0 Office+-+%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94

Office - พนักงานดีเดือด

เข้าฉาย 3 มีนาคม 2559
ผู้ชม : 10,783
ผู้กำกับ : ฮอง วอน ซัน
ความยาวหนัง : 112.00
Text Size

หนัง Office หรือชื่อไทยว่า พนักงาน ดี เดือด ใครว่า...งานหนักไม่เคยฆ่าใคร?อย่างน้อยคงไม่ใช่ คิมบยองกุก หัวหน้าทีมเซลส์ที่ทำผลงานน่าพอใจมาโดยตลอด วันหนึ่งเขาแบกความเครียดกลับมาจากที่ทำงานแล้วลงกับครอบครัวตัวเองด้วยการสังหารโหดสมาชิกในบ้านทุกคน ก่อนที่คืนนั้นคิมจะเดินทางกลับไปยังออฟฟิศที่รักของเขา แล้วไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย ทว่าขณะที่ตำรวจกำลังตามหาคิมแทบพลิกออฟฟิศ พนักงานในบริษัทกลับทยอยตายไปทีละคนอย่างโหดเหี้ยมนี่คือหนังเรื่องแรกของ ฮองวอนชัน มือเขียนบทหนังสุดเข้ม The Chaser กับงานกำกับเรื่องแรกของเขาซึ่งไปไกลถึงขั้นได้ฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปีกลาย

และนอกจากนี้แล้วยัง สร้างความฮือฮาด้วยทักษะการดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชม ทั้งการแสดงรายละเอียดที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี จนไปถึงการต้อนคนดูจนรู้สึกไม่ปลอดภัย นี่คือหนักที่มอบแด่คนรักงานทุกคนที่ในหนึ่งวันเจอหน้าหัวหน้ามากกว่าคนในครอบครัว คุยเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว และยอมเจียดเวลานอนเพื่อทำงานให้เสร็จ โดยวาดหวังให้ผลงานพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าผกก.ฮองวอนชัน กล่าวว่า ในสังคมเกาหลี ''การทำงาน'' คือ ''การอยู่รอด'' และ ''การโดนไล่ออก'' คือ ''การถูกฆ่าตาย'' ซึ่งนี่คือหนังที่แสดงให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนที่สุด

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

13 มีนาคม 2559 23:38:42

Office (Hong Won-Chan / South Korea / 2015)

ผลงานกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ Hong Won-Chan หนึ่งในมือเขียนบทหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนระทึกขวัญจากเหตุการณ์จริงอย่าง The Chaser (Na Hong-Jin / South Korea / 2008) ที่ดุเดือดเลือดพล่านระทมอมทุกข์สลดหดหู่แบบสุดๆ  คราวนี้นอกจากจะเขียนบทแล้วยังมานั่งแท่นกำกับเองอีกด้วยนะ  Office เป็นเรื่องราวเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในออฟฟิศบริษัทหนึ่งซึ่งกำลังเผชิญปัญหาหนักเมื่อพนักงานคนหนึ่งได้ฆ่าลูกเมียของเขาตายอย่างโหดเหี้ยม  แล้วหลังจากนั้นเขาก็หายตัวเข้าไปในตึกออฟฟิศและไม่กลับออกมาอีกเลย  ทุกคนซึ่งตระหนกว่าจะตกเป็นเป้าหมายต่างก็หวาดกลัวและปกปิดสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นจนการปิดบังนำมาซึ่งเหตุการณ์ระทึกสยองขวัญ

ส่วนตัวแล้วชอบ The Chaser สุดๆ เป็นหนึ่งในหนังฆาตกรรมในดวงใจเลยแหละ  ก็เลยพกความคาดหวังมาเต็มกระเป๋ากะจะเข้ามาเสพความหดหู่ลุ้นระทึกอย่างเต็มที่  ช่วงแรกๆ ของหนังนี่ชอบมาก  อย่างแรกที่ชอบเลยก็คือตัวละครที่ดูจริงสุดๆ ทั้งการเซ็ตอัพสังคมออฟฟิศ  คาแร็กเตอร์  และแรงผลักดันทั้งที่มาจากเรื่องความขัดแย้งทางตำแหน่งหน้าที่การงานและเรื่องส่วนตัวต่างๆ ที่เป็นเหตุเป็นผลให้แต่ละตัวละครมันแสดงออกต่อกันและกันได้ทั้งมุมดีและร้ายหรืออ่อนโยนและรุนแรงอย่างที่เห็น  ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วเหตุการณ์ที่อยู่ในหนังมันก็ดูเกินจริงที่จะเกิดขึ้นได้ในออฟฟิศ  และเห็นได้ชัดว่าออกแบบมาเพื่อเสิร์ฟความระทึกสยองขวัญไม่ได้มีพื้นยืนมาจากความสมจริง  อย่างการเอาศพขึ้นไปแขวนซ่อนไว้บนเพดาน  แต่หนังได้สร้างบรรยากาศความสมจริงครอบเอาไว้ก่อนหน้าทำให้เราอินบรรยากาศความระทึกขวัญผสมความสยองขวัญได้มากๆ  และพอจะมองข้ามความไม่เชื่อไปได้บ้าง

แถมแคสติ้งนักแสดงยังดีมากๆ โดยเฉพาะ Ko Ah-Sung ที่เคยเล่นเป็นลูกสาวที่ถูกสัตว์ประหลาดลักพาตัวไปใน The Host (Bong Joon-Ho / South Korea / 2006) แต่ในเรื่องนี้มาเล่นเป็นนางเอก  เด็กฝึกงานที่มาจากบ้านนอกเข้าเมือง  ดูเป็นคนอ่อนต่อโลกแต่จริงจังกับเป้าหมายความสำเร็จในชีวิต  และ Bae Sung-Woo ที่เล่นเป็นพนักงานหัวหน้าทีมบ้างาน  ฆาตกรที่แค่เห็นหน้าเห็นแววตาก็น่าระแวงได้สุดๆ แล้ว  นักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็ดีงามหลากหลายเหมาะเจาะกับบทบาทพนักงานออฟฟิศมากๆ

ผู้กำกับใช้พื้นที่ส่วนต่างๆ ของออฟฟิศได้คุ้มค่ามากๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของออฟฟิศโต๊ะทำงาน  ห้องประชุม  บันไดหนีไฟ  ลิฟต์  ลานจอดรถ  ฝ้าเพดาน  และห้องน้ำ  แล้วสร้างบรรยากาศออฟฟิศได้น่าหวาดระแวงสุดๆ  แถมในส่วนของพล็อตสืบสวนสอบสวนที่ค่อยๆ ปูทางและเปิดตัวตัวละครี่เป็นฆาตกรก็ทำได้น่าขนลุกมากๆ  อีกทั้งยังแม่นยำในการบาลานซ์ความเป็นหนังระทึกขวัญและสยองขวัญแบบผีๆ ได้พอดีและแนบเนียน  ช่วงแรกๆ หนังซ่อนความน่าสงสัยให้น่าติดตามได้ดี  ชอบความเป็นหนังหักมุมที่พูดว่าหักมุมได้ไม่เต็มปากนี้มากๆ  แต่ก็เสียดายมากๆ ที่พอพาหนังมาถึงช่วงท้ายของมันกลับค่อยๆ เป๋ในรายละเอียดทั้งบทและการจบเพื่อตอบธีมเรื่องแบบห้วนเกินไปจนทำให้รู้สึกว่าจุดคลี่คลายมันพลอยไม่ชัดเจนตามไปด้วย  และการกำกับในฉากไคลแม็กซ์บางช็อตก็ทำให้งงกับ POV ของตัวละครที่กำลังต่อสู้เอาชีวิต(ให้รอด)กันที่มันทำให้รู้สึกติดขัดกับรีแอคชั่นจากการรับรู้ของตัวละครมากอยู่

ถึงสุดท้ายแล้วมมันจะไม่ได้เป็นหนังที่ดีงามอย่างสมบูรณ์อย่างที่คาดหวัง  แต่ประเด็นหนังที่กัดแทะสังคมออฟฟิศก็แสบคันพอให้รู้สึกได้อยู่  และสำหรับคนดูที่ทำงานออฟฟิศนี่ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้คงจะระแวงหลอนๆ ไปหลายวัน  จนอาจจะทำให้ออฟฟิศที่คุ้นชินกลายเป็นบ้านฆาตกรผีสิงไปเลยก็ได้

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7.6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)

หนังภาพยนตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง