Deepwater Horizon - ฝ่าวิบัติเพลิงนรก
เข้าฉาย 29 กันยายน 2559
ผู้ชม : 29,758
ผู้กำกับ
: Peter Berg (ปีเตอร์ เบิร์ก)
ความยาวหนัง
: 107.00
Text Size
หนัง Deepwater Horizon หรือชื่อไทยว่า ฝ่าวิบัติเพลิงนรก “Deepwater Horizon” ภาพยนตร์แนวมหันตภัยฟอร์มยักษ์ ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของเหตุการณ์แท่นขุดเจาะน้ำมันระเบิดครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ โดยภาพยนตร์บอกเล่าถึงความกล้าหาญของเหล่าบรรดาคนงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบชื่อว่า “ดีปวอเทอร์ ฮอไรซัน” ในอ่าวเม็กซิโกเมื่อปี 2010 ที่ต้องพยายามเอาชีวิตทั้งของตนเองและพวกพ้องให้รอดจากมหันตภัยครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็น การรั่วไหลนอกชายฝั่งครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
Deepwater Horizon (Peter Berg / USA / 2016)
Deep Water Horizon สร้างจากเหตุการณ์จริง เมื่อแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทที่มีชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง ได้เกิดความผิดพลาดในการทดสอบแรงดัน จนระเบิดกลางทะเล ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งมีน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกกว่า 210 ล้านแกนลอน ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำมันที่รุนแรงที่สุดของสหรัฐอเมริกา
ต้องบอกว่านี่เป็นหนังระทึกขวัญชั้นดี ที่พาผู้ชมอกสั่นขวัญหายได้อย่างตื่นตาตื่นใจ ถึงแม้เริ่มแรกที่หนังเริ่มอธิบายข้อมูลต่างๆ จะทำให้ชวนง่วงอยู่หน่อยๆ แต่ก็ทำให้เห็นภาพซ้ำของความรุนแรง ที่เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออยู่หลายครั้ง ทั้งแรงพุ่งของน้ำอัดลมอย่างที่เห็นในตัวอย่าง หรือการอุปมาอุปมัยแรงดันมหาศาลที่สามารถตัดรถยนต์ให้ขาดได้เป็นสองท่อน รวมถึงนกทะเลที่ถูกน้ำมันที่พวยพุ่งขึ้นฟ้า จนพลัดตกลงมาดิ้นทุรนทุรายอยู่ในเรือ ก็พลันให้นึกถึงภาพมนุษย์ซึ่งในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า หนังจะพาไปให้เห็นชีวิตของพวกเขาที่ต้องตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากนกตัวนี้ ทั้งหมดช่วยให้คนดูตื่นกลัวไปกับการอคอยว่า ความรุนแรงเหล่านั้นจะอุบัติขึ้นเมื่อไหร่ และการสร้างความหวาดระแวงด้วยความผิดปกติที่คุกรุ่นอยู่ใต้น้ำ ราวกับสัตว์ประหลาดที่รอเวลาตื่นมาทำลายล้าง ผสมบรรยากาศเหนือผิวน้ำและน่านฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ ก็ชวนให้หวาดหวั่นได้อย่างแม่นยำ และเมื่อวินาทีแรกของแรงระเบิดมาถึงเราก็ไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่กับที่ได้อีกต่อไป
ตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดแรงระเบิด ผู้กำกับ Peter Berg กำกับความรุนแรงราวกับเป็นเด็กเล็กที่สอนสั่งให้เชื่อฟังได้ จนสร้างความรู้สึกวูบวาบหวาดเสียวและสั่นสะทกได้ตื่นตาตื่นใจ ในวินาทีที่อีโก้ของมนุษย์ฟาดฟันกันเองจนเกิดความประมาทและพลาดพลั้ง เครื่องจักรทุ่นแรงมหึมาจึงเกิดชำรุดและอยู่นอกเหนือการควบคุม กลายร่างเป็นมังกรไฟบรรลัยกัลป์ เกรี้ยวกลืนชีวิตมนุษย์ผู้ท้าทายท่ามกลางท้องทะเลอันมืดมิดยามค่ำคืน ซึ่งทั้งหมดถ่ายทอดให้คนดูได้ประจักษ์และสำเหนียกถึงความกระจ้อยร่อยของมนุษย์ผู้สร้าง ผ่านการเผชิญความรุนแรงที่ไม่คาดคิดจากสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง เพื่อทุ่นแรงในการผลิตเงินแต่กลับนำมาสู่หายนะ
แต่การเผชิญมังกรเพลิงครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการหนีตายของเจ้าของบริษัทหรือผู้ถือหุ้น ที่อาจจะแค่เครียดกับการเสียประโยชน์อยู่ในห้องแอร์สักที่หนึ่ง แต่เป็นพนักงานชนชั้นกลางทั่วไปไป จนถึงกรรมกรใช้แรงงานที่ต้องเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ความเป็นความตายนี้ ทุกคนจึงถูกมองอยู่ในสถานะความเป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน ไม่มีความขัดแย้งทางชนชั้นวรรณะซึ่งอาจนำพามาสู่การโต้เถียง ความเอารัดเอาเปรียบกันอย่างที่หนังภัยพิบัติหลายๆ เรื่องเขียนแต่งขึ้น ทำให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ความเสียสละ ถูกหยิบจับมาเล่าได้อย่างน่าลุ้นน่าติดตาม พอดีงามไม่เลี่ยนเอียน กับการสรรเสริญคุณงามความดีซึ่งอาจเบี้ยวแบน เป็นหนังที่สถานการณ์เอื้อให้พระเอกกลายเป็นยอดฮีโร่ แต่สุดท้ายเราก็ยังรู้สึกว่าเขายังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ธรรมดาจนเราสัมผัสความรู้สึกของพวกเขาได้อย่างไม่ยากเย็น
สรุปผลวิจารณ์หนัง