If Cats Disappeared From the World - ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้
เข้าฉาย 26 พฤษภาคม 2559
ผู้ชม : 13,471
ผู้กำกับ
: Akira Nagai (อากีระ นากาอิ)
ความยาวหนัง
: 105.00
Text Size
หนัง If Cats Disappeared From the World หรือชื่อไทยว่า ถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ สร้างจากการ์ตูนตาหวานชื่อดัง ตัวพลอตฉบับภาพยนตร์เล่าถึง บุรุษไปรษณีย์ ที่เพิ่งโดนแฟนทิ้ง แถมป่วยด้วยโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษา เพื่อนสนิทที่สุดของเขาคือแมวจรจัดที่หลงทางมา และ ในคืนที่เขาใกล้ตาย เขาได้ข้อเสนอจากยมทูต ที่จะช่วยยืดชีวิตให้ แต่ต้องแลกกับของ 1 ชิ้นที่เมื่อยกให้ยมทูต ความทรงจำเกี่ยวกับของสิ่งนั้นก็จะหายไป เขาจะลืมทุกอย่าง ทั้งความสุข ความเศร้า หรือแม้แต่ คุณค่าของการได้เป็นคนสำคัญของใครคนที่ให้ของชิ้นนั้นแก่เขามา แต่เพื่อเป็นการซื้อเวลาให้ชีวิตตัวเอง เขายอมแลก แลกทีละชิ้น จนถึงของชิ้นสุดท้าย...
If Cats Disappeared from the World (Akira Nagai / Japan / 2016)
เรื่องราวของชายหนุ่มที่กำลังจะตายด้วยเนื้องอกในสมองระยะสุดท้าย ได้เจอกับชายที่หน้าตาเหมือนตัวเองมาแสดงตัวว่าเป็นปีศาจหรือยมทูตอะไรประมาณนั้น และบอกเงื่อนไขว่าถ้ายังไม่อยากตายเขาสามารถต่อเวลาชีวิตไปอีกได้เรื่อยๆ ถ้ายอมแลกกับของบางอย่างในโลกที่จะถูกเลือกสุ่มให้หายไปจากโลกนี้ทีละอย่างๆ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงแมวแสนรักที่เขาเลี้ยง ชายหนุ่มก็ได้เรียนรู้คุณค่าของชีวิตไปพร้อมๆ กับการตระหนักความสำคัญของมิตรภาพ ความรัก และคนในครอบครัว
หนังเปิดเรื่องมาได้น่าสนุกด้วยสถานการณ์ที่น่าติดตามไม่หยอก แต่กับส่วนของตรรกะนั้นกลับสวนทางกันและค่อยๆ ล่มลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากหนังไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจริงหรือเป็นแค่มโนในหัวซึ่งจุดนี้ทำให้เรามีปัญหากับความสมเหตุสมผลของหนัง เราก็เลยดูหนังด้วยการเอาตรรกะไปจับมันไว้ตลอดจนเราหมดสนุก ความรู้สึกตอนดูก็ได้แต่รอให้ตัวละครมันได้สติกลับคืนมาไปเรื่อยๆ แถมการเล่าเรื่องที่ไม่ลำดับตามไทม์ไลน์ปกติยิ่งทำให้หนังไม่ปะติดปะต่อทางอารมณ์ โดยเฉพาะพัฒนาการตัวละครพระเอกที่จะเวิ่นเว้อก็เวิ่นไปเรื่อย จะกลับมาตระหนักรับรู้ก็ดูล่องลอย แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็เข้าใจได้นะว่าหนังต้องการเล่าอะไร และตัวละครมันเป็นอะไรกำลังเผชิญกับสภาวะจิตใจยังไงอยู่ เพียงแค่เราไม่อินกับความเยอะของการเล่าที่มันเยอะไปแยะไปหมด ก็ไม่ได้อ่านหนังสือนะ แต่หนังสือมันน่าสนุกและดีกว่านี้
สุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่หนังที่หากตัดเอาไดอะล็อกที่ยัดเข้ามามากมายให้กับทุกตัวละครออกไป คนดูทั่วไปคงอินกับประเด็นของหนังไม่ได้ง่ายๆ แน่ๆ จากการสังเกตคนดูในโรง จุดที่คนดูอินน้ำตาแตกกันส่วนใหญ่มักจะเป็นฉากที่มีไดอะล็อกจี๊ดๆ เจื่อนๆ โต้งๆ ที่ตั้งใจวางไว้แล้วว่าต้องทำหน้าที่เรียกน้ำตาให้ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าหากหนังเรื่องนี้มันสามารถให้คุณค่ากับชีวิตคนดูคนไหนได้เราก็ยินดี เพราะลำพังตัวหนังเองมันไม่ใช่หนังที่แย่อะไร แต่พอมองถึงไอเดียและพล็อตที่ก็น่าสนใจดีเราก็ค่อยๆ เสียดายมันจนอยากให้ไม่มีหนังเรื่องนี้อยู่ จนคิดว่าถ้าหากหนังเรื่องนี้หายไปจากโลกนี้จริงๆ จะเป็นยังไงนะ อืมมมมม..เราอาจจะได้เห็นหนังชื่อเดียวกันจากหนังสือเล่มเดียวกันนี้ดีงามขึ้นมากกว่าเดิมก็เป็นไปได้ ‘ฉันจะเต็มที่กับชีวิตตตตตตตตตตตตต...’ จ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา..
สรุปผลวิจารณ์หนัง