หุ่นพยนต์ - Hoon Pa Yont
เข้าฉาย 12 เมษายน 2566
ผู้ชม : 15,691
ผู้กำกับ
: ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ
ความยาวหนัง
: 107.00
Text Size
หนัง Hoon Pa Yont หรือชื่อไทยว่า หุ่นพยนต์ ธาม ดั้นด้นเดินทางมาหาพี่ชาย ที่วัดบนเกาะดอนสิงธรรม เพื่อแจ้งข่าวร้ายกับการจากไปของพ่อและแม่ เมื่อธามเดินทางมาถึงก็ได้พบกับ เจษ หลานชายของเจ้าอาวาสคนเก่า และมีข่าวลือว่าพี่ชายของเขาได้หนีหายสาบสูญหลังจากลงมือฆ่าอดีตเจ้าอาวาสจนมรณภาพ ธามไม่เชื่อกับข่าวลือพอๆกับการไม่นับถือหุ่นปั้นพ่อปู่สิงธรรมที่ดูเหมือนภูติผีมากกว่าเทพที่คอยปกปักรักษา จนกระทั่งเกิดเหตุอาเพศในหมู่บ้าน เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งสูญหาย สัตว์ร้ายออกเพ่นพ่าน ผีตายโหงออกอาละวาด ชาวบ้านโกรธแค้นเตรียมตั้งพิธีกรรมสาปแช่งถึงมือมืด เตรียมตัวเผชิญหน้ากับความน่ากลัวครั้งใหม่ ถ้าเล่นกับความงมงาย ท้าทายกับศรัทธา ต้องกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองไม่เห็น!
[รีวิว] หุ่นพยนต์
--- 2.6/10 ---
ชอบ...ช่วงแรกก่อนชื่อหนังขึ้น
นอกจากนั้นก็ไม่ชอบอะไรของหนังเรื่องนี้อีกเลย
หลังดูจบถึงกับตั้งคำถามในหัวว่า มันมีจุดไหนที่เป็นปัญหาจนทำให้ตัวหนังมันเลื่อนฉายกันนะ...และการที่จัดเรท ฉ.20- จริง ๆ มันแทบไม่มีฉากรุนแรงขนาดต้องได้เรทขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แค่เท่าที่นึกออกคือฉากแรกก่อนชื่อหนังขึ้นอะแค่นั้นเลย
หุ่นพยนต์ เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึง ธาม ได้เดินทางมายังสถานที่แห่งหนึ่งที่พี่เขามาบวช เพื่อมาแจ้งข่าวว่าพ่อแม่เสียแล้ว แต่ก็ได้ทราบว่าพี่ชายหายตัวไป เพราะหนีจากการฆาตกรรมเจ้าอาวาสคนเก่า และนั่นทำให้เขาตัดสินใจจะขออาศัยอยู่ที่นี่เพื่อตามหาความจริง และนั่นมันก็นำพาไปสู่เรื่องราวความลับอันดำมืดของที่แห่งนี้
เอาจริง ๆ ไอเดียมันดีนะ กับเรื่องราวการสืบสวนหาความจริง มีสิ่งลี้ลับเข้ามาผสม และเปิดเรื่องได้น่าสนใจ ดูดีเลยทีเดียว จนกระทั่งชื่อหนังขึ้น หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรดูดีอีกต่อไป...เริ่มจากข้อเอะใจแรกเลย พระที่นี่เค้าคิ้วหนากันเนอะ ไม่เหมือนพระ เหมือนคนตัดสกินเฮดแล้วมานุ่งผ้าเหลืองมากกว่า ไม่ใช่แค่คนเดียวนะ ทุกคนที่รับบทพระ!
หลายเอ๊ะ ต่อมาก็เกิดขึ้นมากมายระหว่างทาง หนังมีปัญหาเรื่องบทและการเล่าเรื่องมาก ๆ ไม่ใช่มันเล่าไม่รู้เรื่องนะ แต่หลายฉากมันเล่าเพื่ออะไรก็ไม่รู้ เช่นฉากพระไถสเก็ตบอร์ด หรืออย่างฉากที่พระเอกมันไม่มีเสื้อ ฉากต่อมาอีกตัวละครเอาเสื้อให้ใส่ มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอไอ้ฉากเนี้ย กลัวเห็นหัวนมนานไปงี้? คือช่วงแรก ๆ มันยังพอรู้เรื่องค่อยเป็นค่อยไป แต่ยิ่งหนังดำเนินไปข้างหน้ามันยิ่งขาดความต่อเนื่อง บางฉากก็โดด บางฉากซิงก์เสียงพูดไม่ตรงกับปากด้วยซ้ำ อยากให้เกิดอะไรก็เกิด โยนฉากนั้นมาที ฉากนี้มาที บางฉากเล่าแบบเป็นปริศนา พอฉากต่อมาเฉลยฉากนั้นแล้ว และจะทำเป็นปริศนาเพื่อ? บทพ่อปู่ก็เหมือนกัน มีทำไม ช่วยอะไร มีประโยชน์ต่อเรื่องราวยังไง เพราะจุด ๆ นึงก็หายไปไม่บอกเล่ากล่าวถึงอีกเลย มันมีหลายเหตุการณ์ให้เล่า แต่มันไม่ค่อยส่งกันเลย หนังพยายามเล่นกับศรัทธา ความเชื่อ งมงาย อยู่ช่วงนึง อีกช่วงนึงก็ไปเล่นบริกรรมคาถา ปลุกเสก มนต์บลา ๆ เล่นผีหลอกบ้าง บทนักสืบบ้าง คือยึดแนวทางอะไรให้ได้ก่อนสักอย่าง
ทางด้านความหลอน ความน่ากลัว ความผีต่าง ๆ ก็อยู่ในจุดที่สอบไม่ผ่านอยู่ดี บรรยากาศอยู่ในป่าแท้ ๆ แต่ถ่ายออกมาได้ไม่น่ากลัวเลยสักนิด ฉากบางฉากนี่น่าจะเอาอะไรมาเล่นได้เลย พวกมุกแบบห้องหุ่น เจอหุ่นเยอะ ๆ อันไหนผีนะ อันไหนหุ่น มันมีซีนแบบหุ่นพระนั่งเยอะ ๆ ก็เอามาเล่นได้อีกเยอะแยะ แต่ก็หลอกผีแบบแห้ง ๆ ไอ้ผีก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าน่ากลัวด้วยซ้ำ เหมือนคนโดนปะแป้งสงกรานต์ ไอ้ฉากผีสลายตอนท้ายนี่แบบ โอ้โห 2023 คุณพระ!!! คือมีจังหวะพยายามหลอก พยายามน่ากลัวแต่แบบ...เห้อ ง้างมาแบบเหมือนสะกิดคนดู จะหลอกละนะ จะหลอกจริง ๆ แล้วนะ แฮ่ ซาวด์ก็แบบง้างมาพร้อมกันเลย
ปัญหาต่อมาคือความตลก ความตลกที่ใส่มาแล้วไม่ได้ตลกแต่มันกลับตลกในความไม่ตลกของมันนั่นแหละ คือตลกที่มันใส่มาทำไมไม่รู้ มันคือตลกแบบหนังผีสมัยก่อน คือมีฉากแบบเจอผีแล้วตกใจแหกปากลั่นค้างหน้ากล้องทุกตัวละครแล้ววิ่งหนี ฉากเจอผีแล้วแบบกลัวไม่กล้าเลยยืนกอดกัน นายไปสิ นายทำสิ
ทางด้านนักแสดง เราไม่ชอบเลยที่ทุกครั้งที่พระเอกเจอกับนางเอก (เรียกว่านางเอกได้แหละ) แล้วต้องพยายามทำหน้าหล่อ ดึงหน้าหล่อ พร้อม ๆ กับช่วยเหลือนางเอกบางอย่าง แล้วก็ยิ้มแบบอรุ่มเจ๊าะให้กันและกัน นักแสดงอื่น ๆ ก็แสดงกันแข็งโคตร โดยเฉพาะพระกลุ่มพระเอก (แต่ฉากพระเล่นสเก็ตก็สมจริงดี) มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่น่าชื่นชม คือการแสดงของ อัพ-ภูมิพัฒน์ ในบท เต๊ะ คือจริง ๆ มันก็ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แต่เจ้าตัวก็รับผิดชอบบทของตัวเองได้ดี ยิ่งอยู่ท่ามกลางนักแสดงคนอื่น ๆ ยิ่งโดดเด่นเลย
สรุปแล้ว หุ่นพยนต์ เป็นหนังกระแสจากกรณีโดนเลื่อนฉาย ที่เต็มไปด้วยแผล ซึ่งจริง ๆ โครงดี ไอเดียดี แต่นำเสนอ บอกเล่าได้ไม่ดีเอาซะเลย หนังมันมีคำถามตามมาเต็มไปหมดถึงหลาย ๆ สิ่ง ว่าทำไม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการดูเรื่องนี้คือกลัวเดินเหยียบเท้าคนที่นั่งอยู่ก่อนตอนเข้าโรงมาก ๆ เท่านั้นแหละครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง