารับบทนำ พร้อมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง อาทิ จอน เบิร์นธัล, ไคทริโอน่า เบลฟ์, เทรซี่ เลตต์, จอช ลูคัส เป็นต้น


หนัง Ford V. Ferrari หรือชื่อไทยว่า ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์ American car designer Carroll Shelby and driver Ken Miles battle corporate interference, the laws of physics and their own personal demons to build a revolutionary race car for Ford and challenge Ferrari at the 24 Hours of Le Mans in 1966.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

13 ธันวาคม 2562 11:26:17

Ford v Ferrari 

ยอมรับว่าครั้งแรกที่ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่สไตล์หนังที่ชอบดูเลยจริงๆ แต่ด้วยความที่หาอ่านรีวิวจากนักวิจารณ์แล้วคะแนนเทไปทางดีมาก ดีจริงๆ จนเป็นส่วนที่จุดประกายให้ซื้อตั๋วเข้าไปชมเรื่องนี้

เรื่องราวว่าด้วยสมัยนั้นเจ้าแห่งรถแข่งอย่าง Ferrari มีผลประกอบการที่ย่ำแย่ จน Ford อย่างจะเทคโอเวอร์แต่สุดท้ายแล้วก็โดน Ferrari ปั่นราคาแล้วไปขายให้บริษัทอื่นทำให้ตัวเจ้าของ Ford เองนั้นเสียหน้าเป็นอย่างมากจนอยากจะเอาคืน ด้วยการสร้างรถแข่งขึ้นมาแข่งในนามเพื่อให้ชนะ Ferrari ให้จงได้ นี่คือชนวนสงครามชิงเจ้ารถแข่งในยุคนั้น

หลังจากได้ดูจบแล้วรู้สึกได้เลยว่าเรื่องนี้มีความตั้งใจนำเรื่องราวจริงๆ มาถ่ายทอดให้สนุกขึ้นในมุมมองของภาพยนตร์ ทำให้น่าติดตามและเอาใจช่วยทีมงานของ Ford ให้สร้างรถแข่งให้สำเร็จ รวมไปถึงหมั่นไส้นายทุน หรือผู้บริหารบางคนที่พยายามที่จะเตะตัดขา หรือดิสเครดิตทีมงานผู้อยุ่เบื้องหลังการพัฒนารถแข่งให้ Ford ในยุคนั้น จนบางครั้งอาจมีเอาเรื่องราวในหนังไปเทียบกับชีวิตจริงของแต่ละคนได้เลยก็มี ทำให้ในส่วนนี้คนดูอินจัดและอินหนักมากจริง (ผมเองก็อิน 55) ยิ่งทำให้ดูหนังสนุกขึ้นถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนังสไตล์ที่ชอบดูก็ตาม

สรุปแล้ว Ford v Ferrari เป็นหนังที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เอามาดัดแปลงให้เกิดความสนุก (แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องราวจริงๆ ออกไปมาก) ซึ่งสามารถทำให้คนดูลุ้น อิน เอาใจช่วยตัวละครตลอด 2 ชั่วโมงที่หนังเล่า และปิดท้ายด้วยความอึ้งเบาๆ ก่อนหนังจบ ที่บางคนอาจจะเสียน้ำตาให้ในพาร์ทนี้ของหนังเลยทีเดียว 9/10

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
9.5
การดำเนินเรื่อง
9
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9.5
คะแนนเฉลี่ย
9
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
9 ธันวาคม 2562 00:12:33

Ford V Ferrari

   ถ้าให้เลือกแนะนำหนังในปี 2019 เรื่องแรกที่จะแนะนำก็คือ Ford V Ferrari เพราะว่ามันดีมาก ตลอดสองชม.นิดๆ บอกเลยว่าแทบกระพริบตาไม่ได้ หนังสนุกมาก ลุ้นทุกฉาก (ขนาดฉากดราม่ายังต้องลุ้น) แถมยังหักมุมไปมาตลอดทั้งเรื่อง

สำหรับผมที่ไม่รู้เรื่องรถ ไม่รู้เกี่ยวกับการแข่งรถเลย บอกเลยว่าเซอร์ไพร์สกับหนังเรื่องนี้มาก ไม่คิดว่าจะอินกับหนังได้ขนาดนี้ เป็นหนังที่เหมาะกับทุกคนจริงๆครับ ไม่จำเป็นจะต้องชอบรถ ก็สามารถดูได้ อีกอย่างตัวหนังก็ไม่ได้พูดถึงแต่การแข่งรถ ยังพูดถึงการทำงาน ชีวิตครอบครัว เพื่อน และอีกหลายๆด้านที่หนังนำเสนอ ซึ่งมันครบรสมาก 

 นักแสดงยังจัดเต็มด้วยซุปเปอร์สตาร์อย่าง Matt Damon และ Christian Bale สำหรับ Matt Damon แสดงเป็น Shelby นักขับผู้ชนะการแข่ง Le Mans 24ชั่วโมง แต่ไม่สามารถแข่งต่อได้เนื่องจากสุขภาพ และหันมาทำอาชีพขายรถ หลังจากนั้นก็ได้พบกับ Ken Miles ที่นำแสดงโดย Christian Bale ที่แสดงศักยภาพการขับรถให้เห็น และเมื่อ Ford ตั้งใจจะเริ่มหันมาทำรถแข่ง Ken Miles จึงเป็นตัวเลือกแรกของ Shelby ที่จะให้มาร่วมทีม 

Christian Bale ในเรื่องนี้แสดงได้ดีมากๆ เป็นตัวละครที่อินมากๆ แสดงได้ถึงบทบาทสุดๆ และพี่แกก็ยังลดน้ำหนักเพื่อมารับบท Ken Miles ด้วย (พี่แกได้ฉายาการเพิ่มลดน้ำหนักอยู่แล้ว ถ้าไม่รู้ลองดูหนังเรื่อง The Machinist เรื่องนั้นแกลดน้ำหนักจนเหลือแต่กระดูก) ผมชอบการแสดงของเบลมากๆ ทุกฉากแกทุ่มเทมากๆ ฉากขับรถก็ทำได้ดี คือพี่แกเล่นดีมากกกกก

ฉากขับรถ หนังทำได้สมจริง ทั้งเสียง ทั้งท่าทางการขับรถ คือดีสุดๆ ส่วนฉากอื่นๆ หนังก็ทำได้ดี โดยเฉพาะฉากดราม่า ไม่มีฉากไหนน่าเบื่อเลยจริงๆครับ

พาร์ทการทำงาน พาร์ทดราม่า พาร์ทครอบครับ หนังทำให้ผมอินแทบทุกฉากเลยครับ ได้แง่คิดในการใช้ชีวิตและการทำงานได้เยอะมากๆ ใครที่มีปัญหาการทำงาน แนะนำหนังเรื่องนี้เลยครับดูจบแล้วมันได้แง่คิดจริงๆ 

ช่วงท้ายของหนังสำหรับผมมันหักมุมซ้ำแล้วซ้ำอีกจนไม่รู้จะหาที่ติของหนังเรื่องนี้ได้ยังไง เซอร์ไพร์สแทบจะตลอดเวลา ถ้ามีคนถามว่าหนังเรื่องนี้ดีมั้ย? ผมจะตอบไปว่า ไปซื้อตั๋วเถอะ อย่าช้า !!!!

สรุป ...ต้องดู ต้องดู ต้องดู!!

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
10
การดำเนินเรื่อง
10
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
10
กราฟฟิก
9.5
คะแนนเฉลี่ย
9.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
2 ธันวาคม 2562 14:51:05

[รีวิว] Ford V Ferrari - ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์
--- 9.9/10 ---
นี่คือหนังเกี่ยวกับรถที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยดูมา!
ดูแล้วเลือดสูบฉีดโคตร ลุ้นจิกเบาะ ดูจบอยากจะออกไปมิดไมล์ซะเดี๋ยวนั้น
เสียงเครื่องยนต์อันไพเราะ และเต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์

Ford V Ferrari เป็นหนังเรื่องนึงที่เราจับตามองมานานมากๆ ยิ่งรู้ว่าสร้างมาจากเรื่องจริงเลยทำให้นึกถึงหนังสุดประทับใจอย่าง Rush (2013) ว่ามันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ด้วยสองนักแสดงนำ ทั้ง Matt Damon และ Christian Bale แถมยังได้ผู้กำกับมือดีอย่าง James Mangold ที่กำกับ Identity (2003), Walk the Line (2005), The Wolverine (2012) และ Logan (2017) ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งผู้กำกับที่ผลงานไม่ธรรมดา ยิ่งทำให้ตัวหนังนั้นน่าสนใจขึ้นไปอีก

Ford V Ferrari ว่าด้วยเรื่องราวของการชิงความเป็นหนึ่งสองขั้วอำนาจแห่งวงการยานยนต์ ณ ตอนนั้น ระหว่าง Ford และ Ferrari เมื่อทาง Ford อยากผันตัวเองจากการสร้างรถธรรมดาๆ กลายเป็นสร้างรถแข่งที่ดีที่สุดในโลกและรีแบรนด์ให้คนจดจำ จึงจะนำตัวเองลงสู่สนามแข่งรถสุดโหด Le Mans ที่แข่งขันกันอย่างยาวนานถึง 24 ชม. เพื่อหวังชัยชนะ และคว้าการจดจำจากคนทั้งโลก ซึ่ง ณ ตอนนั้นเจ้าแห่งสนามแข่งนี้คือ Ferrari จึงทำให้ Ford ทุ่มหมดตัวเพื่อจะสร้างรถแข่งที่เอาชนะ Ferrari ได้ การแข่งขันสุดดุเดือดนอกสนามแข่งและในสนามแข่งจึงอุบัติขึ้น กลายเป็นสงครามระดับโลกที่ทุกคนต่างจับตามอง และจริงๆ หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังแข่งรถ มันมีทั้งความดราม่า ความฝัน ครอบครัว การแข่งกันทั้งในและนอกสนามด้วย

เราก็หาอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ของ Ford V Ferrari มาแล้วแหละ และวัตถุดิบทุกอย่างมันเหมาะกับการเป็นหนังมาก ทั้งเรื่องราวการห้ำหั่นกันในโลกธุรกิจเอย และเรื่องราวการแข่งขันความเร็วในสนามแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมงเอย และหนังก็ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆ พาร์ทเลยก็ว่าได้ 

หนังดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อเลย ถึงแม้มันจะอิงมาจากเหตุการณ์จริงก็ตาม มันเล่าได้สนุกจริงๆ ทั้งพาร์ทธุรกิจการชิงดีชิงเด่นของ Ford กับ Ferrari ที่เล่าออกมาได้เข้าใจง่าย ไม่เวิ่นเว้อ รวดเร็ว ซึ่งมันยอดเยี่ยมจริงๆ

ส่วนไฮไลท์พาร์ทการแข่ง Le Mans 24 ชั่วโมง ยิ่งโคตรยอดเยี่ยมเข้าไปใหญ่ แต่ก็อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ามันไม่ใช่หนังแข่งรถจ๋าๆ จริงๆ มีฉากแข่งรถไม่เยอะหรอก แต่มันก็สุดยอดจริงๆ ในส่วนนี้ คุณจะรู้สึกตื่นเต้น หัวใจสูบฉีด มือนี้เกร็งจิกเบาะ ลุ้น ไปพร้อมๆ กับภาพตรงหน้า กระหึ่มรอบตัวไปด้วยเสียงเครื่องยนต์อันไพเราะ อีกทั้งการตัดต่อ มุมกล้องที่ทำให้เราอินเข้าไปอีก ทั้งหมดล้วนส่งเสริมให้มันสนุกมากจริงๆ ดูจบต้องมีความรู้สึกอยากลงไปกระทืบคันเร่งแข่งรถกันบ้างหล่ะ คือถ้าดูโรงแบบเสียงกระหึ่มๆ นี่เพลินแน่นอน ฉากแข่งรถคือสมบูรณ์แบบเท่าที่จะทำได้แล้วจริงๆ 

ทางด้านนักแสดง มาว่ากันที่ Matt Damon ในบท Carroll Shelby ก่อน คือเอาจริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าตัวจริงของคนนี้เป็นคนยังไง แต่การแสดงของ Matt Damon นับว่าแสดงได้ดีตามแบบฉบับเฮีย Matt แกเลย จะว่าไปก็ไม่ใช่งานยาก เพราะไม่ได้ฉีกหนีความเป็นตัวตนแกสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ารับผิดชอบหน้าที่และแสดงได้มาตรฐานไม่มีข้อบกพร่องเช่นกัน แต่คนที่น่าชื่นชมที่สุดขอยกให้ Christian Bale ในบทสุดยอดนักแข่ง Ken Miles ที่นอกจากจะสุดยอดในด้านการลดน้ำหนักแล้ว จนทำได้ใกล้เคียงตัวจริงของ Ken Miles มากๆ อีกทั้งเขายังสลัดภาพทุกตัวละครที่เขาเคยเล่นมาจนเราลืมไปเลยว่าเขาเคยเป็น Bruce Wayne/Batman มาก่อน เขารับบทนี้ได้โคตรยอดเยี่ยม แสดงได้ดีมากจริงๆ

สรุปแล้ว Ford V Ferrari ขอเรียกว่าเป็นหนังเกี่ยวกับรถที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เคยดูมา! ดีทุกพาร์ท ทั้งในและนอกสนาม ดูแล้วตื่นเต้นหัวใจเต้นแรงมาก ดราม่าก็ทำได้ดี ติดอยู่นิดเดียวจริงๆ คือพาร์ทตอนจบที่รู้สึกแปลกๆ รีบๆ ไปนิดนึง น่าจะขยี้ได้มากกว่านี้ นอกเหนือจากนั้นไม่รู้จะติอะไรเลย ไปดูซะ!!!

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
10
การดำเนินเรื่อง
9.5
ดนตรีประกอบ
10
ฝีมือนักแสดง
10
กราฟฟิก
10
คะแนนเฉลี่ย
9.9
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)

หนังภาพยนตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

กำลังฉาย
วันเข้าฉาย : 21/11/2024