อวสานโลกสวย - Awasarn-Lok-Suey
เข้าฉาย 21 มกราคม 2559
ผู้ชม : 23,820
ผู้กำกับ
: ปัญญ์ หอมชื่น, อรอุษา ดอนไสว
ความยาวหนัง
: 96.00
Text Size
หนัง Awasarn-Lok-Suey Uncut หรือชื่อไทยว่า อวสานโลกสวย Uncut เกรซเด็กสาวลึกลับผู้มีอดีตอันเลวร้ายกับการเคยเป็นเน็ตไอดอลที่ร่วมมือกับแจ๊คหนุ่มโรคจิตสุดหื่นที่เป็นแฟนคลับตัวยงของแคร์และเปิ้ลสองสาววัยมัธยมปลายที่กำลังมีความสุขกับการได้ใช้เวลาช่วยกันสร้างเฟซบุ๊คแฟนเพจเพื่อโพสรูปและคลิปวีดีโอเรียกยอดไลค์โดยที่ไม่รู้เลยว่าท่ามกลางแฟนคลับมากมายนั้นแคร์กำลังถูกจับตามองโดย เกรซ และ แจ๊ค ทั้งคู่อาศัยข้อมูลส่วนตัวที่แคร์ชอบเปิดเผยผ่านการโพสในอินเตอร์เน็ตตลอดเวลาเพื่อวางแผนจับตัวแคร์และเปิ้ลมากักขังไว้ก่อนที่เกรซจะสร้างสถานการณ์ให้ทั้งคู่ได้เจอความจริงที่เลวร้ายเหมือนกับที่เธอเคยเจอและคาดหวังให้มันทำลายโลกสวยของทั้งคู่ลง
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
ความคิดเห็น (0)
GUEST
tussawara
5 กุมภาพันธ์ 2559 13:40:54
ทำไมในโรง เดอะสแควร์ บางใหญ่ นนทบุรี เลิกฉายเร็วจังครับ
ยังไม่ทันได้ดูเลยครับ
ยังไม่ทันได้ดูเลยครับ
GUEST
ขวัญ
21 มกราคม 2559 22:04:08
อายุน้อยกว่า20ดูม่ได้หรอค่ะ
GUEST
นาวสายน่น่าส่าสว่สว
5 มกราคม 2559 19:33:53
งว
สงวสวฝวส
สงวสวฝวส
อวสานโลกสวย Uncut (ปัญญ์ หอมชื่น, อรอุษา ดอนไสว / Thailand / 2016)
ถึงจะแน่ใจว่าเจ้าของเงินได้ชั่งตวงกระแสโลกมาอย่างดีแล้วและมองเห็นถึงเม็ดเงินที่เป็นไปได้ด้วยพล็อตหนังเรื่องนี้ บนพื้นฐานสังคมวัยรุ่นซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มทำเงินหลักในปัจจุบันที่สนใจเรื่องราวของเน็ตไอดอลที่มีอยู่เต็มโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ดูจากผู้คนหลายล้านที่ตามกดไลค์คอยติดตามก็น่าจะเรียกร้องความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ไม่ว่าความคิดริเริ่มในการปลุกปั้นโปรเจ็กต์นี้จะเกิดมาจากเหตุผลอะไร ก่อนอื่นก็ต้องชื่นชมว่า กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส นั้นกล้าหาญที่จะทำหนัง Thriller เขย่าขวัญที่ปกติแล้วในตลาดหนังไทยก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จนัก เป็นความกล้าหาญถัดจาก ห้องหุ่น (กัลป์ กัลย์จาฤก / 2014) ที่เล่นท่ายากและล้มพังพาบไปก่อนหน้า แต่ความกล้าหาญที่ถ่ายทอดมุมมองไว้ในหนังก็ยังหลงเหลือแง่มุมดีๆ ที่น่าสนใจให้พูดถึง และยินดีสำหรับ อวสานโลกสวย ที่ไปได้ดีกว่านั้น
คืนที่ดู อวสานโลกสวย มีฝรั่งดูในโรงเดียวกันอยู่ 3-4 คน หลังหนังจบเค้าก็ออกมายืนออหน้าทางเดินเข้าห้องน้ำกัน ฝรั่งผู้หญิงคนหนึ่งบ่นใหญ่เลยว่าทำไมไม่ดู Star Wars บอกแล้วว่าให้ดูๆ เพื่อนผู้หญิงอีกคนบอกกลับว่าหนังมันก็ไม่ได้เลวร้ายนี่ ที่ดูก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แล้วบอกอีกว่าเพื่อนผู้ชายอีกคน(ที่ไปเข้าห้องน้ำ)มันอยากดูเพราะเห็นคนเล่นมันน่ารัก แล้วก็เรต ฉ 20- เออ..แต่แม่งไม่เห็นนมเห็น..สักกะนิด
ถึงจะเคยชินกับวัฒนธรรมการจัดเรตติ้งแบบไทยๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนกันกับฝรั่งกลุ่มนี้นะในแง่เรตติ้งที่ได้มามันจำกัดกลุ่มคนดูเกินหนังไปหน่อย ทั้งๆ ที่หนังมันไม่ได้เลือดสาดรุนแรงอะไรเลยเมื่อเทียบกับหนังฟันคอซอมบี้หัวหลุดแขนขาดในพ.ศ.ก่อนหน้าอย่าง ผีห่าอโยธยา (ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล / 2015) และภาพความรุนแรงทางเพศโป๊เปลือยก็มีไม่เท่าหนังไทยหลายๆ เรื่องที่เห็นทั้งนมตูดดูดกระเด้าแต่ได้เรตแค่ น 18+ เรื่องนี้เห็นจะมีก็แต่กระจู๋แนบนมในหนังการ์ตูนโป๊ญี่ปุ่นในจอคอมพิวเตอร์ที่ตัวละครนั่งดูอยู่ก็เท่านั้นที่เข้าข่าย ส่วนกับตัวละครนักแสดงเล่นจริงๆ นั้น ฉาก ก้อย (สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข) ถูกถ่ายคลิปข่มขืนในเรื่องนี้ยังสยิววาบหวามน้อยกว่าเลิฟซีนระหว่างสายป่านกับ ยิ้ม-ประวิทย์ ฮันสเตน ใน ภวังค์รัก (ลี ชาตะเมธีกุล / 2014) เสียอีก หรือถ้าเทียบกับหนังที่มีฉากทั้งสองมุมความรุนแรงอย่าง เคาท์ดาวน์ (นัฐวุฒิ พูนพิริยะ / 2012) ที่มีทั้งเลิฟซีนดูดดื่มและความรุนแรงตรงๆ ที่ไม่เลี่ยงช็อตเล่าให้เห็นกันจะจะ อย่างช็อต ยิงปืนตะปู ปืนจ่อหัว หักนิ้ว แถมยังมีฉากการเล่นยา กลับถูกจัดเรตไว้แค่ น 18+ (ซึ่งเหมาะแล้ว) แต่กับ อวสานโลกสวย ที่ถึงแม้ตัวหนังเองก็แสดงให้เห็นอาการกั๊กของสตูดิโอและผู้กำกับที่พยายามเลี่ยงช็อตความรุนแรงตรงๆ อย่างช็อต มีดแทง เห็นตูด เห็นนม หรือแม้แต่ขอบกางเกงในก็ยังลำบากที่จะให้เห็น เพื่อหวังที่จะลอดช่องประตูเรต น 18+ ให้รอด กลับถูกพิจารณาให้ได้เรต ฉ 20- ก็น่าตลกดี แต่ทีช็อตเนื้อ นม ไข่ สไลด์หลืบในหนังหลายๆ เรื่องของคนทำหนังบางเจ้ากลับได้เรตต่ำกว่า คล้ายกับวันดีคืนดีกรรมการพิจารณาก็ถือเกณฑ์อีกฉบับซึ่งว่าด้วยเรื่อง ‘ความดีเลวที่เป็นไปได้บนเจตนารมณ์ของแต่ละชนชั้นอันแตกต่าง’ เข้ามานั่งกำกับที่โต๊ะประชุม
ช่างเถอะ...ถึงจะยังไงก็แล้วแต่ การได้เรตเนื่องจากความรุนแรงที่สูงเกินกว่าหนัง มันยิ่งทำให้หนังไปไม่สุดสักทางเมื่อฉากความรุนแรงทั้งทางกายและทางเพศโดยเฉพาะในฉากสำคัญที่ควรจะนำพาความรู้สึกร่วมมันทำได้ไม่ถึงขีดขั้นความโสมมที่คาดหวังว่าจะได้เห็น ทำให้เราเชื่อไม่ได้ว่าตัวละครมันจะโหดร้ายและดีเดือดเลือดคลั่งได้ถึงขนาดที่เป็นในหนัง ทำให้องค์ประกอบที่เลือกมาใช้หลายๆ อย่างที่มีดีกลับเกิดประโยชน์กับหนังได้ไม่เต็มที่ การแสดงของสายป่านนั้นแสดงออกทางสายตาและมุมปากได้รุนแรงมากๆ ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากจบและไม่ว่าจะเล่าสลับอดีต-ปัจจุบันยังไงเธอก็สามารถเอาอยู่ได้ทุกฉาก แต่ถึงอย่างนั้นความยอดเยี่ยมทั้งหมดกลับถูกลดทอนลงเพราะการลำดับภาพเล่าเรื่องที่ยังเชื่อมโยงได้ไม่ไหลลื่นพอ ทำให้รู้สึกได้แค่ว่าตอนนี้สายป่านที่แบกตัวละครก้อยอยู่มันเป็นยังไง และมาถึงจุดที่ทำให้เปลี่ยนเป็นเกรซได้ยังไง แต่อารมณ์การแสดงมันกลับไม่ต่อเนื่องกันคล้ายกับกำลังดูทีวีเปลี่ยนช่องไปมา ส่งผลให้พลังความลุ่มลึกจากบาดแผลของตัวละครมันเบาบางลงไปมาก ทั้งที่ก็เห็นภาพภายนอกตัวละครจากบนจอว่ามันสะบักสะบอมบอบช้ำขนาดไหน แต่เรากลับไม่รู้สึกรู้สากับความเป็นไปของตัวละครก้อยและเกรซสักเท่าไหร่ การแสดงที่มีมิติด้วย Expression กลับถูกลดทอนให้แทบจะเหลือแค่ Action ซึ่งน่าเสียดายมากๆ ขึ้นไปอีกเมื่อไม่ใช่มีแค่การแสดงของสายป่านคนเดียวเท่านั้นที่ดีงาม แต่การแสดงของนักแสดงสมทบอีก 3 คน ทั้ง เบสท์ - ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์, มายด์ - ณภศศิ สุรวรรณ และ พิม - ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ ต่างก็มีซีนที่ดีของตัวเองให้โดดเด่นขึ้นมามีชีวิตบนจอ กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า หากขาดการแสดงที่ดึงดูดของเหล่านักแสดงหนังทั้งเรื่องก็คงจะแห้งแล้งไร้พลังให้น่าติดตาม
ส่วนตัวเคยดูเวอร์ชั่นหนังสั้นก่อนที่จะมาเป็นหนังยาวมาแล้วเมื่อราว 2 ปีก่อน และน่าเสียดายที่เวอร์ชั่นหนังยาวที่รอคอยมันไม่ดีเท่าหนังสั้นที่เคยดูมา ทั้งความดิบและท่วงท่าการเล่าที่สมจริงสมจังที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าหนังกำลังถูกประดิษฐ์ฉากขึ้นมาขนาดนี้ และเชิงบทก็ไม่ได้อาศัยความบังเอิญหรือลดตรรกะการกระทำของตัวละครให้ถูกลากถูลู่ถูกังไปข้างหน้าขนาดนี้ โดยเฉพาะตอนไคลแม็กซ์จบของเวอร์ชั่นหนังยาวเนี่ย จังหวะจะโคนของสถานการณ์และเหตุผลของการกระทำมันทื่อๆ และทึกทักบังคับให้ตัวละครเป็นไปมากไปจริงๆ อีกอย่างคือหนังไทยควรจะลงทุนให้เห็นช็อตรถชนเต็มๆ ตาดีกว่าไหม ยิ่งถ้ามาอยู่ในหนังที่ต้องการผลักความรุนแรงขนาดนี้ แต่ข้อดีของเวอร์ชั่นหนังยาวที่มีก็คือมุมมองที่มาที่ไปของตัวละครที่มีมากกว่าตอนที่เป็นหนังสั้น ที่ถึงแม้ความตั้งใจที่จะสื่อสารให้คนดูเข้าใจโลกในหนังและตัวละครนั้นยังใช้วิธีการเล่าที่ติดกลิ่นคลิเชซ้ำซากอยู่บ้างแต่ก็ยังได้ผล และถึงแม้ส่วนตัวจะรู้สึกว่ามันไม่ได้สำเร็จในแง่มิติอารมณ์ อีกทั้งยังทำให้เราเชื่อการไปถึงจุดจบของตัวละครได้ไม่สนิทใจก็เถอะ แต่ตอนจบก็ถือว่ากู้ธีมคืนมาได้ดีเลย ทิ้งคำถามข้อควรระวังอาชญากรรมในโลกโซเชี่ยลได้พอดีๆ อาชญากรยังตอแหลและลอยนวล...
ในแง่ของเรตติ้งก็เห็นทีว่าคนทำหนังที่มีฉากความรุนแรงทำนองนี้จะต้องหยอดข้อคิดส่งเสริมศีลธรรมจริยธรรมให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในหนังเสียแล้วล่ะ แล้วเรต น 18+ ก็คงได้มาไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าจุดจบของอวสานโลกสวยเป็นการให้ตัวละครท่องศีลภาวนาสำนึกบาปเหมือนอย่างในเคาท์ดาวน์ หรือต้องแสดงถึงความรักชาติศาสน์กษัตริย์ให้เหมือนหนังตำนานประวัติศาสตร์ทั้งหลาย ที่ทำให้ช็อตบั่นคอล่อรักที่ปรากฏอยู่ในหนังบางเรื่องนั้นถูกมองข้ามจนได้เรตทั่วไปหรือกระทั่งได้เรตส่งเสริมได้อย่างไม่ยากเย็น หรือไม่ผู้กำกับก็ต้องคิดลองกินดองกับคนทำหนังบางเจ้าดู อาจจะต้องเสียเวลาไปอำเภอเพื่อแก้คำนำหน้าชื่อนิดๆ หน่อยๆ แต่ในภายภาคหน้าเส้นทางผู้กำกับของท่านก็อาจจะได้เรตติ้งที่สมใจอยากง่ายกว่านี้ไปตลอดทั้งชีวิตจนกว่าจะสิ้นชีพิตักษัยก็เป็นได้
สรุปผลวิจารณ์หนัง