King Arthur: Legend of the Sword - คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์
เข้าฉาย 11 พฤษภาคม 2560
ผู้ชม : 37,910
ผู้กำกับ
: Guy Ritchie (กาย ริชชี)
ความยาวหนัง
: 130.00
Text Size
หนัง King Arthur: Legend of the Sword จะเป็นการเล่าเรื่องราวในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่การเล่าเรื่องราวของกษัตริย์ผู้กล้า ที่ปราบบรรดาผู้แข็งขืนให้ยอมศิโรราบ แต่จะเล่าถึงเรื่องราวของ วอร์ติเกิร์น (จู๊ด ลอว์) ที่คิดลอบสังหาร ยูเธอร์ เพนดรากอน (อีริค บานา) พี่ชายตัวเอง เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ อาเธอร์ (ชาลี ฮันแนม) ผู้เป็นลูกชายจึงเกิดความโกรธแค้น จึงคิดจะล้างแค้นให้ผู้เป็นพ่อ แต่เหตุการณ์ทุกอย่างกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คาด เมื่อ วอร์ติเกิร์น มีพลังบางอย่างที่ยากจะต่อกร ภาพยนตร์จากค่าย วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ตำนานกษัตริย์ คิง อาเธอร์ที่ถูกนำมาเล่าใหม่ โดยผู้กำกับ กาย ริชชี ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออย่าง จู๊ด ลอว์, ชาลี ฮันแนม, แอนนาเบล วอลลิส, อีริค บานา และ ดิจิมอน ฮาวน์ซู
King Arthur Legend of the Sword ตำนานเก่าเล่าใหม่ ในไตล์ที่ไม่เหมือนใคร
จั่วหัวมาแบบนี้ต้องบอกเลยว่า ตำนานดาบในหินและกษัตริย์อาร์เธอร์ ถูกเอามารีเมค #อีกแล้ว ซึ่งครั้งแรกที่ได้ยินว่าจะมีการเอามาทำเป็นหนังนั้น มันไม่น่าจะน่าติดตามเอาซะเลย เพราะในส่วนของเนื้อเรื่องมันไมได้มีอะไรให้เล่ามากเลยจริงๆ เป็นเพียงเรื่องราวของกษัตริย์คนนึงที่กว่าจะได้ขึ้นครองบัลลังค์ ก็ต้องสู้ๆๆ แล้วก็สู้เพื่อให้ได้ทวงสิทธิ์ของตัวเองกลับมาแค่นั้นจริงๆ
โปรเจคนี้มันน่าสะดุดตาตรงที่ผู้กำกับอย่าง กาย ริชชี่ เจ้าของผลงานอย่าง เชอร์ล็อคโฮล์ม เวอร์ชั่นภาพยนตร์ ทั้งภาค 1-2 ที่ทำไว้ดีมากจริงๆ ด้วยสไตล์การเล่าของเรื่องผกก.คนนี้ ทำให้โปรเจค King Arthur นั้นน่าสนใจขึ้นมามากโข
พอหนังเข้าฉายผมก็ได้มีโอกาสไปลองดูทันที โดยไม่แคร์คำรีวิวของสำนักไหนทั้งนั้น หลังจากดูจบบอกได้คำเดียวเลยว่า โคตรเจ๋งและน่าติดตามมาก กาย ริชชี่ สามารถทำให้เนื้อเรื่องที่แสนจะธรรมดานั้น มีเสน่ห์และน่าติดตามโคตรๆ ต้องขอชมจริงๆ ที่สามารถเล่าชะตากรรมของอาร์เธอร์วัยเด็ก-ผู้ใหญ่ ที่ต้องปากกัดตีนถีบยังไง ลำบากอย่างไรบ้าง โดยใช้เวลาเพียงไม่เกิน 3 นาที หลังจากนั้นตัวหนังก็เดินเครื่องเต็มสูบไปจนจบเรื่อง ไม่มีเวลายืดเยื้อให้เสียเวลาเลย
เป็น 2 ชั่วโมงที่ดีงามจริงๆ ถูกจริตผมเอามากๆ แต่ก็อยากจะขอเตือนไว้สำหรับใครที่เคยดู เชอร์ล็อคโฮล์ม ของ ผู้กำกับคนนี้แล้วไม่ชอบ ขอให้เลี่ยงไปก็ดี เพราะโทนหนังการดำเนินเรื่องนั้น จะเป็นไปในโทนเดียวกันกับเชอร์ล็อคโฮมเลย การตัดฉาก เรียงลำกับฉากเน็นความหวือหวา รวดเร็ว ถ้าคนชอบก็จะชอบไปเลย เกลียดก็จะเกลียดไปเลย ส่วนตัวแล้วผมให้ 7.5/10 ไปเลยสำหรับ King Arthur เวอร์ชั่นนี้ และอยากจะไปดูซ้ำอีกจริงๆ
สรุปผลวิจารณ์หนัง