0 Irrational+Man+-+%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A5+%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99

Irrational Man - อิเรชันนัล แมน

เข้าฉาย 17 ธันวาคม 2558
ผู้ชม : 5,426
ผู้กำกับ : Woody Allen (วู้ดดี้ อัลเลน)
ความยาวหนัง : 95.00
Text Size

หนัง Irrational Man หรือชื่อไทยว่า อิเรชันนัล แมน คุณว่าชีวิตนี้จะสามารถรักคนห่วยๆ ได้แค่ไหนกัน? วู้ดดี้ อัลเลน จะพาคุณไปหาคำตอบ กับหนังรักป่วงๆ ที่ว่าด้วย เอ๊บ (ฮัวคีน ฟีนิกซ์) ศาสตรจารย์ด้านปรัชญาที่สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขามีปัญหากับการให้คุณค่าในตัวเองอย่างมาก และส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิต จนกระทั่ง จิลล์ (เอ็มมา สโตน) สาวน้อยโลกสวยลูกศิษย์ของเขา เข้ามาในชีวิต และทำให้เอ๊บกลับมามีคุณค่าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจิลล์เองก็เริ่มรู้สึกขาดเขาไม่ได้ขึ้นมาเช่นกัน แม้ว่ายิ่งอยู่ด้วยกัน เอ๊บจะยิ่งแสดงอาการหลุดโลกมากขึ้นทุกวันคนทั่วไปเมื่ออายุมาก ก็ควรถึงวัยต้องเกษียณ แต่นั่นคงใช้ไม่ได้กับคุณปู่อย่าง วู้ดดี้ อัลเลน ผู้กำกับวัย 80 ปีที่ขยันสร้างหนังที่มีลายเซ็นเฉพาะตัว ออกมาเฉลี่ยปีละเรื่อง! และนี่คือผลงานล่าสุดที่รับรองว่าโดนใจแฟนๆ!เอ๊บ ลูคัส (ฮัวคิน ฟีนิกซ์) เป็นศาสตราจารย์ด้านวิชาปรัชญาที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขากำลังเผชิญกับวิกฤตที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า (Existential Crisis) แต่แล้วชีวิตเขาก็รู้สึกมีคุณค่าขึ้นด้วยการเดินเข้ามาของ จิลล์ พอลลาร์ด (เอ็มมา สโตน) สาวน้อยลูกศิษย์ของเขา เธอเป็นคนมองโลกในแง่บวก และกำลังสานสัมพันธ์กับเอ๊บอย่างชัดเจน ความรักทั้งคู่กำลังเดินหน้าไปได้สวย และโรแมนติกอย่างที่สุด ก้าวข้ามข้อจำกัดทั้งเรื่องอายุ สถานะ และอีกมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่กำลังจะย้อนกลับมาทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายุ่งเหยิงนั่นคือ อาการและบุคลิกของเอ๊บนั่นเอง ที่ประหลาดและหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

30 ธันวาคม 2558 20:41:20

Irrational Man (Woody Allen / USA / 2015)

Woody Allen ยังไว้ลายได้อย่างพลิ้วพรายด้วยสไตล์หนังที่เล่าร้อยบทสนทนาแสนมีเสน่ห์และสนุกสนานน่าติดตาม  พล็อตเรื่องหลักที่เกิดจากเหตุการณ์ที่คนทั่วไปมักมองข้ามที่จะนำมาให้ความสำคัญอย่างการที่ตัวละครหลักแอบได้ยินกลุ่มคนโต๊ะข้างๆ คุยกันในร้านอาหารในเรื่องความไม่เป็นธรรมที่แม่คนหนึ่งถูกพิพากษาให้พรากกันกับลูกทำให้ตัวละครนำมาคิดต่อยึดโยงกับอุดมการณ์ชีวิตตัวเองจนเลยเถิดไปถึงการเป็นฮีโร่หาเสี้ยนนั้นมันเข้าถึงได้ไม่ยาก  เพราะเราก็ต่างเคยแอบได้ยินโต๊ะข้างๆ คุยกัน  อีกทั้งยังพูดพร่ำถึงความถูกต้องทางศีลธรรมกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ  ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันหรือตามข้อข่าวอาชญากรรมและการเมืองรายวัน  จากนั้นเราก็จะพิพากษาเอนเอียงไปตามข้อมูลที่ได้ยินได้ฟังมาหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามี่ความเชื่อมีทัศนคติแบบไหนนั่นแหละ  และมักจะนำไปสู่การเกิดคำถามตัดพ้อ  สบถด่าผู้กระทำ  แสดงความเห็นอกเห็นใจเหยื่อ  และคงมีบ้างที่จะมีใครคิดเข้าไปยุ่มย่ามถามไถ่คนแปลกหน้า  แต่ใครบ้างที่คิดเลยไปจนถึงการฆาตกรรม  แต่ Woody Allen สามารถวาดวางให้ความคิดและประสบการณ์ชีวิตของตัวละครมันละเอียดอ่อนเพียงพอที่จะนำพาให้เราเชื่อว่าตัวละครมันไปถึงจุดนั้นได้นั่นน่ะสิ

หนังวางให้เรารู้สึกเข้าข้างพระเอกได้ง่ายๆ  หรือถ้าใครคิดอยู่คนละฟากกับพระเอกตั้งแต่แรกก็คงจะไม่มีทางปรองดองกันได้ง่ายๆ  และวางให้ผู้พิพากษาคนเลวที่เขาคิดจะลงมือฆ่าอยู่ในความไม่ชัดเจนว่าเขาเลวจริงหรือเปล่าไม่รู้  ไม่มีการเน้นย้ำภาพที่ผู้พิพากษากระทำเลวจริงจัง  มีเพียงคำพูดพร่ำของพระเอกจอมวางแผนที่สืบหามาว่าเขาเลว  ทำให้เราไม่เชียร์พระเอกอย่างเต็มที่และยังมีความกังขาต่อผู้พิพากษาที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในฐานะผู้ถูกตัดสินเฉกเช่นเดียวกับแม่คนที่ถูกพรากลูก  มันเกิดการชั่งตวงเรื่องศีลธรรมได้พอดีและเกิดจุดกระอักกระอ่วนบางๆ หน่วงๆ ให้ได้พิจารณาความเข้าท่าของการกระทำของพระเอกไปพร้อมกับกราฟความสมควรตายของผู้พิพากษาที่ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในใจ

แถมยังมากด้วยมิติให้ขบคิดระหว่างความคิดของอาจารย์วิชาปรัชญาผู้เจนชีวิต  กับความคิดของลูกศิษย์สาวสวยผู้ไม่ยึดติดความสัมพันธ์และอยากรู้อยากลอง  ที่ทั้งสองได้เผลอใจจนเกิดความสัมพันธ์จนเลยเถิดเข้าไปสู่กับความดำมืดของอีกฝั่ง  ที่เหมือนคนทั้งสองจะตื่นเต้นกับความน่าค้นหาในตอนแรกแต่ต่างฝ่ายก็ต่างมีลิมิตขอบเขตศีลธรรมของตัวเองจนกลายเป็นขั้วตรงข้ามกัน  ความมืดบอดทางศีลธรรมทั้งหมดนั้นกลับเพลิดเพลินสนุกสนานไร้ความรู้สึกระทึกสยดสยอง  และแทนที่ด้วยความตลกโรแมนติก  ความเป็นหนังสืบสวนสอบสวนยังกรุ่นอยู่ทั้งที่เรารู้ตั้งแต่แรกว่าใครเป็นคนทำ  การเปลี่ยนตัวดีตัวร้ายที่ทำให้เราเปลี่ยนฝ่ายเชียร์ให้รอดในตอนท้ายนั้นก็น่าชวนหัว  เปี่ยมด้วยชั้นเชิงสติปัญญาที่ปูทางไว้อย่างช่ำชองทว่าผ่อนคลายเบาสมองได้อย่างร้ายกาจ  อดใจไม่ได้ที่จะอยากให้ Woody Allen ได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีรางวัลปลายปีถึงต้นปีที่จะถึงนี้  แต่คงไม่มีทางเพราะคะแนนจากคนดูฝั่งตะวันตกดูท่าจะน้อยนิดเสียเหลือเกิน  โอเคว่ามันยังดูซ้ำซาก  คลิเช  และดูโต้งๆ ไปหน่อยในหลายส่วนตั้งแต่พล็อตยันธีมหนัง  แต่ Irrational Man ก็เป็นหนังอีกเรื่องของปีนี้ที่ส่วนตัวแล้วเราชอบและเพลิดเพลินกับทุกอย่างในหนังมากๆ  มากกว่าหนังบางเรื่องของผู้กำกับคนเดียวกันที่เข้าชิงรางวัลเยอะแยะเสียอีก
 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
8.5
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
8.1
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)