50 First Kisses - 50 เดทจูบเธอไม่ให้ลืม
หนัง 50 First Kisses หรือชื่อไทยว่า 50 เดทจูบเธอไม่ให้ลืม “ทุก ๆ เช้า ผมรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่เธอในวันพรุ่งนี้ก็จะลืมผมไป“ รีเมคจากภาพยนตร์ Hollywood สุดฮิต 50 First Dates รุอิ ฟูจิชิม่า (มาซามิ นากาซาวะ ) อาจตะโกนออกมาอย่างปลื้มใจว่า “จูบแรกสุดยอดไปเลย!” หลังจูบ ไดสุเกะ ยูเกะ (ทาคายูกิ ยามาดะ) เป็นครั้งแรก แต่เธอหารู้ไม่ว่าเธอจะจดจำช่วงเวลานี้ได้แค่ 1 วันเท่านั้น รุอิ ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำทำให้เธอสูญเสียความทรงจำระยะสั้น เธอจะจดจำได้แต่เรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนอุบัติเหตุ แต่สมองจะไม่บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย ทุกวันสมองของเธอจะรีเซ็ตใหม่และกลับไปดำเนินชีวิตแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา และนั่นทำให้เธอจำ ไดสุเกะ แค่ 24 ชม. ของวันนั้นเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ไดสุเกะ ก็ไม่ยอมแพ้ ที่จะทำให้เธอกลับมารักได้ทุกวันอยู่ดี
Meeting the woman of your dreams in Hawaii is a blessing until you discover she has short-term memory loss and forgets everything the very next day.
50 First Kisses
“การที่พระเอกได้ทำให้นางเอกตกหลุมรักพระเอกในทุกๆ ครั้งฉันใด มันก็ทำให้เราตกหลุมรักที่ได้ดูเรื่องนี้ในทุกๆ ครั้งฉันนั้น”
50 First Kisses เป็นหนังญี่ปุ่นได้นำของ Hollywood มาทำใหม่ โดยมีต้นฉบับเดิมชื่อคล้ายๆ กันอย่าง 50 First Dates (2004) ที่นำแสดงโดยดาราตลกชื่อดัง Adam Sandler ประกบคู่กับ Drew Barrymore และตัวแย่งซีนสุดฮาอย่าง Rob Schneider ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนี้ก็ได้ Takayuki Yamada ประกบคู่กับ Masami Nagasawa มารับหน้าที่เป็นพระ-นางในดำเนินเรื่องนี้
เรื่องราวจากทั้งสองเวอร์ชั่นนั้นเรียกได้ว่าดำเนินเรื่องเหมือนกันเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเหตุการณ์ หรือองค์ประกอบต่างๆ โดยเป็นเรื่องราวของชายที่เจ้าชู้คนหนึ่ง ที่มาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในร้านอาหาร แต่ปัญหาคือทุกๆ เช้าที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมา เธอจะจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ได้เลย ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ ทำให้เธอเสียความทรงจำระยะสั้นไป คือเธอจำได้แค่เรื่องราวก่อนเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น เรื่องราวหลังจากนั้นที่เกิดขึ้นจะถูกลบในทุกๆ เช้าวันใหม่ ชายหนุ่มคนนั้นจึงต้องหาวิธีมาทำให้ผู้หญิงที่เขารักตกหลุมรักเขาให้ได้ในทุกๆ วัน
ในต้นฉบับนั้นทำออกมาไว้ได้ดีมากๆ ซึ่งส่วนตัวเองดูหลายรอบมากๆ และเป็นหนังรอมคอมที่เชื่อได้เลยว่าเป็นหนังรักในดวงใจของใครหลายๆ คน และติดตามการจัดอันดับหนังต่างๆ อย่างแน่นอน ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนี้เรียกได้ว่าหยิบมาทั้งเรื่องเลย ทุกลำดับเหตุการณ์ การกระทำ หรือสถานที่ นั้นถอดแบบมาจากต้นฉบับทั้งหมดออกมาเป๊ะๆ แต่นั่นก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย (ขอเสียเดี๋ยวบอกในอีกสองย่อหน้าถัดไป) เพราะในฉบับญี่ปุ่นนี้ยังคงองค์ประกอบที่ดีของหนังไว้ครบถ้วน สิ่งที่แตกต่างนั่นก็คือ อย่างแรกก็คืออาชีพของพระเอก (ที่เข้าใจว่าคงจะอยากเอื้อให้เห็นความโรแมนติก+ฉากสวยๆ นั่นแหละ ต้องลองไปดูในหนัง) อย่างที่สองเลยคือความตลก ที่เวอร์ชั่นนี้ฮาขี้แตกขี้แตน ฮาทุกฉาก มุกบาทสองบาทก็เล่น และเอามาขยี้ให้มันฮาเข้าไปอีก คงเพราะด้วยความที่หนังญี่ปุ่นนักแสดงมัก “เล่นใหญ่มาก” จึงบวกความฮาเข้าไปเต็มๆ ไม่ใช่ว่าต้นฉบับไม่ฮา เพียงแต่ต้นฉบับมีความฮาน้อยกว่า แต่น่ารัก มุ้งมิ้งกว่าเท่านั้นเอง ที่แตกต่างอีกคงเป็นกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย หรือบางมุกจากต้นฉบับที่เอามาขยี้มากขึ้นกว่าเดิม
ต้องขอชมทีมนักแสดงเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเลยว่าแต่ละคน ซัดเต็มข้อมาก พระเอกจัดเต็มหมด ไม่ว่าการเล่นมุก สีหน้า ท่าทาง และนางเอก ที่น่ารักโคตรๆ เล่นได้ธรรมชาติ ที่การหัวเราะของเธอสามารถทั้งให้คนในโรงยิ้มได้ตามๆ กันไปเลยทีเดียว และบทพ่อกับน้อง ที่ส่งให้หนังเวอร์ชั่นนี้ฮายิ่งขึ้นไปอีก แถมด้วยบทเพื่อนพระเอกที่ออกมาแย่งซีนได้แทบทุกฉากจริงๆ ที่สำคัญเพลงประกอบเรื่องนี้ยังเพราะมากๆ อีกต่างหาก
ถ้าจะให้พูดถึงข้อเสีย (จริงๆ ก็ไม่ใช่ข้อเสียหรอก มันคือสิ่งที่ส่วนตัวเองผิดหวังเสียมากกว่า) มันก็อยู่ในข้อดีนั่นแหละ การที่เวอร์ชั่นนี้หยิบเอาลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือองค์ประกอบต่างๆ ที่เหมือนต้นฉบับมาทั้งดุ้นเลย ก็ทำให้เราผิดหวังนิดหน่อย เพราะเราคงคาดการณ์ว่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากในเวอร์ชั่นนี้ แต่ที่ได้เพิ่มเติมมาก็คงเป็นฉากสวยๆ กับความตลกโปกฮาเท่านั้นเอง
สรุปคร่าวๆ คือ “เนื้อเรื่องเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือฮากว่า” ถ้าถามว่าควรดูทั้งสองเวอร์ชั่นเลยไหม ก็คงตอบได้ว่า “ก็ได้นะ ก็ดีนะ” โดยส่วนตัวเคยดูต้นฉบับมาก่อนและชอบมากๆ ดูหลายรอบมากๆ จึงอยากมาดูเวอร์ชั่นญี่ปุ่นด้วย แต่ถ้าใครดูเวอร์ชั่นญี่ปุ่นแล้วชอบมากๆ อย่างเพื่อนแอดเนี่ย เขาก็บอกว่าไม่ได้มีแรงกระตุ้นให้อยากไปดูต้นฉบับสักเท่าไหร่ เพราะมันครบรสแล้ว เหมือนเป็น First Impression ไปแล้ว ส่วนเพื่อนแอดอีกคนก็แนะนำว่า ถ้าชอบเวอร์ชั่นนี้แล้ว ก็ไม่ต้องไปดูต้นฉบับหรอก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่พิจารณาแหละครับ ผมเพียงอยากจะบอกว่าเรื่องนี้ “การที่พระเอกได้ทำให้นางเอกตกหลุมรักพระเอกในทุกๆ ครั้งฉันใด มันก็ทำให้เราตกหลุมรักที่ได้ดูเรื่องนี้ในทุกๆ ครั้งฉันนั้น”
สรุปผลวิจารณ์หนัง