0 The+Shape+of+Water+-+%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B0+%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%9E+%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%9F+%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C

The Shape of Water - เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์

เข้าฉาย 1 กุมภาพันธ์ 2561
ผู้ชม : 31,676
ผู้กำกับ : Guillermo del Toro
ความยาวหนัง : 125.00
Text Size

หนัง The Shape of Water หรือชื่อไทยว่า เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์ เรื่องราวของ Eliza (แสดงโดย แซลลี ฮอว์คกินส์) ภารโรงสาวผู้เป็นใบ้ เธอทำงานทำความสะอาดให้กับห้องแล็ปของรัฐบาล สถานที่ที่เธอได้พบรักกับสิ่งที่เรียกว่าเป็น “สมบัติล้ำค่า” ของที่แห่งนี้ มันคืออมนุษย์ใต้น้ำ (แสดงโดย ดั๊ก โจนส์) มันถูกคุมขังและเตรียมถูกทดลองที่โหดร้ายทารุณ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สตริคแลนด์ (แสดงโดย ไมเคิล แชนนอน) นั่นทำให้อิไลซาที่เริ่มมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเจ้าอมนุษย์ตัวนี้เริ่มวางแผนที่จะพามันหลบหนีให้ได้


หนัง The Shape of Water หรือชื่อไทยว่า เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์ An other-worldly fairy tale, set against the backdrop of Cold War era America circa 1962. In the hidden high-security government laboratory where she works, lonely Elisa (Sally Hawkins) is trapped in a life of isolation. Elisa's life is changed forever when she and co-worker Zelda (Octavia Spencer) discover a secret classified experiment.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

15 กุมภาพันธ์ 2561 14:41:23

The Shape Of Water | Guillermo del Toro

หนังลำดับล่าสุดของเดลโทโร ผู้กำกับมากความสามารถ และยังเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่น่าจับตามองมากๆ ในปีนี้ โดยคราวนี้กลับมาพร้อมกับรวบรวมองค์ประกอบมากมายที่เขาได้ผจญภัยในฮอลลีวูด มีส่วนผสมโหดร้ายแบบแพนไลเบอลินท์หนังยุคแรกเริ่มของเดลโทโร กับโลกใหม่ๆ จากเฮลบอย ความบันเทิงเฮฮาแบบตลาด และความตระกาลตาCGเทพๆ โดยหนังเรื่องนี้เป็นการรวมองค์ประกอบในตัวของเขาตลอดมา กลั่นอย่างลงตัว ออกมาได้อย่างงดงาม และน่าจับใจ

The Shape Of Water เป็นเรื่องราวของอิไลซ่า พนักงานทำความสะอาดใบ้ ซึ่งค่อยๆ ตกหลุมรักต้องห้ามกับสัตว์ประหลาดในแล็บ จนนำไปสู่การดิ้นรนต่อสู้ และอิสระของตัวสัตว์ประหลาด หนังได้รับแรงบันดาลใจจากหนังอสูรกายยุคเก่า แต่ก็เปี่ยมล้นไปด้วยประเด็นร่วมสมัย พอก้าวผ่านมาสู่ยุคนี้ ผ่านผู้กำกับมือดี มันก็ออกมาได้ลงตัวจนน่าตกใจ สนุก งดงาม ตื่นเต้น และก็รุนแรงดี

เราชอบองค์ประกอบความรุนแรงที่แสดงออกอย่างเจาะจง และแนบเนียนอยู่ระหว่างนาทีในหนังได้อย่างบ้าคลั่ง คือถ้าหนังไม่มีความโหดร้าย และเลือดในระดับนี้ มันก็จะกลายเป็นหนังรักโรแมนติกใสๆ ไปเลย แต่พอมีมีบรรทัดของความรุนแรงรองรับเนื้อเรื่องอยู่เสมอ ที่นอกจากจะออกมาจากการแสดงออกแล้ว มันยังคุกกรุ่นแฝงตัวอยู่ในระหว่างตัวละครทุกตัวได้อย่างแนบสนิท มันก็เลยกลมกล่อมอย่างน่าประหลาด เป็นส่วนผสมที่โรแมนติคคาวเลือดสุดๆ

แถมหนังยังมีประเด็นของเรื่องผู้คนชายขอบที่สังคมละเลยเอาไว้เป็นจำนวนมากจากความรุนแรงทั้งหลาย ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เป็นประเด็นในสังคมภาพยนตร์ตอนนี้เท่านั้น แต่หนังได้ขยายตัวเองไปในพื้นที่ของคนพิการ LGBT คนดำ วิทยศาสตร์ รวมถึงสัตว์ประหลาดอันเปรียบเปรยได้เคียงเทพเจ้า ภายใต้การปกครองของชายผิวขาวผู้เป็นใหญ่ สถานที่ที่ผู้คนเชิดชูคาดิแลค หน้าที่การงาน ที่แม้กระทั่งวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจต่อกรได้

ไม่มีใครต่อกรกับ “ห้าดาว” บนไหล่ของนายพลฮอยด์ได้เลย

โดยถ้าหากสังเกตุดีๆ อย่างตัวร้ายชายผิวขาว ริชชาร์ด สติคแลนด์ ก็เป็นตัวอย่างของการกดทับอำนาจที่ส่งต่อมาจากเบื้องบน คือ สูงใหญ่ เป็นอดีตทหาร สนใจหน้าที่การงาน รถ มีไอ้แท่งไฟฟ้าอันเบ้งไว้ข่มใครต่อใคร  เราชอบความกลมของตัวละครตัวนี้นะ ถ้าดูดีๆ เราจะพบว่า ริชชาร์ด สติคแลนด์ ก็เป็นแค่ผลของกระบวนการทำซ้ำ เขาเป็นพ่อที่ดีซะด้วยซ้ำ ภรรยารัก เด็กๆ ก็รัก เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำตามหน้าที่ โดยเฉพาะหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งแน่ล่ะว่าเราก็จะสามารถตีความตัวละครตัวนี้ไปถึงตัวแทนของอเมริกาได้เลย ดังนั้นตัวร้ายที่แท้จริงก็คือดาวบนไหล่ ซึ่งมันใหญ่โตกว่าแทงไฟฟ้าของสติคแลนด์มากนัก ที่ปกครองอย่างเสร็จสรรพ ทำซ้ำผลผลิตน่าหวาดกลัวนี้ จนสามารถทำอะไรกับใครก็ได้ โดยเฉพาะการ “ฆ่า” อะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่เห็นสมควรว่าควรอยู่ในสังคมของเขา (ถ้าสังเกตต่อไปอีก เราจะพบว่าผู้ชายในหนังเรื่องนี้ทุกคนล้วนห่วยแตกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง)

เรื่องราวของหนังจึงไม่ใช่การดิ้นต่อสู้เพื่อสิทธิหรืออะไรทั้งนั้น แต่เป็นกระบวนการช่วยเหลือที่มีต่อการใช้ชีวิต คือยังไม่ต้องไปถึงสิทธิขั้นพื้นฐานหรืออิสระภาพใดๆ หรอกในเมื่อชีวิตในมือกำลังจะถูกฆ่า ยังไงก็ต้องเอาตัวรอดไปก่อน มันก็เลยเป็นการกบฏเล็กๆ ภายใต้สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอยู่ดี ดูเผินๆ หนังอาจโรแมนติคมากๆ จนหลงลืมหนังเก่าๆ ของเดลโทโรไป แต่หากเข้าไปสัมผัสเนื้อเรื่อง เราจะพบว่ารอยต่อของความรุนแรงยังคงดำเนินต่อเสมอ ไม่ว่าจะในพื้นที่ไหนๆ ของเนื้อเรื่องที่ปฏิบัติต่อคนชายขอบทั้งหลาย องค์ประกอบความรุนแรงก็ยังเปี่ยมครบ ดำเนินต่อไปในอนาคตของหนัง เพียงแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เดลโทโรนำเสนอออกมาให้แตกต่างจากปกติหน่อยหนึ่งก็คือ การมีความสุข และการมีความรัก ภายใต้อำนาจจากการถูกกดทับของชายผิวขาวเหล่านั้น

พวกเขามีชีวิตอยู่ เอาตัวรอดต่อไปในวันพรุ้งนี้ ก็เพื่อที่จะมีความสุข ...เพื่อจะมีชีวิต

กราฟฟิคของเดลโทโรยังไงก็เป็นเลิศอยู่แล้ว ทั้งงดงาม น่าหวาดกลัว และคุมโทนสีได้เหงา แปลกประหลาดได้สุดๆไปเลย โดยเฉพาะการเล่นสีเขียวและแดงของทั้งเรื่อง การแสดงของอิไลซ่านี่ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากพาฝันที่เหมือนระเบิดออกมาจากความรู้สึกทั้งหลาย และเพลงก็เพราะ หยาดเยิ้มในไสตล์โบราณ

เป็นผลงานที่ลงตัว มีองค์ประกอบที่พอจะท้าทายออสการ์ได้ มันทำให้เรารู้จักโลกที่ไม่ใช่แค่ไร้เพศสภาพเท่านั้น แต่มันไปถึงความไร้พรหมแดนของความสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ Beauty and The Beast ไม่เคยไปถึง แต่หนังเรื่องนี้ก็นำเสนอความรักอันไร้พรหมแดนได้อย่างเปี่ยมชัด ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักหนุ่มสาวเท่านั้น

เป็นหนังวาเลนไทน์คาวเลือดที่งดงามจริงๆ

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
8.5
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.4
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
9 กุมภาพันธ์ 2561 18:23:36

The Shape of Water 

123 min | Drama/Fantasy | Directed by Guillermo del Toro

นี่คือ 1 ในภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมเรื่องนึง ไม่เพียงแต่การันตีด้วย การเข้าชิงถึง 13 รางวัลออสการ์ แต่หนังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงาม และลายเส้นอันเป็นจุดเด่นเฉพาะของผู้กำกับ กีเยร์โม เดล โตโร โดยในเรื่องนี้พูดถึงเรื่องราวของสาวใบ้ผู้เป็นภารโรงอยู่ในห้องแล็บของรัฐบาล ในอเมริกายุค 60 ซึ่งที่นั่นเองทำให้เธอได้พบกับสิ่งมีชีวิตลึกลับครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่ถูกจับมาทดลองและถูกทารุณ นอกจากความสงสารแล้วทั้งสองเหมือนมีบางอย่างที่เชื่อมโยงเข้าหากันและเกิดความสัมพันธ์บางอย่างขึ้นระหว่างสองสายพันธุ์ 

การออกแบบสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ของเดล โตโร คือสิ่งที่ผมหลงไหลมาก เพราะมันดูน่าค้นหา และเต็มไปด้วยจินตนาการที่ค่อนข้างล้ำมาก หากใครได้ดูหลายต่อหลายเรื่องของเขาจะเข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นตรงนี้ถูกนำไปจัดวางในภาพยนตร์หลากหลายประเภท ตั้งแต่สยองขวัญ ระทึกขวัญ แอคชั่น หนังหุ่นยนต์ และล่าสุดในเรื่องนี้คือโรแมนติก เพิ่มเติมคือไม่ได้สวยงามและน่าหลงไหลแค่อมนุษย์ แต่งาน set up ฉากต่างๆ บรรยากาศ อเมริกา 60's ในเรื่องก็ยังน่าสนใจและเสริมหนังให้เราดูอินมากขึ้น งานภาพก็ดี เสียงดีทุกอย่างดีมากกกก รวมๆ แล้วคืออวยแหละ เพราะชอบมาก 

นอกจากนี้แม้ตัวหนังจะพีเรียดมาก แต่ก็ยังมีประเด็นที่ทันสมัยแฝงอยู่มากมาย ทั้งประเด็นคนชายขอบในสังคมที่กลายเป็นประเด็นร่วมสมัย ไม่ว่าจะอยู่ในหนังช่วงไหนหรือแนวอะไรก็ไม่เชย แถมถ้ามองในแง่มุมของหนังรัก มองมุมนึงมันก็มีความคลีเชอยู่บ้าง (อาจเพนราะส่วนใหญ่คล้ายกับโฉมงานกับเจ้าชายอสูร) แต่ความขม ความดาร์คที่คอยตัดอยู่ตลอดทั้งเรื่องถือว่าเป็นรสชาติที่ใหม่และลงตัวกว่าที่คิดไว้มาก 

ไม่อยากให้คนทั่วไปมองข้ามเพียงเพราะนี่เป็นหนังที่เข้าชิงออสการ์เยอะมาก หนังดูไม่ยากอย่างที่คิดและดูเพลิดเพลิน อาจมีภาพที่โหดร้าย และโป๊เปลือยอยู่บ้าง ไม่เหมาะสำหรับเด็ก แต่อยากให้ได้ลองไปชมกันมากๆ เพราะเป็นหนังที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ในแง่มุมของศิลปะภาพยนตร์ มีสารอาหารครบถ้วน แต่ไม่ได้บริโภคยากเลย อยากให้ลองไปชมกันดูครับ 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
9
การดำเนินเรื่อง
9
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.8
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
8 กุมภาพันธ์ 2561 22:53:12

แปลกในแปลก - รีวิว Shape Of Water ฉบับเด็กเดินตั๋ว [ไม่สปอยล์]

หนังมาแรงกระแสดี มีรางวัลพ่วงท้ายมากมาย และยังได้เข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมและอีกหลายสาขามากมาย แถมหน้าหนังยังน่าสนใจขนาดนี้ เด็กเดินตั๋วแทบปักหมุดตั้งตารอเลย

หนังอลังการงานสร้างจากจินตนาการของหนึ่งผู้กำกับขาโหด เฮียกิลเลอโม เดอโตโร่ (อ่านถูกไหมหว่า) เจ้าของงานเหนือจินตนาการสายดาร์กอย่าง Pan's Labyrinth และ Pacific Rim คราวนี้รสชาติหนังไม่ต่างกันมากนัก ดาร์กๆ หลอนๆ เต็มไปด้วยภาพสยองๆ ติดเรทตามสไตล์ผู้กำกับ (ประมาณเดียวกับ Pan's Labyrinthเลย) ที่ต่างกันคือคราวนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวความรักโรแมนติกของสาวใบ้กับตัวกัปปะ หรือมนุษย์ปลาทะเล ที่มีความโรแมนติกอยู่ในความไซไฟอยู่ในความสยองขวัญเล็กน้อยคลุกเคล้ากันไปตลอดทั้งเรื่อง

เนื้อเรื่องเหนือจินตนาการแต่แอบมีความเรียบง่ายพอคาดเดาได้ประมาณนึงตามสไตล์หนังฮอลลีวู้ด แต่แอบแฝงด้วยสัญญะต่างๆ ให้ชวนกับไปขบคิด สะท้อนมุมมองสังคม ขนบยุคสมัยพอให้กลับไปตกผลึกเล่นได้ประมาณนึง แต่ไม่ถึงค้างคาใจ วิชวลหรืองานด้านภาพช่างออกแบบมาอย่างสวยงามใช้ได้เลย การออกแบบเสียงและเพลงก็โดดเด่นเลยทีเดียว งานสร้างต่างๆก็อยู่ในมาตรฐานของฮอลลีวู้ดกำลังดี ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือนักแสดงแทบมีมิติทุกตัวจริงๆ ถ่ายทอดลึกมากๆ แม้จะตัวประกอบของตัวประกอบก็ยังจะมีมิติ นักแสดงนำล้วนเอาทุกอย่างโกยมาเทใส่หนังเรื่องนี้ทั้งฝีมือการแสดง ทั้งร่ายกาย ทั้งจิตใจแทบเปี่ยมล้นทะลักจอออกมาจริงๆ ทุกอย่างล้วนประคองหนังไปด้วยกันอย่างลงตัว สมกับการเป็นหนังที่กระแสดี และมีรางวัลมากมายก่ายกองจริงๆ

ก็เป็นอีกรสชาติที่แปลก เรียกได้ว่ามีความ Exotic ในหนังไซไฟ มีความแปลกในความเดิม มีความใหม่ในความเก่า น่าสนใจทีเดียว อาจจะหารอบยากหน่อย มีบางโรงฉายต้องเช็คดีๆ หนังเรื่องนี้ติดเรทด้วยนะทั้งเปลือยทั้งเลือดเต็มไปหมด ไม่ฟรุ้งฟริ้งนะจ้ะ อย่าพาลูกพาหลานไปดูหล่ะ ไม่แนะนำเด็กๆอาจจะฝันร้ายได้เลย

- เด็กเดินตั๋ว -
 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)