Boruto : Naruto the Movie - โบรูโตะ นารูโตะ เดอะมูฟวี่
เข้าฉาย 24 กันยายน 2558
ผู้ชม : 28,275
ผู้กำกับ
: Hiroyuki Yamashita (ฮิโรยูกิ ยามาชิตะ)
ความยาวหนัง
: 96.00
Text Size
หนัง Boruto : Naruto the Movie หรือชื่อไทยว่า โบรูโตะ : นารูโตะ เดอะมูฟวี่ Boruto เด็กหนุ่มผู้ไม่อาจยอมรับในตัว Naruto พ่อของเขา ผู้ได้ขึ้นเป็น Hokage รุ่นที่ 7 และถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของหมู่บ้าน ด้วยความที่ตัวเขานั้น ต้องการที่จะก้าวข้ามพ่อของตัวเองให้ได้ จนวันหนึ่งได้ไปพบเข้ากับ Sasuke จึงได้ขอเป็นลูกศิษย์เพื่อฝึกวิชา เรื่องราวบทใหม่ของเหล่านินจารุ่นลูก โดยอาจารย์ Kishimoto Masashi ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
Boruto Uzumaki is the son of Naruto Uzumaki, the Seventh Hokage of the Hidden Leaf Village. Having heard stories of Naruto's deeds as a hero, Boruto wishes to surpass his father. Following Sarada Uchiha, Boruto meets his father's friend, Sasuke Uchiha, and requests to be trained by him.
Baruto: Naruto the Movie (Hiroyuki Yamashita / Japan / Animation / 2015)
ดูเหมือนจะปล่อย Feature Film ออกมาอย่างต่อเนื่องสำหรับ Naruto the Movie ซึ่งแต่ละเรื่องละตอนก็ดูสนุกพอสมควร ถึงจะไม่ได้ดีมากมายชนิดที่ถูกอกถูกใจทั้งคนดูทั่วไปและแฟนมังงะได้น่ะนะ และโดยส่วนตัวแล้วก็เป็นหนังชุดที่ดูแล้วไม่เสียดายเงินเสียดายเวลา อาจจะไม่ได้ดีไปเลยแต่ก็ยังดูสนุกดีนะ ถ้าเทียบกับอนิเมะญี่ปุ่นที่เข้าฉายโรงในไทยบ่อยๆ ก็คงใกล้เคียงกับ Dragon Ball ที่เนื้อหนังไม่ได้มีอะไรมากมายซึ่งก็อยู่ในระดับความดีงามที่พอไปวัดไปวาได้พอๆ กัน ส่วนความสนุกก็แล้วแต่บุคคลไป คือมันก็ยังดีกว่า Pokémon ที่ขายเด็กเล็กมากกว่าจนเรื่องราวมันหน่อมแน้มและส่วนใหญ่เนื้อหาก็น่าเบื่อวนเวียนไม่ไปไหน นานๆ ทีจะมีตอนที่สนุกๆ โผล่มาให้ได้ดีใจบ้าง ต่างกับ Detective Conan ที่ภาพรวมความดีงามของเนื้อหนังจะอยู่ในระดับที่เหนือกว่าทุกเรื่องที่พูดถึงอยู่หน่อย อาจจะด้วยความเป็นหนังสืบสวนสอบสวนที่บังคับให้ต้องเก็บรายละเอียดให้ครบเพื่อความสมบูรณ์ของเรื่องราว ส่วนความสนุกก็คงสนุกใครสนุกมัน ชอบของใครชอบของมัน
กลับมาที่ Naruto ที่จบรุ่นของ นารุโตะ จนได้เป็นโฮคาเงะสมหวังไปแล้ว ก็ยังเล่าต่อจากเรื่องราวรุ่นลูก โบรุโตะ (ซื่อจะคล้ายกันไปไหน) ที่ก็ต้องเติบโตตามวิถีนินจาเหมือนกับนารุโตะด้วยลักษณะนิสัยที่คล้ายกันมาก แต่เทคโนโลยีและการเมืองได้เปลี่ยนไปเมื่อ 5 หมู่บ้านนินจารวมเป็นหนึ่ง จนมาถึงยุคสมัยที่เหล่านินจาวัยรุ่นขวัญใจคนอ่านคนดูแต่งงานกันมีลูกมีเต้า เกิดเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ดูทันสมัยขึ้นผิดหูผิดตาจากที่เคยเห็นเคยรู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีฉากหลังเป็นหมู่บ้านนินจาที่ดูคร่ำครึไม่ทันสมัย พัฒนาไปจนกระทั้งมีอุปกรณ์ในการใช้วิชานินจาได้ไม่จำกัดสายเลือดและใช้ได้โดยไม่ต้องฝึกฝน ซึ่งเป็นที่มาของจุดขัดแย้งหลักแรกๆ ในหนังที่เปิดตัวลูกๆ ของนารุโตะและเพื่อนฝูงเจนใหม่ของตอนนี้
ตัวละครรวมๆ ในรุ่นใหม่ก็ดีนะ น่ารักบ้าง ดูเท่บ้าง แต่มันก็มีไม่น้อยที่ดูซ้ำๆ ไม่มีเสน่ห์เท่ารุ่นแรก ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะหนังไม่สามารถเล่าให้ทั่วถึงตัวละครอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวละครหลักได้เยอะพอ ตัวละครใหม่ที่เห็นเด่นๆ ก็จะมีแค่ โบรุโตะ มิตซึกิ(เด็กชายหน้าขาวลึกลับที่ตอนท้ายหนังจะเฉลยว่าเขาเป็นใคร?!!!!) และ ซาราดะ (ลูกสาวของ ซาสึเกะ กับ ซากุระ ตระกูลซา...) สองเกะนินที่เป็นทีมเมทของโบรุโตะ ส่วนตัวอื่นๆ ก็จะมาแค่เพิ่มสีสันให้ทายว่าเป็นลูกเป็นหลานใครกันบ้างซึ่งก็สนุกดูเพลินดี เพราะส่วนใหญ่ตัวละครรุ่นลูกทั้งหน้าตาเสื้อผ้าและพร็อบจะมาบล็อกเดียวกันกับพ่อกับแม่แถมใช้คาถาวิชานินจาเหมือนกันด้วยมันก็เลยดูได้ไม่ยาก อย่างเช่น เมทัล ลี ลูกชายของ ร็อก ลี ผมบ๊อบดำชุดเขียวมาเลยแต่ไม่ดูออกไปทางบ๊องเหมือนพ่อ ชิกาได ลูกชายของ ชิกามารุ กับ เทมาริ ก็ไว้ผมมัดผมรวบเหมือนพ่อดูหล่อเท่สัส ความเหมือนในสายเลือดแบบแทบจะถอดพิมพ์เดียวกันมาก็เลยทำให้ไม่ยากที่จะทายถูกเท่าไหร่ว่ามิตซึกิเด็กชายลึกลับทีมเมทของโบรุโตะนี้เป็นลูกของ... ส่วนตัวละครผู้ใหญ่จากรุ่นก่อนหลักๆ ก็มี นารุโตะ กับ ซาสึเกะ น่ะแหละ ส่วนที่มีบทสมทบเด่นขึ้นมาหน่อยก็มี ซากุระ ฮินาตะ ชิกามารุ ซาอิ เท็นเท็น และ กาอาระ ที่พ่วงมากับ โฮคาเงะจากอีกสามหมู่บ้าน นอกนั้นก็มีบทพูดบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็แทบจะเป็นพร็อบประกอบฉากไม่ก็เป็นตัวประกอบเดินผ่านหน้ากล้องไปเสียอย่างนั้น คาแร็กเตอร์ก็โตขึ้นและเท่ขึ้นบ้าง อย่าง โจจิ ที่ดูเป็นผู้ใหญ่สุขุมน่าเกรงขามมากขึ้น กับ ชิกามารุ ที่ไว้เคราแพะดูเท่เลย และที่แน่ๆ คือ ซาสึเกะ ที่ทั้งคาแร็กเตอร์เสื้อผ้าหน้าผมรวมกันแล้วโคตรจะเท่ ส่วนที่สวยขึ้นเนี่ยสวยแหล่มขึ้นทุกคนเลย โดยเฉพาะ เท็นเท็น อิโนะ กับ เทมาริ ที่บางคนมาแป๊บเดียวแต่ก็วี้ดวิ้วมากๆ แปลกขึ้นบ้าง (ส่วนตัวยังไม่เคยเห็นอนิเมชั่นวัยนี้แบบโตเต็มๆ สำหรับแฟนมังงะคงจะรู้จะเห็นกันอยู่แล้ว) มี ชิโนะ นี่แหละแปลก ความเท่ที่สั่งสมมาหายไปหมดเลย โถ...กลายเป็นพ่อไซคลอปซ์ซะได้ คิบะ ก็มาแค่แว้บๆ แบบแว้บจริงๆ
ในส่วนของเนื้อหนังก็เล่นกับการเรียนรู้การเป็นนินจาของโบรุโตะผ่านความสัมพันธ์ระหว่างพ่อที่เป็นโฮคาเงะอย่างนารุโตะ ถึงดราม่าพ่อลูกมันจะแอบคลิเชซ้ำซากอยู่บ้างแต่มันก็ดูโอเคกับการปูทางไปสู่เส้นเรื่องต่อๆ ไปแหละ แต่น่าเสียดายที่รวมๆ แล้วส่วนประกอบของเนื้อเรื่องสองสามส่วนมันมีรอยต่อที่ชัดเจนเกินไปหน่อย จนทำให้รู้สึกว่ามันตั้งใจใส่เข้ามาเพื่อทำหน้าที่ให้หนังเดินไปข้างหน้าได้ก็เท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้หนังมันกลมเกลาเข้าเนื้อแนบเนียนไปด้วยกัน ถ้าให้แบ่งก็คงแบ่งได้ประมาณนี้ 1. พาร์ตความสัมพันธ์ของโบรุโตะกับนารุโตะ 2. โบรุโตะกับการสอบจูนินและเครื่องช่วยใช้คาถาที่ตอนแรกๆ ไปจนถึงกลางเรื่องจะถูกปูให้เป็นตัวร้ายสำคัญ แต่อยู่ๆ ก็หายไปไม่ถูกพูดถึงในตอนหลังแต่อย่างใด 3. ตัวร้ายที่โผล่มาลักพาตัวนารุโตะไปเพื่อจะชิงเอาสัตว์หางที่ยำฉากแอคชั่นมาเป็น Prologue เปิดเรื่อง สองส่วนหลังมันดูเหมือนว่าถ้าไม่มีอันใดอันหนึ่งแล้วโบลว์ขยายอีกอันให้เป็นคอนฟลิคหลักดีๆ ที่ไม่เป็นก้อนๆ และไหลลื่นกว่านี้ก็ยังได้ แต่ก็นั่นแหละไคลแม็กซ์มันก็มักจะเลือกอันที่เว่อร์วังอลังการ แล้วสุดท้ายก็หลงลืมรายละเอียดที่ยังกลบฝังไม่หมด แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังดีอยู่ที่มันยังดูสนุกเพลินๆ อยู่นะ คือถ้าเทียบกับ The Last: Naruto the Movie (2014) ก็ยังไม่ดีเท่าหรอก แต่เราจะได้เห็นการรสมตัวของโฮคาเงะทั้ง 5 หมู่บ้านและซาสึเกะเพื่อตามไปช่วยนารุโตะและสู้กับตัวร้าย ซึ่งแน่นอนว่าโบรุโตะก็ไม่พลาดที่จะต้องตามไปเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเพื่อเติบโต ก็หวังอยากจะเห็น Naruto the Movie ที่สนุก ดุดัน จริงจังและดีงามกว่านี้สักครั้งเหมือนกันนะ อีกอย่างคือฉากแอคชั่นที่ดู เร็วๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องเนี่ยไม่ต้องเอามาเปิดเรื่องก็ได้ตามไม่ค่อยทัน :P
สรุปผลวิจารณ์หนัง