American Made - อเมริกัน เมด
หนัง American Made หรือชื่อไทยว่า อเมริกัน เมด ภาพยนตร์ของยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ในภารกิจระหว่างประเทศสุดกล้าและบ้าบิ่นจากการฝ่าฝืนกฎเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง ของแบรี่ ซีล นักธุรกิจและนักบินที่ได้รับคัดเลือกโดยซีไอเอ ที่จะดำเนินการอย่างลับๆครั้งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ American Made สร้างโดย iImagine Entertainment โดยผู้สร้างรางวัลออสการ์ ไบรอัน เกรเซอร์ จาก A Beautiful Mind ร่วมด้วย ไบรอัน โอลิเวอร์ จาก Cross Creek Pictures (ภาพยนตร์ Black Swan)และ ไทเลอร์ ธอมสัน จาก เอเวอร์เรสต์, ดั๊ค เดวิสัน จาก Quadrant Pictures จากภาพยนตร์ The Departed และ คิม รอธ จาก Inside Man
หนัง American Made หรือชื่อไทยว่า อเมริกัน เมด A pilot lands work for the CIA and as a drug runner in the south during the 1980s.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
นี่คือหนึ่งในหนังที่น่าทึ่ง โดยไม่ได้อาศัยทุนเงินสร้างเอฟเฟกต์ตระการตา หรือเป็นหนังศิลปะชั้นครูที่มีสุนทรียะวิจิตรเลิศล้ำอะไรเทือกนั้น แต่คือการเลือกจับประเด็นที่น่าสนใจและขยายก่อร่างสร้างเรื่อง จากรายละเอียดที่มีพื้นฐานจากเรื่องจริงได้อย่างแพรวพราวมีชั้นเชิง Doug Liman ผู้กำกับของเรื่องมีสไตล์การเล่าเรื่องเฉพาะตัวที่แม้จะไม่ใช่ผู้กำกับที่มีสไตล์จัดจ้านอะไรมากมาย แต่จุดเด่นคือจังหวะเล่าเรื่องที่กระชับฉับไว ไม่แอ๊คอาร์ต หรือไม่บิวท์ด้วยภาษาภาพยนตร์ที่เห็นกันมากจนเฝือ
หนังเริ่มเรื่องด้วย Barry Seal นักบินพาณิชย์มือดี ผู้รักจะมีชีวิตผาดโผนมากกว่างานนักบินน่าเบื่อ จนไปตกปากรับคำทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ซีไอเอ รับภารกิจลับระดับประเทศ จนนำชีวิตของเขาและเราซึ่งเป็นผู้ชมไปสู่การผจญภัยที่คาดไม่ถึง และบ้าบอคอแตกอย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือหนังที่ว่าด้วยความตลกร้ายของประวัติศาสตร์ระดับโลกที่เกี่ยวพันกับชะตาชีวิตนักบินธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถูกถ่ายทอดเรื่องราวออกมาสู่จอภาพยนตร์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังสงครามระดับโลก การขนย้ายอาวุธและฝึกทหารเถื่อน ไปจนถึงกิจการของเจ้าพ่อยาเสพติดในตำนาน
อีกสิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือ ในส่วนของบทภาพยนตร์ที่สร้างเรื่องผ่านรายละเอียดและเกร็ดความจริงได้อย่างมีสีสัน และความที่เรื่องสร้างมาจากความจริง ทำให้วิธีคิดบทแตกต่างจากแพทเทิร์นบทหนังเล่าเรื่องทั่วไป ทำให้แม้เราจะคาดเดาภาพรวมทั้งหมดของหนังออก แต่ในรายละเอียดซีนรายทางจะเต็มไปด้วยเรื่องราวเหนือจินตนาการ และมีเซอร์ไพรซ์ให้ได้อ้าปากค้างตลอดทั้งเรื่องได้อย่างน่าทึ่ง
สรุปผลวิจารณ์หนัง
American Made
115 min | Biography/Comedy | Directed by Doug Liman
ปีก่อนมี The Infiltrator ที่เดือดระอุแต่สุขุม ปีนี้มี American Made ที่เดือดแต่มันส์และสดกว่า แต่ก็พูดถึงเรื่องยาเสพติดและพาโบล เอสโคบาร์เหมือนกัน โดยได้ ดั๊ก ไลแมน ผกก.มือเทพที่พึ่งพีคกันไปใน Edge of Tomorrow ซึ่งรอบนี้เขากลับมาพร้อมกับทอม ครูซ อีกครั้ง ในบทบาทของ แบร์รี่ ซีล นักบินที่จับพลัดจับผลูไปทำงานให้กับซีไอเอ แต่การทำเพื่อชาติก็ไม่ได้ช่วยให้ปากท้องอิ่ม ซีลจึงเข้าไปพัวพันกับการขนยาเสพติด และเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค พาโบล เอสโคบาร์
ต้องบอกเลยครับว่าหนังเล่าเรื่องได้สนุกมาก แม้ว่าเราจะเคยดูหนังเกี่ยวกับเอสโคบาร์ไปเยอะมาก แต่ก็ยังมีหนังดี ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกมาอีกเรื่อย ๆ เพราะยุคนั้นมันเป็นยุคของเขาเลย และแน่นอนว่ามันมีบุคคลหรือตัวละครที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านี้เต็มไปหมด และแต่ละคนก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งนั้น แบร์รี่ ซีลก็เช่นกัน หนังมันสนุก ตลก และเพลิดเพลิน ผาดโผนมาก ไม่ตึงเครียดเหมือนเรื่องอื่น ๆ เลย
ไม่มีช่วงไหนในเรื่องที่น่าเบื่อเลยครับ ไม่ต้องกังวล เพราะตั้งแต่โลโก้ยูนิเวอร์แซลขึ้น หนังก็จัดเต็ม เล่าเรื่องไว ตัดต่อดี กระชับ ตรงจุดนี้ก็เลยเสริมให้หนังมันดูเพลินมาก และสนุกมากด้วย แถมบังเอิญได้ไปดูในระบบ IMAX ยิ่งเข้าท่ามากเลย และทำให้ American Made เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมชอบมากในปีนี้
ทอม ครูซ สลัดคราบสายลับ และบทบาทเดิม ๆ ของเขาไปได้อย่างแนบเนียน ถึงจะดูทอม ครู๊ซซซซ ทอม ครูซอยู่ก็เถอะ แต่เรื่องนี้พี่แกเอาอยู่เลยนะ American Made จึงเป็นหนังที่ย่อยง่าย ดูเพลิน ดูสนุกมากจริง ๆ แนะนำเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าใครชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ยาเสพติดในอเมริกากลาง ยุคเอสโคบาร์นี่ยิ่งห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
American Made
31 August 2017 | กำกับ Doug Liman
หนังชีวประวัติสุดโลดโผนของ แบรี่ ซีล (ทอม ครูซ) นักบินมากฝีมือสุดห่าม ที่ต้องการผจัญภัยมากกว่าชีวิตน่าเบื่อ จับพลัดจับผลูไปลงเอยทำงานให้กับ CIA แต่ทว่าการทำงานเพื่อชาตินั้นลำพังไม่อาจพอยาไส้เมียและลูกได้ เขาเลยรับจ๊อบอื่นไปด้วยในตัว นั่นคือการลักลอบขนยาเสพติด ทำเงินได้ถึง 500,000 เหรียญต่อเที่ยว หลบสายตาของตำรวจไปพร้อมกับทำภารกิจลับ เป็นหนังไสตล์ค้าขายยาเสพติด ที่ขึ้นสุดลงสุด มีช่วงเวลาตั้งต้น ช่วงเวลาสุดรวย และช่วงเวลาที่ตกต่ำกระแทกพื้น ท่ามกลางบรรยากาศสงครามเย็นที่คุกรุ่นอยู่รอบๆตัว และเนื่องจากทำจากเรื่องจริง มันเลยมีกลิ่นอายประวัติศาสตร์ และการจิกกัดอเมริกันตลอดเวลา
การเล่าเรื่องของ American Made เรียกได้ว่าโคตรมันส์ เนื้อเรื่องสมบูรณ์ แต่ละองค์มีลูกล่อลูกชนครบ มีจังหวะบิวท์อารมณ์ จังหวะสานต่อ มุกตลกร้ายกาจ ก่อนจะหักมุมใส่คนดู ไม่ใช่แค่ทีเดียว แต่เป็นทั้งเรื่อง แล้วค่อย ๆ ไต่อันดับความพีคไปตามเส้นแห่งความบ้าคลั่งของ แบรี่ ซีล ที่ต้องเผชิญทั้งพาร์โบว์ เอสโคบาร์เจ้าพ่อยาเสพติดชื่อดัง ที่ปรากฏในหนังเรื่องอื่นหลาย ๆ เรื่อง การบินที่แทบเป็นไปไม่ได้ CIA ผู้ก่อการร้ายในนิคารากัว ตำรวจจากทุกแผนก เงินจำนวนมหาศาล และแม้กระทั่งครอบครัวตัวเอง แม้หนังจะไม่มีฉากแอคชั่นเลย แต่การตัดต่อ การเล่าเรื่องนี่สนุก ไม่มีอืดแม้แต่นิดเดียว หนังไปต่อเสมอ ไปต่อแบบสุดมันส์
การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง ทอม ครูซ กับ ผู้กำกับ Doug Liman จาก Edge of Tomorow นั้นเนียนและสมบูรณ์ ทอม ครูซ สามารถแบกหนังได้ทั้งเรื่อง การแสดงของเขานอกจากขับเคี่ยวความเป็น แบรี่ ซีล ออกมาบ้า ๆ ห่าม ๆ แล้ว ยังมีความเป็นมนุษย์ผิดชอบชั่วดีอยู่ในตัวเอง เราจะค่อย ๆ เรียนรู้อย่างช้า ๆ ว่าชีวิตของเขา แม้จะทุลักทุเล แต่ก็งดงามในแบบของมันเอง เพราะที่สุดแล้ว "เขาก็ได้ผจญภัย" อย่างแท้จริง
ใต้บรรทัดของหนังมีการจิกกัดการเมืองอเมริกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะแนวคิดผลประโยชน์ร่วม ทำให้ แบรี่ ซีล เอาตัวรอดมาได้บ่อย ๆ ด้วยลูกฟลุ๊คบ้าง เรื่องผิดกฏหมายบ้าง รวมไปถึงการพูดถึงนักการเมืองอีกคนที่มารับช่วงต่อจากแรเกน ก็เป็นไปตามชื่อหนัง ทุกความขัดแย้ง ทุกปัญหายาเสพติด ทุกปัญหาก่อการร้าย ดูเหมือนว่าหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ นี่แหละเป็นต้นเหตุ เป็นสิ่งที่อเมริกาสร้างมากับมือ ...เช่นเดียวกับตาลีบันในอนาคต...
หนังอาจทำให้ แบรี่ ซีล ดูเป็นคนดีไปบ้าง และมีครอบครัวที่ค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่ง แต่โดยรวมแล้ว American Made ทำได้สนุกมาก ผมชอบหนังเรื่องนี้ เทียบได้กับหนังการเมืองสมัยสงครามเย็น เอาไว้ข้าง ๆ Lord of War (2005) และ Charlie Wilson's War (2007) แบบต่อเนื่องกันได้เลยล่ะ
สนุกดี ถ้าชอบหนังไสตล์กล้องแฮนด์เฮล เล่าเรื่องด้วยคำพูดเยอะ ๆ มีตลกร้ายจิกกัดมนุษย์ สงครามเย็น ยาเสพติด และความบ้อบอต่อความรวยล่ะก็ แนะนำให้ดูในโรงเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง