0 Predestination+-+%E0%B8%A2%E0%B8%B6%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95

Predestination - ยึดเวลาล่าอนาคต

เข้าฉาย 26 กุมภาพันธ์ 2558
ผู้ชม : 6,892
ผู้กำกับ : Michael and Peter Spierig
ความยาวหนัง : ไม่ระบุ
Text Size
สร้างจากเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ของนักเขียนในตำนาน โรเบิร์ต เอ ไฮน์ไลน์ ที่กลายมาเป็นผลงานภาพยนตร์ทริลเลอร์-ไซไฟเรื่องใหม่จากผู้กำกับ Daybreakers เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคต เมื่อ เจ้าหน้าที่พิเศษ (อีธาน ฮอว์ค) มีหน้าที่ในการเดินทางย้อนเวลาเพื่อหยุดยั้งอาชญากรรมก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยภารกิจสุดท้ายของเขาก็คือการเดินทางกลับไปหาตัวเองสมัยเด็ก เพื่อชักชวนให้เข้ามาทำงานเหมือนเขา รวมถึงการตามล่าหาอาชญากรข้ามเวลาปริศนาที่เขาไล่ตามจับมาตลอดชีวิต

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

5 มีนาคม 2558 03:02:33
Predestination (Michael Spierig, Peter Spierig / Australia / 2014)
 
***สปอยล์นะจ๊ะ***
 
 
หนังพยายามสุดๆ แต่เสียดายที่ช่องโหว่มันก็ใหญ่สัสๆ เหมือนกัน  เราไม่เชื่อว่ามันจะรักกันได้กันขนาดนั้นได้ง่ายๆ  ยิ่งแล้วใหญ่เมื่อตัวละครมันรู้ว่าสิ่งที่จะทำลงไปมันจะส่งผลดีร้ายยังไง  มันไม่มีรายละเอียดการดีเบตของตัวละครตรงนั้นทำให้การไปต่อมันเหมือนดันทุรังเหมือนแถและบังคับตัวละครให้เป็นไปตามเป้าเพื่อเรื่องราวที่สมบูรณ์  และเราไม่แน่ใจว่าคนในอดีตกับอนาคตโครโมโซมมันจะชุดเดียวกัน  ได้กันแล้วมีลูกแล้วคลอดออกมาจะบกพร่องทางร่างกายหรือสติปัญญาหรือเปล่า  
 
แต่พอมองในแง่ของสาส์นและปรัชญาที่ดูหนังผ่านมาสองสามวันแล้วยังก้องทบทวนอยู่ในหัว  มันก็เอ็ฟเฟ็กต์กับเราได้มากๆ แต่ก็ยังคิดไม่ตกตะกอนสักที  แล้วเราสนใจเรื่องราวต่อไปที่ว่า  พอพระเอกมันฆ่าอนาคตตัวเองตายแล้ว  ตัวมันเองในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงอนาคตตัวเองได้หรือเปล่านะ...และตัวมันในเวลาอื่นๆ จะมาป๊ะกันและฆ่ากันอีกหรือเปล่า  พอเปลี่ยนไก่กับไข่มาเป็นคนมันก็งงและหาคำตอบยากพอๆ กัน  แต่ความคิดหนึ่งที่แว้บเข้ามาหลังจากหนังจบก็คือว่าพระเจ้าไม่ได้สร้างเรา  เราต่างหากที่สร้างตัวเราเองขึ้นมา...
 
ที่ชอบที่สุดคือความทะเยอทะยานที่มันอยู่ในร่องในรอยไม่ออกนอกลู่นอกทางไปไหนได้ตลอดรอดฝั่ง  ทั้งอารมณ์และบรรยากาศทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้หนังมันสนุกเพื่อเสิร์ฟอัดคนดูลูกเดียว  แต่ทุกอย่างมีไว้เพื่อพยุงเรื่องที่จะเล่าซึ่งความพยายามที่จะเล่ามันทำให้มันออกมาสนุกน่าลุ้นน่าตื่นเต้นได้  ถึงแม้เราจะเดาหนังได้ตั้งแต่เนิ่นก็ตาม
 
 
ตอนดูนี่สงสัยตลอดเวลาว่าแคสต์ของ Sarah Snook เนี่ยใช้นักแสดงคนเดียวหรือสองคนกัน  โดยเฉพาะหลังเป็นผู้ชายแล้วเพราะวางเสียงเนียนมากๆ  แว้บหนึ่งเราเห็นเป็น Dane Dehaan สักพักเป็น Leonardo DiCaprio หรือไม่ก็ Léa Seydoux ซึ่งมันก็เสริมความสนุกในการเทียบเคียงหน้าคนนั้นคนนี้แต่ก็ขัดสมาธิในการจ้องสังเกตไปทั้งเรื่อง  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
 
สุดท้ายคือเราเกิดคำถามว่า  ถ้านี่เป็นหนังของ Christopher Nolan หรือผู้กำกับที่มีสาวกอุ่นหนาฝาคั่งคนอื่นๆ เรื่องราวแบบนี้  ประเด็นแบบนี้  วิธีการเล่าแบบนี้คนดูจะยังเอ็ฟเฟ็กต์กับหนังในความรู้สึกที่เป็นอยู่อย่างนี้หรือเปล่านะ?

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
8.2
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)