0 Ouija%3A+Origin+of+Evil+-+%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%88

Ouija: Origin of Evil - กำเนิดกระดานปีศาจ

เข้าฉาย 3 พฤศจิกายน 2559
ผู้ชม : 10,879
ผู้กำกับ : Mike Flanagan (ไมค์ ฟลานาแกน)
ความยาวหนัง : 100.00
Text Size

หนัง Ouija: Origin of Evil หรือชื่อไทยว่า กำเนิดกระดานปีศาจ เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1965 ที่ลอสแอนเจลิส แม่ม่ายและลูกสาวสองคน ซึ่งทำมาหาเลี้ยงชีวิตด้วยธุรกิจหลอกลวงต้มตุ๋น ด้วยการติดต่อกับภูติผีวิญญาณ เมื่อวิญญาณที่พวกเขาได้เชิญเข้าบ้านมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่ผี แต่เป็นปีศาจ และวิญญาณชั่วร้ายได้เข้าครอบงำลูกสาวคนเล็ก ครอบครัวนี้จึงต้องเผชิญกับความน่าสะพรึงอย่างที่สุด นำแสดงโดย เฮนรี่ โธมัส, เอลิซาเบธ รีเซอร์, ดั๊ก โจนส์, ปาร์กเกอร์ แม็ค, แซม แอนเดอร์สัน, เคท ซีเกล, แอนนาลีส บาสโซ และ ลูลู่ วิลสัน ผลงานกำกับของ ไมค์ ฟลานาแกน จาก Oculus และ Before I Wake


หนัง Ouija: Origin of Evil หรือชื่อไทยว่า กำเนิดกระดานปีศาจ Sequel to the 2014 horror film ''Ouija''.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

3 พฤศจิกายน 2559 22:28:19

Ouija Origin of Evil ต่อยอดจากความจำเจ ให้ออกมาน่าสนใจ

เป็นอีกเรื่องที่ไม่คิดว่าจะเข็นภาคต่อ ที่เป็นภาคก่อน (ภาคแรก) ออกมาฉายได้ หลายคนก็หวั่นๆ หลังจากเห็นตัวอย่างหนังแล้ว มุมกล้องเอย โปรดักชั่นเอย ทำไมมันดูทุนต่ำเหมือนหนังเกรดบีซะอย่างงั้น นี่หรือหนังฉายโรง สมัยปี 2016

แต่พอหนังได้ออกฉายจริง ได้รับคำรีวิวไปในทางที่ดีต่าง ๆ นา ๆ จนน่าจับตามองเป็นครั้งแรก และพอบ้านเราเข้าฉาย ผมก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปลองชม

ส่วนตัวก่อนชมมีการปรับโหมดตัวเอง ทำการบ้านมาก่อนว่า ตัวหนังนั้น ที่มีมุมกล้องและโปรดักชั่นแบบหนังทุนต่ำ หนังเกรดบี เพื่อเคารพหนังแนว ๆ นี้ ของยุคก่อน โดยที่ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคภาพฟุ้ง ๆ หรือแม้กระทั่งรอยวงกลมดำ ที่จะเจอเวลาดูหนังผ่านการฉายด้วยระบบฟิล์ม ก็มีการใส่เข้ามาเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง

ตัวหนังเองว่าด้วยเรื่องของครอบครัว (พื้นฐานหนังผีตามสมัยนิยมจริง ๆ) แต่ด้วยโทนหนังที่ค่อย ๆ บิ้วความน่ากลัวเพิ่มขึ้น พร้อมฉากตุ้งแช่ ที่หาจังหวะเหมาะ และมีลูกเล่นกับคนดูได้ดี  ถือว่าสอบผ่านมากกว่าภาคแรกซะอีก เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ จนไปถึงบทสรุปที่เชื่อมโยงกับภาคแรก ที่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากภาคนี้ ซึ่งทำออกมาเก็บรายละเอียดได้น่าพอใจทีเดียว

โดยรวมตัวหนังยังคงมีความเนิบนาบอยู่บ้างระหว่างทาง (ไม่มากเท่าภาคแรก) แต่ก็สามารถจัดความตุ้งแช่ใส่คนดูได้อย่างฉลาด (ไม่แป๊กแบบภาคแรก) ทำให้ดูมีอะไรน่าติดตาม น่าสนใจอยู่บ้างจนทำให้คนดูไม่เบื่อไปซะก่อน ผมให้ 7/10 สำหรับภาคนี้

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
7
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)