Alita: Battle Angel - อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล
หนัง Alita Battle Angel หรือชื่อไทยว่า อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล Alita: Battle Angel ภาพยนตร์ดัดแปลงจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เพชฌฆาตไซบอร์ก หรือในชื่อญี่ปุ่นว่า Gunnm ซึ่งเขียนโดย คิชิโระ ยูกิโตะ และได้รับการดัดแปลงเป็นแอนิเมชั่นจากเนื้อเรื่องในหนังสือเล่มแรกๆในชื่อ Battle Angel เรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้น ซึ่งไซบอร์คและหุ่นยนตร์กลายเป็นเรื่องปกติ เมืองลอยฟ้าทิฟาเรส เก็บงำความลับอันดำมืด มันทิ้งขยะไร้ค่าลงสู่โล่งเบื้องล่าง และที่ลานทิ้งขยะนั้นเอง แพทย์ไซบอร์ค อิโดะ พบเข้ากับชิ้นส่วนหัวและลำตัวของเด็กสาวไซบอร์คที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ มีเพียงสมองของเธอเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ ส่วนอื่นในร่างกายของเธอล้วนเป็นเครื่องจักร เธอสูญเสียความทรงจำทั้งหมดในอดีต และได้ชื่อใหม่จากอิโดะ "เอลิตา" เขาสร้างเธอขึ้นมาใหม่อีกครั้งและกลายเป็นเสมือนบิดาของเธอในฐานะผู้มอบร่างกายใหม่ให้ อย่างไรก็ตาม ข่าวการฆาตกรรมต่อเนื่องได้เริ่มแพร่กระจายไปในเมือง อลิตาเริ่มสงสัยอิโดะในฐานะผู้ลงมือเพื่อหาชิ้นส่วนร่างกายให้เธอ แต่เมื่อเธอติดตามเขาออกไปในคืนหนึ่ง จึงได้พบว่าที่แท้เขากำลังตามจับตัวฆาตกร ภายใต้ฐานะ "ฮันเตอร์ วอร์ริเออร์" ที่เขาได้รับมอบหมายมา ระหว่างการเข้าปะทะกับฆาตกรตัวจริงนั้น สัญชาติญาณของเด็กสาวก็ทำงาน เธอล้มฆาตกรได้ด้วยศิลปะการต่อสู้โบราณ ผลสุดท้าย เธอจึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลืออิโดะในการพิทักษ์ความยุติธรรม และได้กลายมาเป็นฮันเตอร์วอร์ริเออร์เช่นกัน เธอปลดล็อคความสามารถและพลังที่แท้จริงของตนเอง เข้าต่อสู้กับศัตรูที่แสนอันตราย และเพื่อนผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์
An action-packed story of one young woman's journey to discover the truth of who she is and her fight to change the world.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
Alita: Battle Angel " นางฟ้าตกสวรรค์ "
122 min | Action/Sci-fi | Directed by Robert Rodriguez
เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ?
เรื่องราวของอลิตาหุ่นไซบอร์กสาวที่ถูก ด็อกเตอร์ ไดสัน อิโดะ ค้นพบซากโดยบังเอิญ และนำกลับมาซ่อมแซมจนเธอกลั
ความรู้สึกแรกหลังดูจบ..
ยอมรับว่าคาดหวังมาก พอมาดูแล้วก็ไม่ได้ถึงกับผิดหวังสักทีเดียว เพราะเอาเข้าจริงๆ ด้วยชื่อของเจมส์ คาเมรอน ที่เข้ามาอำนวยการสร้าง หลายๆ อย่างมันเลยดูใหญ่โต ตระการตาไปเสียหมด ทั้งการออกแบบโลกในภาพยนตร์ ตัวละคร แค่เท่านี้มันก็เพียงพอที่จะดึงสายตาของเราให้อยู่กับหนังได้แล้ว เพียงแต่ว่าตัวบทภาพยนตร์ค่อนข้างซื่อตรงในการดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับมากพอสมควร แล้วหนังก็จงใจที่จะเล่าเพื่อให้มีภาคต่อ แน่นอนว่าตัวหนังทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว จากเรื่องราวในส่วนที่นำมาสร้างในภาคแรกนี้
สิ่งที่น่าชื่นชม
นอกจากงานออกแบบแล้ว ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ค่อนข้างดี แม้จะมีสัดส่วนที่ไม่เยอะมาก แต่พอถึงฉากเหล่านี้มันก็ทำได้ดีมากประมาณนึง ทำให้หนังดูสนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ที่ต้องชื่นชมซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นก็คือ งานภาพ ที่สวยแทบจะทุกซีน งานซีจีนี่คือคำตอบที่ว่าทำไมเจมส์ คาเมรอนต้องรอจนถึงตอนนี้ถึงจะยอมทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ส่วนตัวละครอลิตาเอง ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของหนัง เพราะดูมีชีวิตชีวา และออกมาดูดีมาก
สรุป
อาจจะไม่ได้ถึงกับพีคมากมาย แต่ตัวหนังก็ถือว่าทำได้ดีมากประมาณนึง ดูสนุก ดูเพลิน ไม่ผิดหวัง คุณภาพหลายๆ อย่างออกมาดีมากจนอยากให้มีภาคต่อออกมาเร็วๆ เลยทีเดียว
สรุปผลวิจารณ์หนัง
เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจทางด้านภาพมากๆ ภาพสวยมาก และการทำCGก็ยิ่งใหญ่อลังการ (แค่ไปดูงานภาพก็คุ้มค่ามากแล้ว) นอกจากนั้นยังเพลิดเพลิน บันเทิง มันส์หยดติ๋ง สนุกสนานอีก รู้สึกว่าได้อะไรกลับไปเยอะจริงๆ
ฟิลลิ่งเหมือนดูหนังแฟนตาซีดีๆ สักเรื่อง เหมือนดู LoTR, Harry Potter, Avartar, Cloud Atlas หรือ Real Steels เลย มีฟิลลิ่งก้ำกึ่งระหว่างหนังเด็กและหนังแอคชั่นสุดมันส์ (อาจเป็นเพราะตัวละครหลักเป็นเด็กเลยทำให้นึกถึงหนังพวก A.I. Artificial Intelligence หรือ Super8 ของลุงสปิลเบิร์ก) แต่ก็มีความผจญภัยและแอคชั่นสุดมันส์แบบ LoTR หรือ The Hobbit แต่อยู่ใน Theme ไซไฟโลกอนาคต
ชื่นชมการดำเนินเรื่องมาก เนื่องจากไม่เคยอ่านเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก่อนเลยไม่ค่อยมีปัญหากับหนังเรื่องนี้ คือไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มาก มาเก็บทุกอย่างเอาจากที่หนังให้เราจริง พบว่าจริงๆ แล้วการดำเนินเรื่องค่อนข้างสมูทและทำให้เราอินไปกับอลิต้ามากๆ หนังยังเก็บปมอะไรหลายอย่างไว้ ยังไม่ได้คลี่คลาย เป็นไปได้ว่าจะค่อยๆ เล่าไปจนถึงภาคต่อไป นอกจากนี้การวางคิวบู๊สนุกและคมกริบจริงๆ เป็นคนละแบบกับหนังแอคชั่นแบบ John Wick แต่ก็คมกริบในแบบอลิต้า มีมุมและแอคชั่นเท่ห์ๆ หวาดเสียวๆ ระทึกใจมาให้ชมตลอดเรื่องสลับกับเส้นเรื่องหลักและการให้ข้อมูลตัวละครต่างๆ
งานสร้างทำได้อลังการจริงๆ ขอบคุณความทุ่มเทของทีมงานทุกคนมากๆ และขอบคุณตัวเองที่พาตัวเองเข้าไปดู มันสามารถเยียวยาแผลใจจากหนังไซไฟแฟนตาซีฟอร์มยักษ์เรื่อง Mortal Engine ที่เพิ่งดูแล้วผิดหวังไปเมื่อปลายปีได้จริงๆ งานสร้างของอลิต้าเก็บรายละเอียดและทำการบ้านเชิงอาร์ตมาเยอะมากพอสมควร ให้รายละเอียดในเรื่องต่างๆไว้ดีมาก ชื่นชมการใช้ Motion Capture ที่เป็นงานถนัดของโปรดิวเซอร์ James Cameron (ผู้กำกับ Avartar) งานเนียบและถ่ายทอดการแสดงของนักแสดงนำได้ดีมากจนนึกว่าใช้หุ่น AI เล่นจริงๆ
นอกจากส่วนที่ชื่นชมก็มีบางอย่างที่ค้างคาใจ อาจจะรู้สึกว่าภาคนี้มาไว้สำหรับปูไปภาคต่อไป เหมือนกั๊กของไว้ประมาณนึงในช่วงท้ายๆ แล้วรีบขมวดจบ ทำให้รู้สึกติดค้างในเรื่องนี้ และอีกเรื่องคือฉากขายหลายๆฉากถูกเห็นในตัวอย่างหนังไปเสียเกือบ70% ทำให้พอมาดูในภาพยนตร์จริงรู้สึกเหมือนดูมาแล้ว เลยทำให้ตื่นตาตื่นใจน้อยลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรมากนักเมื่อเทียบกับความบันเทิงระดับนี้ที่ได้ในสองชั่วโมง นับว่าคุ้มค่ามากๆที่ได้ดู
สรุปผลวิจารณ์หนัง
[รีวิว] Alita: Battle Angel
--- 6.5/10 ---
เพลิดเพลินกับ CG และฉาก Action แต่ติดปัญหาที่บทและการเล่าเรื่อง
Alita: Battle Angel ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังในอดีตของ Yukito Kishiro ในชื่อเรื่อง Gunnm ซึ่งไทยก็ได้สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ เป็นเจ้าของภายใต้ชื่อเรื่องว่า เพชฌฆาตไซบอร์ก จากฝืมือผู้เขียนบทและผู้อำนวยการสร้างอย่าง James Cameron แถมมีผู้กำกับเป็น Robert Rodriguez ที่เคยฝากผลงานสุดมันส์ไว้ในเรื่อง Sin City
ตัวหนังพยายามรักษาความเป็นมังงะ ทั้งตัวละคร เรื่องราวไว้อย่างมากที่สุด มีความเคารพต่อต้นฉบับสูงมาก งานสร้าง องค์ประกอบฉาก CG ในหนังนั้นจึงละเอียดและดูดีมาก โดยเฉพาะตัวละครอย่าง Alita ที่ใช้ CG+Motion-capture ที่ทำออกมาได้น่ารัก และด้วยดวงตากลมโตของเธอนั่นแหละ ที่ทำให้ตัวละครตัวนี้สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีเลยทีเดียว ต้องชมนักแสดงอย่าง Rosa Salazar ด้วย ที่ต้องอยู่ในชุดทำ Motion-Capture มีกล้องจ่อหน้าตลอด แล้วยังแสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยจริงๆ
ฉาก Action ในหนังเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นฉากในบาร์ และเกมการแข่งขันที่เรียกว่า “Motorball” เรียกได้ว่าคุณจะเพลินกับทุกฉากการต่อสู้ของหนังเรื่องนี้
แต่ด้วยที่กล่าวมานั้น หนังเหมือนจะเน้นหนักไปทางด้านนั้นไปซะหน่อยจนลืมให้ความสำคัญกับบทและการเล่าเรื่องสักเท่าไหร่ ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละคร ปมของตัวละคร หรือเหตุการณ์ดราม่าต่างๆ หนังพาเราไปแตะจุดเหล่านั้นเพียงผิวเผินเท่านั้น ประเด็นที่ควรจะดราม่าก็ไม่ถึงอารมณ์เลยแม้แต่นิดเดียว เราจึงไม่อินกับฉากเหล่านั้นเลยแม้แต่นิดเดียว ตัวละครแต่ละตัวก็ดูแบนไป ไม่มีมิติ อาจจะเพราะสร้างมาจากมังงะเก่าในอดีต การเล่าเรื่อง ตัวละครมันเลยดูค่อนข้างจะเชยไปสักหน่อย โดยเฉพาะตัวละครอย่าง Dr. Dyson Ido ที่รับบทโดยนักแสดงมากความสามารถอย่าง Christoph Waltz ก็ไม่ได้แสดงความสามารถอันน่าทึ่งออกมาให้เราได้เห็นสักเท่าไหร่เลยในหนังเรื่องนี้
โดยรวมแล้ว Alita: Battle Angel ก็เป็นหนังที่ดูเพลินในระดับหนึ่ง ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่กับความยาวตลอด 2 ชั่วโมง เพียงแต่ว่าหนังมีดีแค่ CG กับฉากแอ็คชั่นเท่านั้น ปมต่างๆ บท การเล่าเรื่อง น่าเสียดายที่ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร อย่างน้อยมันก็สร้างความบันเทิงเริงใจได้ในระดับนึงละหน่า ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
Alita Battle Angel การกลับมาทวงคืนบัลลังก์เจ้าพ่อเทคโนโลยีการสร้างภาพยนตร์ ของเจมส์ คาเมรอน
เดิมที Alita เป็นโปรเจคที่ลุงเจมส์ คาเมรอนจะกำกับต่อจาก Avatar ซึ่งแกเตรียมสร้างโปรเจคนี้มาก่อนหน้า Avatar ซะด้วยซ้ำไป เพียงแต่รอเทคโนโลยีการสร้างภาพยนตร์ให้สามารถให้อิสระ และสมจริงเท่านั้น ซึ่งผลพลอยได้จากการซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์ให้ Avatar จนประสบความสำเร็จขึ้นแทนหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับ 1 เป็นเครื่องการันตีว่า เทคโนโลยีพร้อมแล้วสำหรับ Alita
ซึ่งพอเอาเข้าจริงลุงเจมส์ คาเมรอนได้เริ่มเตรียมการถ่ายทำโปรเจคนี้ไปได้ช่วงเวลานึง ก็ต้องส่งไม้ต่อให้กับลูกรักอย่าง โรเบิร์ท รอดดิเกรส มาสานฝันโลกของ Alita ต่อจากเขาที่ต้องไปลงแรงให้กับโปรเจค Avatar ภาคต่อที่กำลังจะเข้าฉายปีหน้านั่นเอง
หลังจากที่ได้มีการรับชมแล้ว ในรอบสื่อ Alita Battle Angel ว่ากันตรงๆ แล้วมีบทภาพยนตร์ที่ค่อนข้างที่จะล้าสมัย หรือมีความธรรมดาสูงมากจริงๆ เพราะเนื้อเรื่องที่เห็นได้ในเรื่องนี้ ก็มีให้เห็นมาแล้วถมเท ในยุคหลังๆ เรื่องราวว่าด้วยโลกอนาคต หลังจากล่มสลายหลังสงครามครั้งใหญ่ การแบ่งชนชั้นของคน มีมนุษย์ดันแปลง จักรกลอยู่ร่วมโลกกัน และดร.ผู้เปิดคลีนิครักษาหุ่นยนต์ ได้ไปพบซากหุ่นเก่าจากกองขยะที่ถูกทิ้งลงมาจากเมืองลอยฟ้าที่ชื่อว่า เซเลม จากนั้นก็นำมาซ่อมแซมจนหุ่นยนต์กลับมามีชีวิตพร้อมตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Alita โดยที่ความทรงจำของเธอได้เลือนหายไป เธอจะต้องรื้อฟื้นความทรงจำกลับมาให้ได้อีกครั้ง
ในความง่ายของตัวบทเองก็ได้งานสร้าง CG ระดับเทพมาช่วยไว้ เรียกง่ายๆ คือฉาบด้วยเทคนิคพิเศษ และการเล่าเรื่องรวดเร็ว ทำให้หนังสนุกเพลิดเพลินตลอด 2 ชั่วโมงจริงๆ แถมด้วยโบนัสฉากขยายของโรง IMAX เพิ่มความ Epic ของภาพยนตร์ ให้อลังขึ้นอีกจนอยากดูซ้ำอีกรอบเลยก็ว่าได้
สรุปแล้วถึงแม้ว่า ตัวบทหนังจะมีได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่ด้วยเทคโนโลยีการสร้างสรรค์โลกและตัว Alita ทำให้หนังตอบโจทย์ความบันเทิงที่ห้ามพลาดชมเด็ดขาดจริงๆ 8/10
Alita: Battle Angel
สนุกมาก ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้ โดยส่วนตัวแล้วในช่วงหลังๆ แทบไม่มีหนัง Sci-fi โลกอนาคต ที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจได้เลย แต่สำหรับผมในเรื่องนี้คือตื่นตาตื่นใจมาก สนุกทุกฉาก CG เนียนมาก จริงๆ แล้วตอนแรกได้เห็นรายรับสุดสัปดาห์ที่อเมริกาแล้วรู้สึกใจหายเพราะรายได้น้อยมาก แต่พอดูแล้วก็ต้องบอกว่าสนุกจริงๆ จะเสียดายมากๆ ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างภาคต่อ
เนื้อเรื่อง
ตัวบทและเนื้อเรื่องดัดแปลงมากจากมังงะ เรื่อง Gunnm เนื้อเรื่องตัวหนังผูกเรื่องได้ดีมากๆ มีเหตุมีผล และก็ทิ้งปมไว้ในหลายๆ ฉากให้ติดตามจนจบ (แต่บางปมก็ค้างคาเพื่อปูไปสู่ภาคต่อ) มีฉากสู้ที่ตื่นเต้น แปลกใหม่
ภาพ
CG สวยมากตัวอลิตาน่ารักจริงๆครับ ตอนแรกมีคนบอกว่าตาโตกว่าปกติ แต่พอมาดูในหนังก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดนะ แต่ดูน่ารักมากกว่า ฉากในเมืองก็ทำออกมาได้ดี และก็มอไซค์ของพระเอกคือเท่มาก(ชอบเป็นการส่วนตัว) ฉากใน Motorball (เกมหรือกีฬาในหนัง) ก็ดูอลังการ จริงๆชอบฉากตรงนี้มากนะแต่เสียดายมีน้อยไปหน่อย
ระบบ IMAX3D
ได้ไปดูที่ ICON ตัวภาพกว้างสุดขอบจอ ซ้าย ขาว บน ล่าง (แบบเต็มตามาก) แต่ไม่รู้ว่าจอ IMAX พารากอนจะเต็มมั้ยนะครับ(พารากอนจอ IMAX ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) ส่วนใน 3D ภาพมีมิติมากขึ้น ชัดขึ้นสีสวยขึ้น แต่ภาพไม่ได้นูนออกมามาก จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าคุ้มนะ ด้วยภาพจอใหญ่มาก ระบบเสียงสุดยอดที่สุดแล้ว ถ้าใครจะดูก็แนะนำระบบนี้นะครับ ฉากแนะนำที่ให้ตั้งใจดูคือการแข่ง Motorball อลังการมากเสียงกระฮึ่มสุดๆ
สิ่งที่ชอบมากๆ
เป้นหนังไซไฟ โลกอนาคต CG สวยๆในรอบหลายเดือนที่รู้สึกโอเคมากๆ ไม่ผิดหวังที่ไปดูเลย จริงๆนี่อวยให้ไปดูสุดๆ อลิตาก็น่ารัก ฉากแอ็คชั่นก็ดีมากๆ ภาพใน IMAX ก็สวยมากครับ ตัวบทอาจจะดูแปลกๆแต่ผมว่ามันสนุกดีพลิกไปพลิกมา เดาไม่ออกเลย ส่วนตัวละครที่ชอบมากๆคือดร.ที่เก็บอลิตามา แสดงได้เท่มากๆ ทุกครั้งที่แกออกมามันเหมือนมีพลังบางอย่างสะกดเราไว้ (แต่ก็มีบางฉากที่ขัดใจแต่ก็ข้ามๆไปครับ)
สรุป
ไปดูครับ ไปดู อย่าเชื่อรีวิว หรือรายรับของหนัง แนะนำให้ไปดูครับ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอนครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง