The Covenant - เดอะ โคเวแนนท์
เข้าฉาย 20 เมษายน 2566
ผู้ชม : 13,535
ผู้กำกับ
: Guy Ritchie
ความยาวหนัง
: 125.00
Text Size
หนัง The Covenant หรือชื่อไทยว่า เดอะ โคเวแนนท์ ติดตามเรื่องราวของ จ่าจอห์น ผู้ที่ต้องไปปฏิบัติงานครั้งสุดท้ายที่อัฟกานิสถาน โดยเข้าจะร่วมงานกับล่ามท้องถิ่น อาเหม็ด ผู้ที่เสี่ยงชีวิตนำเอาตัวของ จอห์น ที่บาดเจ็บฝ่าพื้นที่การรบเพื่อไปสู่ที่ปลอดภัย
Follows Sergeant John, who on his last tour of duty in Afghanistan is teamed with local interpreter Ahmed, who risks his own life to carry an injured John across miles of grueling terrain to safety.
[รีวิว] THE COVENANT
--- 8.2/10 ---
หนังจริงจังที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Guy Ritchie
แอ็คชันมี ดราม่ามี เนื้อเรื่องเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ชัดเจน
ผ่านการแสดงอันน่าประทับใจของสองนักแสดงนำ
เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่หนังของ Guy Ritchie เข้าพร้อมกันในสัปดาห์เดียวกัน และทั้งสองเรื่องก็เรียกได้ว่าแทบจะต่างแนวกันอย่างสิ้นเชิง โดยอีกเรื่องที่รีวิวไปก่อนหน้านี้อย่าง Operation Fortune ก็คือสไตล์ที่เจ้าตัวถนัด เน้นพล่ามบท มุกตลกหน้าตาย แอ็คชันบ้าง แบบเฮฮาไม่จริงจังนัก แต่ในขณะเดียวกันกับ The Covenant คือโคตรจริงจัง แบบที่ไม่เคยเห็นมันมาก่อนในหนังเรื่องไหนของ Guy Ritchie คือถ้าไม่อ่านหรือเขียนโต้ง ๆ ว่า Guy Ritchie คือดูไม่รู้เลยว่าเป็นงานของเขา
The Covenant บอกเล่าเรื่องราวของจ่า John Kinley (Jake Gyllenhaal) ทหารที่ประจำการอยู่ที่อัฟกานิสถาน และล่ามชาวอัฟกันอย่าง Ahmed (Dar Salim) ที่ทั้งคู่เคยฝ่าฟันหนีเอาชีวิตรอดจากพวกตาลีบัน และเป็นล่ามคนนี้แหละที่ทำให้ John รอดชีวิตกลับไปหาครอบครัว ในขณะที่ Ahmed ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ นั่นทำให้ John ต้องหาทางไปพาหนี้ชีวิตกลับออกมาอย่างปลอดภัยอีกครั้ง
เอาจริง ๆ ตัวอย่างก็แทบจะเล่าทั้งเรื่องของหนังเรื่องนี้ แต่เหมือนมันจะชูประเด็นผิดไปสักหน่อย คือจากตัวอย่างพาลให้คนดูเข้าใจว่าหนังชูภารกิจการเข้าไปช่วยเหลือ Ahmed ด้วยตัวคนเดียวของ John แต่แท้จริงแล้วนั่นเป็นช่วงบทสรุปที่รวบรัดและรวดเร็วที่สุดของเรื่องราว แต่สิ่งที่โดดเด่นจริง ๆ คือเรื่องราวก่อนนั้น ตั้งแต่การที่ John ร่วมงานกับ Ahmed, การฝ่าฟันเอาชีวิตรอดของทั้งคู่, การที่ Ahmed ช่วยชีวิต John ที่สติเลือนลาง นั่นแหละคือส่วนที่ยอดเยี่ยมและน่าชื่นชมที่สุดของหนังเรื่องนี้
หนังมีบทที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ชัดเจน โดยอิงมาจากเหตุุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ในอัฟกานิสถาน ที่ต้องจ้างล่ามท้องถิ่นมาทำงานให้โดยมีข้อเสนอแลกกับวีซ่า แต่นั่นทำให้ล่ามหลายคนต้องเดือดร้อน จนบางคนถึงกับต้องเสียทั้งครอบครัวและชีวิตตนเอง หนังเอาประเด็นเรื่องนี้มาเล่น และไม่หลุดประเด็นไปไหน ถึงแม้จะไม่ได้ลึกซึ้ง หรือทำให้อินจนน้ำตาไหล แต่วิธีการดำเนินเรื่องและสารของเรื่องราวก็มากพอที่จะส่งผลให้คนดูตระหนัก รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และยังส่งผลให้เราร่วมเอาใจช่วยตัวละครผ่านวิบากกรรมในเรื่องอีกด้วย
อย่างที่ได้บอกไปว่าจุดดีงามทั้งหมดของเรื่องราวมันอยู่ที่ช่วงก่อนบทสรุป เราจะได้เห็นบทพูดเฉียบ ๆ ระหว่าง John กับ Ahmed ตอนร่วมงานกัน ได้เห็นแอ็คชันยาว ๆ ที่ไม่ได้มากไป น้อยไป แต่มากพอที่จะให้ตื่นเต้น เพลิดเพลิน และเอาใจช่วย เสียง sfx เวลายิงกันทำได้ดีเลย ได้เห็นการฝ่าวิบากกรรมของตัวละคร ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องชมการแสดงมาก ๆ ทั้งฝั่ง Jake Gyllenhaal ที่รับผิดชอบบทที่ตัวเองได้รับดีมาก ๆ บทอารมณ์ก็เอาอยู่ แอ็คชันท่าทางการเป็นทหารก็เท่ไม่หยอก แต่ที่โดดเด่นจริง ๆ คือการแสดงของ Dar Salim ทั้งสีหน้า ท่าทาง การแสดง แอ็คชัน ดราม่า ทำได้หมด เอาอยู่ทุกซีน เอาจริง ๆ โดยส่วนตัวคือเด่นกว่า Gyllenhaal ด้วยซ้ำ ไร้ที่ติมาก ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้หนังขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยสองการแสดงของเขาจริง ๆ
แต่จุดที่น่าเสียดายคือเรื่องราวหลังจากที่ได้กล่าวไป นอกจากบทมันจะมีความไม่สมเหตุสมผลบ้างในบางจุด หลัก ๆ คือมันเบาลงอย่างเห็นได้ชัด มันมีการบอกเล่าเสียเวลานานไปโดยมันสามารถทำให้เข้าใจง่ายกว่านี้ได้ในช่วงที่ John ปลอดภัยกลับประเทศแล้ว ถึงแม้จะเป็นพื้นที่ซีนอารมณ์ให้ Jake Gyllenhaal ได้โชว์ซีนดราม่า แต่มันก็น่าจะเล่าให้สั้นกว่านี้ได้ และที่น่าเสียดายที่สุดคือช่วงท้าย กับภารกิจการไปช่วยเหลือ Ahmed เพราะในขณะที่ช่วงแรกมันค่อยไปค่อยไป ช่วงหลังกลับเร่งรีบจนทุกอย่างมันดูง่ายดายไปเสียหมด คือถ้าช่วงหลังยัดอุปสรรคเยอะ ๆ เหมือนช่วงแรก ให้เห็นความยากลำบากเหมือนช่วงแรกมันจะดีกว่านี้มาก ๆ นี่ความยาว 2 ชั่วโมง ถ้ายืดออกไปอีกสักครึ่งชั่วโมงแล้วบาลานซ์ส่วนนี้ของหนังออกมาให้เหมือนช่วงแรกได้ มันจะดีมาก ๆ เลยทีเดียว นับว่าเป็นจุดที่น่าเสียดายใช่เล่น และอีกนิดนึงเรื่องประเด็นครอบครัวของ John ก็น่าจะหาบทสรุปให้สักนิดก็น่าจะดี
สรุปแล้วในภาพรวม The Covenant เป็นหนังอีกเรื่องอีกแนวอีกรสชาติของ Guy Ritchie ที่น่าประทับใจไม่น้อยเลย ทั้งการดำเนินเรื่อง วิธีการเล่า บทที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน ไม่เล่นท่ายาก แอ็คชันก็เพลิดเพลิน ไม่มากไม่น้อยไป ผ่านการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Jake Gyllenhaal และ Dar Salim ถือว่าเป็นหนังแอ็คชัน ดราม่า ที่ดีเรื่องนึงเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง