The Boy and The Beast - ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร
เข้าฉาย 24 ธันวาคม 2558
ผู้ชม : 10,992
ผู้กำกับ
: Mamoru Hosoda (มาโมรุ โฮโซดะ)
ความยาวหนัง
: 120.00
Text Size
หนัง The Boy and The Beast หรือชื่อไทยว่า ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร เมื่อเด็กชาย คิวตะ พลัดหลงในโลกคู่ขนานที่ประชากรล้วนเป็นสัตว์ประหลาด เขาต้องหาทางเอาตัวรอดโดยได้รับความช่วยเหลือจากอสูรกายนามว่า คุมะเทตสึ ผู้เป็นอาจารย์ให้คิวตะฝึกฝนจนกลายเป็นนักรบ แต่เมื่อปิศาจจากโลกคู่ขนานกำลังคุกคามโลกมนุษย์ เขาจึงเป็นหนึ่งเดียวที่จะกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ให้ได้
The Boy and the Beast (Mamoru Hosoda / Japan / Animation / 2015)
เรื่องราวของ เรน เด็กชายวัย 9 ขวบที่หลงเข้าไปในโลกของสัตว์ที่เหมือนเป็นโลกขนานกับโลกมนุษย์ โลกของสัตว์ที่มีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์และบ้างก็ดูเหนือกว่าด้วยวิชาพลังจิต เป็นโลกประชากรสัตว์ที่ไม่มีด้านมืดครอบงำ ขณะที่โลกมนุษย์ยังมีด้านมืดคอยครอบงำจิตใจมนุษย์อยู่ทุกขณะ เมื่อหลุดเข้าไปในโลกของสัตว์(ที่จำไม่ได้แล้วว่าในหนังเรียกว่าอะไร) เรนก็ได้ฝึกวิชาการต่อสู้จากอาจารย์หมี คุมะเท็ตสึ จนเก่งกล้าสามารถ และพอโตเป็นหนุ่มก็ได้บังเอิญกลับไปยังโลกมนุษย์อีกที ได้เรียนหนังสือโดยมีสาวนักเรียนม.ปลายติวให้เพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย จนกระทั่งเขาได้พบกับพ่อ...
จริงๆ มันก็เป็นหนัง Coming of Age ที่น่าสนใจทีเดียวแต่มันก็มีจุดพร่องอยู่มากพอสมควร ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนคนทำจะตั้งใจเล่าว่าโลกของสัตว์จริงๆ แล้วไม่มีอยู่จริง เป็นแค่สัญลักษณ์หนึ่งที่ใช้เล่าสะท้อนความมืดในใจของเรน (สังเกตจากโมทีฟชื่อเรื่องที่ Beast เป็นเอกพจน์ซึ่งอาจหมายถึงปีศาจร้ายฝ่ายมืดที่ครอบงำจิตใจของเรนอยู่เพียงคนเดียว ทั้งที่ทั้งเรื่องมี Beast เป็นหมื่นๆ) แต่มันกลับมีฉากที่คล้ายจะยืนยันว่าโลกคู่ขนานนี้มีอยู่จริงๆ ทำให้มุมที่เรามองหนังมันคลอนอยู่เหมือนกัน เสียดายมากๆ ที่บทหนังไม่ได้พยายามเชื่อมโยงให้เป็นน้ำเป็นเนื้อกันให้เคลียร์มากกว่านี้ หลายๆ อย่างมันไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะสนับสนุนการตัดสินใจของตัวละคร หลายๆ อย่างมันอาศัยความบังเอิญมากไปหน่อยจนทำให้เกิดความรู้สึกติดขัดอยู่หลายๆ ช่วง และบางอย่างก็จงใจมากเกินไป โดยเฉพาะตัวร้ายของเรื่องที่ไม่ต้องปกปิดขนาดนั้นก็ได้เพราะการเฉลยไม่ได้ช่วยอะไรเลยเมื่อปิดคนดูไว้ไม่มิดให้คนดูค่อนข้างแน่ใจมาแต่แรกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ถ้าพูดถึงความสนุกมันก็ดูได้เพลินดีทีเดียว ทั้งมุกต่างๆ ที่ขำขันพอดู ตัวละครที่ออกแบบได้น่าสนใจ มีแอบๆ เปรียบเทียบพ่อที่เป็นคนกับพ่อที่เป็นสัตว์ และวิชวลของผู้กำกับบางอย่างมันก็ยังคงตรึงตาเราให้นึกภาพย้อนถึงได้ขณะที่กำลังนั่งเขียนอยู่นี้ อย่างเช่น การปูช็อตกล้องวงจรปิดตั้งแต่แรกเริ่มที่เรนจะเดินเข้าไปในโลกคู่ขนาน และมาใช้อีกครั้งกับช็อตที่ให้เห็นตัวตนของตัวร้ายที่กำลังใช้พลังเล่นงานพระเอกด้วยพลังคล้ายๆ ภาพลวงตานั่น และภาพเงาปลาวาฬลอยไปตามพื้นถนนในเขตเมืองนั่นก็น่าพิศวง ลึกลับ น่ากลัวและสวยงามมากจริงๆ แค่วาฬฉากนี้ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว
สรุปผลวิจารณ์หนัง