Beau Is Afraid - โบอย่าไปกลัว
เข้าฉาย 25 พฤษภาคม 2566
ผู้ชม : 3,615
ผู้กำกับ
: Ari Aster
ความยาวหนัง
: 180.00
Text Size
หนัง Beau Is Afraid หรือชื่อไทยว่า โบอย่าไปกลัว ชายผู้วิตกกังวลเดินทางไปในเส้นทางของการผจญภัยอันยาวนาน เพื่อที่จะกลับบ้านไปหาแม่ของเขา
Beau Is Afraid A decades-spanning portrait of one of the most successful entrepreneurs of all time.
Beau Is Afraid โบอย่าไปกลัว
เรื่องราวสุดจิตแตกของโบ วาสเซอร์แมน (รับบทโดยวาคีน ฟีนิกส์) กับความสัมพันธ์สุดวายป่วงของเขากับแม่ ที่ส่งผลให้ตัวเขานั้นต้องเผชิญกับโรควิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา และเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องกลับบ้านไปหาแม่ ความวิตกกังวลนั้นก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุด และต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวมากมายในระหว่างการเดินทางครั้งนี้
ต้องขอบอกเลยว่าเป็นหนังเขย่าขวัญแปลกใหม่มาก ๆ สำหรับ "โบอย่าไปกลัว" ที่แค่เริ่มเรื่องมาก็กินขาดสุด ๆ กับการใช้เสียงประกอบที่แม้มีแค่ภาพมืด ๆ ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดตามไปด้วยได้ ในแต่ละช่วงมีมุกตลกร้ายให้เราได้ขำอยู่ตลอด และพร้อมจะช็อตฟีลเรา ให้เราอุทานอิหยังวะได้แทบจะตั้งแต่ต้นจนจบ
สำหรับเราคิดว่าผลงานของอารี แอสเตอร์ ผู้กำกับจากเรื่อง Hereditary และ Midsommar เป็นหนังที่ชวนให้เราได้ใช้ความคิดวิเคราะห์และคำนึงถึงความหมายที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อ บางทีอาจจะทำให้เราไม่เก็ทมุกบางมุกที่ตั้งใจใส่มาเพราะมัวแต่จะคิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบอกเลยว่าสำหรับแฟนหนังของอารี แอสเตอร์นั้น พลาดไม่ได้จริง ๆ เพราะBeau Is Afriad สนุกแบบแหวกแนวทั้งสองเรื่องนี้มากจริง ๆ และเราคาดเดาอะไรไม่ได้เลยสำหรับเรื่องนี้ กราฟอารมณ์เหวี่ยงได้สุดขั้วมาก ๆ
ในหนังเรื่องนี้ ไม่มีความสยองชวนแหวะแต่อย่างใด มีแต่ความอึดอัด เขย่าขวัญกับความวิตกจริตของโบ ที่ถึงแม้จะเป็นหนังที่นานถึง 3 ชั่วโมงก็ไม่ได้ชวนให้รู้สึกง่วงแม้แต่น้อย เพราะเทคนิคการเล่าเรื่องราวของตัวหนัง การใช้ซาวด์เอฟเฟคประกอบต่าง ๆ สามารถกระชากเรากลับมาทำให้เรามีอารมณ์ร่วมกับหนังได้ตลอดเวลา ทำให้เราเองรู้สึกสนุก เอนจอยตลอดทั้งเรื่อง ขำกับมุกตลกร้าย ๆ และความอิหยังวะของมันได้ทั้งเรื่อง ตัวหนังเองก็มีจุดหักมุมค่อนข้างเยอะทีเดียว ในเรื่องนี้การแสดงของนักแสดงมากความสามารถของ วาคีน ฟีนิกส์ นั้นถ่ายทอดความสติแตกของโบออกมาได้แบบสุดยอดจริง ๆ เข้าถึงสุด ๆได้ทุกอารมณ์
“Beau Is Afriad” ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของความกลัวในการใช้ชีวิต ที่แฝงไปด้วยปรัชญาการใช้ชีวิต ความรัก ความสัมพันธ์ครอบครัว ความรักของแม่-ลูก มีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นมาในหัวทั้งตอนดูอยู่และหลังจากดูหนังจบ ที่ไม่ใช่แค่คำว่าอิหยังวะแน่นอน
สรุปผลวิจารณ์หนัง