Terraformars - สงครามฆ่าพันธุ์มฤตยู
เข้าฉาย 29 เมษายน 2559
ผู้ชม : 15,061
ผู้กำกับ
: Takashi Miike (ทาเคชิ มิอิเกะ)
ความยาวหนัง
: 110.00
Text Size
หนัง Terra Formars หรือชื่อไทยว่า ภารกิจล้างพันธุ์นรก Terraformars การ์ตูนที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมียอดขาย 15 ล้านเล่มทั่วโลก ถูกนำออกมาฉายเป็นภาพยนตร์แล้ว โดยเนื้อเรื่องที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์นั้นเป็นเรื่องราวการสู้กันระหว่างแมลงสาบกับมนุษย์บนดาวอังคาร การเผชิญหน้าที่ไม่คาดฝันของศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ที่มีชื่อว่า ''เทอราฟอร์มาร์ส'' หรือ แมลงสาบ ซึ่งพวกมันมีวิวัฒนาการของตัวเอง ทำให้มีความแข็งแกร่งที่จะต่อสู้กับมนุษย์ได้นั้น มนุษย์จะทำอย่างไรเพื่อที่จะกำจัดศัตรูตัวร้ายและปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุด
Terra Formars (Takashi Miike / Japan / 2016)
แค่พล็อตที่ว่า..กลุ่มคนตกอับไร้ค่าไม่เป็นที่ต้องการในสังคมอย่างเช่น ฆาตกร คนโรคจิต แม่เล้า ยากูซ่า ฯลฯ ถูกผ่าตัดดัดแปลงให้สามารถตอบสนองยีนส์แมลงที่ฉีดเข้าร่างกายให้กลายพันธุ์ชั่วขณะเพื่อใช้ความสามารถของแมลงนั้นๆ ไปกำจัดกองทัพแมลงสาบกลายพันธุ์บนดาวอังคารได้!!! ก็น่าสนุกมากๆ แล้ว และสำหรับคนที่เกลียดแมลงสาบเข้าไส้ มันก็น่าจะเป็นหนังที่ให้ความสยดสยองเทียบเท่าหรือยิ่งกว่าหนังฆ่าหั่นศพและหนังผีเรื่องไหนๆ
Terra Formars เป็นหนังญี่ปุ่นที่เพิ่งลงโรงฉายในบ้านเราสัปดาห์ล่าสุดนี้ ซึ่งมาพร้อมความเป็นหนังไซไฟที่ให้กลิ่นไปทางแฟนตาซีระทึกขวัญในแบบฉบับที่ยังคงความเป็นการ์ตูนๆ เอาไว้อยู่ จัดเต็มทั้งวิชวลเอ็กเฟ็กต์ที่จัดว่ารวมๆ แล้วก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เข้ากับความตลกโปกเกรียนและความบ้าระห่ำที่ไม่ได้แคร์ความสมจริงไปได้รอด มีอารมณ์ขันที่ช่วยพยุงหนังให้สนุกได้ท่ามกลางความบ้องตื้นของบทหนังที่ถึงแม้ว่าพล็อตจะน่าสนุกและดูมีสาระได้อีกมาก แต่ทั้งลำดับการเล่าไปจนถึงรายละเอียดตัวละครและภารกิจลับกลับถูกจัดวางในสัดส่วนที่เท่าๆ กันไปหมดจนขาดไดนามิกของเส้นเรื่อง ทำให้รู้สึกว่าคนทำตั้งใจจับวางให้ครบทุกตัวละครมากไปหน่อยจนเหมือนหนังยำซีนท่าเดียวไปทุกขณะ
แล้วพอดูไปได้สักพักทั้งไอเดียทั้งพล็อตและวิธีการเล่าที่ดูน่าสนใจไปได้สุดทางก็ค่อยๆ ดูเรื่อยเปื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหลังที่จังหวะท่าทียียวนกวนประสาทของหนังกลับกลายเป็นการเล่าซ้ำ จนความซ้ำซากน่าเบื่อค่อยๆ แทรกเข้ามาแทนที่ความสนุกแบบครึ่งต่อครึ่ง ทั้งที่ลำพังแค่การออกแบบตัวละครมันชวนให้น่าสนุกได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่หนังเปิดตัวมนุษย์แมลงด้วยแมลงตดก็เห็นชัดว่าตั้งใจจะเล่นท่าทีแบบไหน แต่บทหนังและการกำกับกลับทำพัง
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงที่งัดแงะแกะเกาเบื้องลึกเบื้องหลังแรงผลักดันและจุดมุ่งหมายของตัวละครที่ตั้งใจให้คนดูรู้สึกคล้อยตามตัวละครชายขอบที่ถูกกระทำ กลับเห็นแค่ความพยายามยัดเยียดประเด็นของคนทำให้คนดู ซึ่งเอาเข้าจริงมันมีวิธีเล่าได้ดีไม่คลิเชให้รู้สึกเลี่ยนเอียนน้อยกว่านี้ได้เยอะแยะ อาจจะเล่าด้วยการปูเรื่องให้บาลานซ์นำร่องในองก์หรือสถานการณ์ก่อนๆ หน้าเพื่อบอกใบ้ให้น่าติดตาม ไม่ใช่แค่มาเล่ายิงเต็มในตอนใดตอนหนึ่ง แต่ก็ยังดีที่มีตัวละครอย่างของ Rinko Kikuchi บ้าๆ บอๆ ตอแหลกลับมาช่วยดึงซีนให้หนังน่าติดตามขึ้นมาได้บ้าง ไม่สิ..ได้มากเลยแหละ
ที่ติมาทั้งหมดเนี่ยจริงๆ แล้วชอบหนังมากกว่าไม่ชอบนะ ชอบในส่วนที่มันยังดูสนุกอยู่และโดยเฉพาะความน่าสนใจทั้งประเด็นที่หนังยังทำได้ไม่ดี และการออกแบบตัวละครที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นมนุษย์แมลงสาบหน้าแบ๊วๆ บนจอหนังโรง เสียดายที่สุดท้ายมันกลายเป็นแค่หนังดูสนุกได้เรื่อยๆ แถมยังสนุกเฉพาะใครบางคน (สังเกตจากคนดูข้างๆ เป็นกลุ่มฝรั่งวัยรุ่น มี 2 คนดูเอ็นจอยกับหนังยิ้มไปขำไปเข้าใจเก็ตมุกแบบหนังคัลท์หนังเวียร์ดที่หนังเป็น แต่อีกคนนั่งกุมขมับขยับไปมา) แต่ถ้าอยากลองอย่าได้ลังเล แมลงสาบตาแป๋วกล้ามบึ้กรอคุณอยู่ ตีตั๋วโลด!!! แต่แนะนำว่าไม่ต้องดูตัวอย่างหนังก่อนไปดู(ส่วนตัวเห็นแค่ผ่านๆ ตา เพิ่งดูเต็มๆ ตอนดูหนังมาแล้ว) เพราะความเซอร์ไพรส์หลายๆ อย่างจะลดทอนหรือหายไป จนทำให้ตอนที่เข้าโรงไปนั่งดูเราอาจจะไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับหนังเลยก็ได้..
สรุปผลวิจารณ์หนัง