0 The+Beekeeper+-+%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD

The Beekeeper - นรกเรียกพ่อ

เข้าฉาย 11 มกราคม 2567
ผู้ชม : 9,515
ผู้กำกับ : David Ayer
ความยาวหนัง : 105.00
Text Size

หนัง The Beekeeper หรือชื่อไทยว่า นรกเรียกพ่อ เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลายเป็นเป้าหมายเดียวของเขา ศึกทลายซ่องสุมแก๊งชั่วจึงได้เริ่มต้นขึ้น เตรียมมันส์รับต้นปี 2024 ในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ระห่ำนรกแตก “The Beekeeper” กับเรื่องราวของ “อดัม เคลย์” (เจสัน สเตแธม) อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับมือพระกาฬในโปรแกรม “บีคีปเปอร์” ที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างสงบในการเลี้ยงผึ้ง แต่เกิดเหตุพลิกผันเมื่อคุณป้าเพื่อนบ้านคนสนิทของเขาปลิดชีวิตตัวเองลงเพราะตกเป็นเหยื่อของพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้มตุ๋น งานนี้ “อดัม เคลย์” จึงขอล้างแค้นแก๊งชั่วแบบถอนรากถอนโคตร ผลงานการกำกับสุดเดือดจาก เดวิด เอเยอร์ ชายอยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แอ็กชันที่ดิบแบบถึงลูกถึงคนอย่าง Fury และ Suicide Squad แท็กทีมกับแอ็กชันสตาร์ตัวพ่อ เจสัน สเตแธม (Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw) สมทบด้วยเหล่านักแสดงมากฝีมือเจ้าของรางวัลออสการ์ เจเรมี ไอรอนส์ (Batman v Superman: Dawn of Justice) และ จอช ฮัทเชอร์สัน (The Hunger Games) คอหนังชาวไทยเตรียมระเบิดความแค้นและทลายแก๊งชั่วไปพร้อมกับชายผู้นี้ ใน The Beekeeper 11 มกราคม 2024 ในโรงภาพยนตร์


The Beekeeper Follows an unconventional story with universal themes, deeply steeped in the mythology of Bee Keeping.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

16 มกราคม 2567 22:44:09

 

สายบู๊ล้างผลาญ เอาคืนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บังอาจมารบกวนความสงบในชีวิตของ”เขา”อย่างสาสมและสุดมันส์ต้องเรื่องนี้เลย Beekeeper นรกเรียกพ่อ ผลงานของผู้กำกับ Suicide Squad และ Fury ซึ่งหลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์แอคชั่นสุดมันส์อย่าง Beekeeper นรกเรียกพ่อ ที่ได้เจสัน สเตแธมมารับบทนำบู๊ล้างผลาญ พูดน้อยต่อยหนักจัดเต็มจนสะใจ ไม่พูดมากเจ็บคอ ลุกขึ้นมาต่อยกันเลยดีกว่ามา!! 55

ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่เราดูแล้วอินจัดจนใจเต้นเพราะมันส์เหนือความคาดหมายจากที่คิดไว้จริง ๆ การดำเนินเรื่องก็ไม่ช้าจนเกินไป ออกจะเข้าเรื่องเร็ว กระชับ และเข้าใจง่ายมาก ๆ ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง ๆ ไม่ต้องคิดตกผลึกอะไรมากมาย เราปล่อยจอย ปล่อยอารมณ์ไปตามเนื้อหาได้สบาย ๆ เลย จังหวะการตัดต่อก็ทำออกมาได้ลงตัวกลมกล่อมสมกับเป็นภาพยนตร์แอคชันที่เน้นคิวบู๊มันส์ ๆ ตัวบทก็ลื่นไหล ต่อมุขกันโบ๊ะบ๊ะ 

ในส่วนของเรื่องกราฟฟิก เอฟเฟคอะไรก็ถือว่าโอเค แบบถ้าไม่ใส่ใจนักจะไม่สังเกตหรอก ถือว่าปล่อยผ่านไปก็ได้ไม่มีปัญหา ไม่มีผลกระทบกับอรรถรสในการรับชมเลย เพลงประกอบเข้ากับเรื่องมาก ส่งอารมณ์ให้รู้สึกลุ้น มันส์ไปกับตัวภาพยนตร์ด้วย ถ้าถามว่าไปดูเพราะไบแอสนักแสดงอีกไหม ก็ส่วนหนึ่ง แม้จะมีความซ้ำซากตามแบบฉบับหนังสูตรสำเร็จตายตัวที่เราจะสามารถเดาทางได้ง่าย แต่เป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้เรารู้สึกสนุก และเอาเราอยู่หมัดจริง ๆ ฉากบู๊ก็ โหด ดิบ เถื่อนสาแก่ใจมาก คนพิการพี่แกก็ไม่เว้น555

ส่วนตัวบอกได้เลยว่าก่อนไปดูไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะสนุกขนาดนี้ คิดว่าจะเป็นหนังบู๊แอคชั่น ล้างแค้นทั่ว ๆ ไป แต่พอได้ดูจริง ๆ แล้วคือสนุกเกินเบอร์มากกว่าที่คิดไว้ ตัวบทก็ใส่มุขโบ๊ะบ๊ะ ฮา ๆ มาเรื่อย ๆ เสริมด้วยเพลง และซาวด์เอฟเฟคเร้าใจ ตัวนักแสดงก็แสดงได้ตามมาตรฐานที่ผ่านมา คนเดียวเอาอยู่หมัดแทบทั้งเรื่อง แก๊งตัวร้ายก็ปูมาตรง ๆ เลยว่ากลัวจริงแต่ก็สู้สุดใจ ใครชอบแนวแอคชั่น บู๊มันส์ ๆ มาดูเอาเพลินๆ ก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7.4
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)