TRAIN TO BUSAN - ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง
หนัง Train to Busan หรือชื่อไทยว่า ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง Train to Busan เล่าถึงเรื่องราวสุดระทึกเมื่อ ซอกวู (รับบทโดย กงยู) และลูกสาว ซูอา (รับบทโดย อาน คิมซู) กำลังขึ้นขบวนรถไฟเคทีเอ็กซ์ที่จะพาทั้งสองเดินจากจากกรุงโซลไปยังเมืองปูซานเพื่อเยี่ยมภรรยาเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน แต่ทันทีที่รถไฟกำลังจะเคลื่อนออกจากชานชาลา กลับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้โดยสารทั้งขบวนต้องช็อค เมื่อสถานีรถไฟกลับถูกฝูงซอมบี้โจมตี คร่าชีวิตคนขับรถไฟและผู้โดยสาร รถไฟเคทีเอ็กซ์มุ่งตรงไปยังปูซานโดยไร้คนขับ ผู้โดยสารทั้งหมดต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ที่กำลังไล่ล่าพวกเขาจากโบกี้สู่โบกี้อย่างไม่ลดละตลอด 90 นาทีของเส้นทางมุ่งหน้าสู่ปูซาน Train to Busan นำแสดงโดย กงยู พระเอกหนุ่มหล่อที่มีแฟนๆ ติดตามล้นหลามจากบทบาทเจ้าของร้านกาแฟในซีรี่ย์ที่ฮิตที่สุดเรื่องหนึ่ง Coffee Prince ครั้งนี้ เขาจะขอสลัดมาดพระเอกรอมคอม มารับบทแอคชั่น-เขย่าขวัญอย่างเต็มตัว พร้อมด้วยการขึ้นจอครั้งสำคัญของ โซฮี ไอดอล-อดีตนักร้องสาวสุดน่ารักแห่งวงเกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดังสุดขีดอย่าง Wonder Girls
อาจจะพูดได้ว่าอะไรก็ตามที่เราคาดหวังจากหนังหายนะของมวลมนุษยชาติ ทั้งดีไซน์ความสยดสยองของตัวหายนะ จังหวะลุ้นเสียวจนหยุดหายใจ อารมณ์ที่ถูกเหวี่ยงขึ้นลงตั้งแต่ขำขันกับมุกตลกไปจนดราม่าต่อมน้ำตาแตก ตัวละครหลากหลายที่น่าสนใจทั้งยังเป็นตัวแทนภาพใหญ่ของคนในสังคม และเมจเสจสอดแทรการวิพากษ์สังคมร่วมสมัย สิ่งเหล่านี้ล้วนมีครบและทำได้เกินความคาดหวังของผู้ชมด้วยซ้ำไปใน Train to Busan
ถึงแม้หน้าหนังโดยรวมและโครงสร้างองค์ประกอบต่างๆ ในหนังจะไม่ได้มีความแปลกใหม่เท่าใดนัก จะว่าตามรอยสูตรการเล่าเรื่องของหนังทั่วไปในตระกูลนี้ก็ว่าได้ แต่ Train to Busan นั้นรู้ตัวอยู่อยู่เสมอว่าตัวเองกำลังตามรอยสูตรการเล่าเรื่องแบบไหน และแกะรอยตะเข็บไล่ทุกรายละเอียดและใส่ความคิดส้รางสรรค์และความพิถีพิถันในการสร้างอารมณ์ได้อย่างหยุดหมัดสั่งคนดูได้ จังหวะจะให้ลุ้น จะให้เกลียด จะให้รัก จะให้ซึ้ง ให้ร้องไห้ หรือให้ความหวัง
ราวกับว่าประเทศที่พัฒนาเต็มตัวแล้วและเข้าสู่สังคมเมืองสมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบจะมีปมปัญหาร่วมกันคือปัญหาสำนึกร่วมของคนในสังคม ในรูปแบบสังคมเมืองสมัยใหม่ที่ทุกคนต้องแข่งขันและจัดการกับคุณภาพชีวิตของตัวเอง รักษาสถานภาพในสังคมจนมีรูปแบบของการช่วยเหลือตัวเอง มีความเป็นปัจเจกชนมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันคนเราสามารถอยู่อย่างปัจเจกได้แค่ไหน ในเมื่อเราต่างมีชีวิตอยู่ด้วยการใช้สอยผลประโยชน์จากทรัพยากรส่วนรวม พึ่งพาอาศัย เบียดเบียน ให้คุณ ให้โทษ กับชีวิตอื่นๆ ในสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะตามกฏเกณฑ์โลกทุนนิยมที่ผู้มีความสามารถในการสะสมทุนย่อมได้เปรียบเสมอ แต่ทุนที่เขาสะสมเป็นของเขาผู้เดียวโดยชอบธรรมแค่ไหน และการขยับตัวของทุนก้อนใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมได้นั้นมีความชอบธรรมขนาดไหน ดังนั้นเมื่อผลกระทบด้านมืดของสังคมเมืองก่อตัวเป็นมหันตภัยฝูงซอมบี้ไล่กัดกินแพร่เชื้อทำลายชีวิตผู้คนในสังคม จำเป็นที่ผู้คนต้องสร้างสปิริตร่วมมือร่วมใจกันเอาตัวรอด การเสียสละ ไม่เอาแต่รักตัวกลัวตาย หนังค่อนข้างเชิดชูค่านิยมสถาบันครอบครัวอันเป็นพื้นฐานของสังคมที่อยู่อย่างเกื้อกูล
อุตสาหกรรมหนังเกาหลีปักธงชัยได้อย่างหนักแน่นมั่นคงอีกครั้งหลังจากกระแสตอบรับถล่มทลายของหนังเรื่องนี้ หากจะมีความสำเร็จไหนที่น่าจะถูกกล่าวขานไปอีกนานจากหนังเรื่องนี้อาจเป็นจุดแข็งในการผสมผสานศิลปะการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์กับความสำเร็จเชิงพานิชย์ ในวันที่ภาพยนตร์ศิลปะไม่ได้มีจุดยืนบนตลาดแมส ขณะที่หนังแมสหลายเรื่องก็ถูกลงโทษโดยผู้ชมเองเหมือนกันเมื่อมุ่งเน้นพานิชย์จนเละเทะในเชิงศิลปะ
สรุปผลวิจารณ์หนัง