Along With The God : The Last 49 Days - ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า 2
หนัง Along with the Gods 2 หรือชื่อไทยว่า ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า 2 ภาคต่อนี้ทั้งสามเทพผู้พิทักษ์อย่าง ผู้นำทีมเทพผู้พิทักษ์ “ยมทูตคังลิม” (ฮา จุงวู), เทพนักต่อสู้ฝีมือโคตรแกร่ง “ยมทูตเฮวอนเมก” (จู จีฮุน) และเทพแห่งมันสมอง “ยมทูตดัคชุน” (คิม ฮยางกี) เตรียมกลับมาด้วยภารกิจที่ต้องผจญภัยฝ่าแดนปรโลกทั้งเจ็ดสู่การพิพากษาครั้งที่ 49 เพื่อส่งดวงวิญญาณของตนเองและ “คิม ซูฮง” (คิม ดองวุก) วิญญาณอาฆาตน้องชายของคิม จาฮง ผ่านด่านพิพากษาจาก “ราชันย์ยอมรา” (อี จุงแจ) เทพแห่งนรก เพื่อพิสูจน์ตัวตนให้กลับมาเกิดใหม่ให้สำเร็จ แต่ในเวลาเดียวกันความทรงจำอันเจ็บปวดของเทพผู้พิทักษ์ทั้งสามเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์เริ่มกลับคืนมาจากฝีมือของ “เทพประจำตระกูล” (มา ดงซอก) ที่อยู่บนโลก
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
[รีวิว] Along With The Gods: The Last 49 Days
--- 7/10 ---
“คงคอนเซ็ปต์เรื่องศีลธรรม บาป บุญ คุณ โทษ ยังมีความดราม่า แต่ไม่สามารถเรียกน้ำตาได้”
ต้องบอกว่าเรื่องนี้ส่วนตัวแอดเองชอบภาคแรกโคตรๆ นั่งน้ำตาไหลแบบเสียเชิงชายสุดๆ 555 ถ้าใครได้ดูภาคแรกคงรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอคชั่น ภาคแรกโดนตัวอย่างหลอกเต็มๆ เข้าโรงไปกะมันส์แบบเต็มที่ แต่กลับเจอดราม่าและเนื้อเรื่องที่ดีเกินคาด (มากๆ) เรียกได้ว่าน้ำตาตกกันเป็นลิตรๆ และเมื่อมีภาคต่อออกมา ทำให้เราอยากดูและติดตามเนื้อเรื่องต่อ
เนื้อเรื่องในภาคนี้จะสืบสานประเด็นต่อจากภาคแรกน้องชายของ คิม จาฮง วิญญาณอาฆาตอย่าง คิม ซูฮง ที่บอกว่าเป็นวิญญาณคนดี! (อีกแล้ว) โดยก็ต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ถึงการตายของวิญญาณตนนี้ แต่ในภาคนี้ยังมีการเปิดเผยถึงประเด็นเบื้องลึกเบื้องหลังความเป็นมาของยมทูตทั้งสาม คังลิม, เฮวอนเมก และดัคชุน ว่าทั้งสามมาอยู่ด้วยกันและมาเป็นยมทูตได้อย่างไร ผ่านทางเทพประจำตระกูล ผู้เคยเป็นอดีตยมทูตที่นำดวงวิญญาณของยมทูตทั้งสามมาส่งอย่าง ซอง จูชิน
ด้วยความที่ภาคแรกทำออกมาได้โคตรดี ดีกว่าที่คิดที่คาดไว้มาก ทำให้เราคาดหวังกับภาคสองอย่างมากเช่นกัน แต่นั่นกลับทำให้เราผิดหวังพอสมควร (ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดี)
เนื้อเรื่องในภาคนี้เล่าต่อจากภาคแรกทันที หลังจากเหล่ายมทูตพาวิญญาณคนดี คิม ซูฮง ฝ่านรก ต่อสู้กลางทะเลทราย เพื่อไปตัดสินกันในศาล แต่ต้องมีการพิสูจน์กันว่าเป็นวิญญาณคนดีจริงหรือเปล่า คล้ายกับในภาคแรก เนื้อเรื่องยังคงเล่นประเด็นศีลธรรม บาป บุญ คุณ โทษ เช่นเคย และยังคงมี 3 ยมทูตที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักอยู่ โดยที่เหลือ ยมทูตคังลิม เท่านั้นที่ต้องมาว่าความให้ คิม ซูฮง ส่วนยมทูตอย่าง เฮวอนแมกและดัคชุน ต้องไปเก็บดวงวิญญาณดวงหนึ่งซึ่งมี เทพประจำตระกูลคอยคุ้มครองอยู่นั่นก็คือ ซอง จูชิน ที่มาเปิดเผยเรื่องราวอดีตชาติของ 3 ยมทูต ภาคนี้มีประเด็นหลักๆ อยู่ 3 ประเด็น นั่นก็คือเรื่องราวการตัดสินคดี พิสูจน์วิญญาณคนดีของ คิม ซูฮง, อดีตของ 3 ยมทูต และประเด็นของดวงวิญญาณที่ต้องไปตามเก็บ
ในด้านที่น่าชื่นชมยังคงเป็นความแฟนตาซีของฉากต่างๆ CG นี่ทำออกมาได้ดี สวย งดงามมากๆ ตัวเนื้อเรื่องยังมีประเด็นน่าสนใจและชวนให้อยากรู้ น่าติดตาม ยังคงสอดแทรกมุกตลกเป็นระยะๆ หนังค่อยๆ ทิ้งปมไปเรื่อยๆ และตัดสลับการเล่าเรื่องระหว่างสองโลก ได้อย่างน่าติดตาม แถมหนังยังสอดแทรกแง่คิดไว้มากมาย ทั้งเรื่องบาปและการให้อภัย
แต่ปัญหาของเรื่องนี้เลยก็คือการเล่าเรื่องที่รีบจนเกินไปมากๆ ปล่อยผ่านแต่ละฉากไปอย่างน่าเสียดาย การผ่านแต่ละชั้นศาลไม่มีอะไรให้น่าจดจำและดูง่ายดายไปซะหมด ประเด็นเยอะไปแถมหนังยังพาเราไปผูกพันกับตัวละครเหมือนอย่างภาคแรกไม่ได้เท่าที่ควร (ในภาคแรกปูและขยี้เรามาตลอดทั้งเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณดี คิม จาฮง และแม่ของเขา เลยทำให้จุดไคลแม็กของเรื่องบีบน้ำตาได้แบบสุดๆ) แต่พอมาภาคนี้ด้วยความที่ทำไม่ได้แบบนั้น พอถึงจุดขมวดของหนังเลยทำให้มันไม่ดราม่าขนาดนั้น หลายๆ อย่างของหนังดูง่ายดายและเหมือนหาทางลงกับมันไม่ได้เลยดูฝืนๆ ไปซะหน่อย
โดยรวมแล้วมันเป็นหนังที่สนุกเรื่องนึงเลย แต่สู้ภาคแรกไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งการเล่าเรื่อง และประเด็นต่างๆ แต่ถ้าใครดูภาคแรกมาแล้วก็ยังอยากให้ดูภาคนี้ต่อ เพราะจะได้คลี่คลายปัญหาต่างๆ ที่สงสัย
*และเหมือนตอนจบจะปูให้มีภาคต่ออีกด้วย? (ส่วนตัวว่าควรจะจบแค่ภาคสองนี่แหละพอแล้ว)
Along With The God : The Last 49 Days
ภาคต่อ จากภาคแรกที่ทำไว้ดีมากๆ สนุกสุดๆ เนื้อเรื่องแหวกแนว ภาคนี้จึงสานต่อความสนุกใน Along With The God : The Last 49 Days และได้นักแสดงนำจากภาคแรกกลับมาแสดงต่ออย่างครบครัน
การดำเนินเรื่อง
ภาคนี้ต่อจากภาคที่ 1 เลย (ควรดูภาคที่ 1 มาก่อน) การดำเนินเรื่องในภาคนี้จะมีการย้อนอดีตของยมทูตทั้งสามคน และเนื้อหาหลักๆ ก็ยังเป็นการขึ้นศาลคล้ายๆภาคแรก ก็ต้องยอมรับว่าช่วงแรกถึงกลางเรื่องน่าเบื่อมาก ฉากแอคชั่น ไม่สุด คือตัวอย่างมีฉากแอคชั่นเท่าไร ในหนังก็มีเท่านั้น ไม่ตื่นเต้น ไม่เท่เหมือนภาคที่ 1 เลย แต่ช่วงก่อนจบตัวหนังดันทำออกมาได้ดีมาก ตื่นเต้นมาก ลุ้นกับการเฉลยอดีตมากๆ ซึ่งยอมรับว่าเดาไม่ออกเลยว่าหนังจะจบยังไง
ภาพแสะเสียง
จากภาคที่ 1 ชอบ CG เรื่องนี้นะ ไม่ได้ขนาดเนียน แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ สวย มาภาคนี้ก็ยังทำได้ดีอยู่ แต่ฉากแอคชั่นดันแทบไม่มีอะไรเลย ไม่เท่เหมือนภาคที่แล้ว ทางด้าน sound ก็โอเคนะครับ
นักแสดง
นักแสดงทุกคนก็แสดงได้ดีมากๆ ครับ เข้าถึงบทบาท โอเคมากเลยครับกับการเลือกนักแสดง แต่จะมีคนๆ นึงที่ส่วนตัวผมชอบมากๆคือ Ju Ji-hoon คือแสดงตลกก็ตลกจริงๆ แสดงจริงจังก็ทำได้ดีมากๆๆ คือโอเคมากๆ ถือว่าแบกหนังเรื่องนี้ไว้เลย ถ้าไม่มีเค้าหนังคงไม่สนุกเลยครับ
สรุป
ภาคนี้ดูขาดๆ เกินๆ อย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะภาคที่ 1 ก็ทำไว้ดีมากๆ ทำให้ภาคนี้ดูจะดรอปลงไปพอสมควรแถมช่วงแรกของหนังก็แอบน่าเบื่อ แต่สำหรับคนที่ดูภาคที่ 1 มาแล้วภาคนี้ก็ไม่อยากให้พลาดนะครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง