The Man from U.N.C.L.E. - คู่ดุไร้ปรานี
หนัง The Man from U.N.C.L.E. ผลงานการกำกับของกาย ริตชี่ กับ The Man from U.N.C.L.E. ว่าด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 1960 เมื่อสงครามเย็นปะทุขึ้นอย่างหนัก หน่วย The Man from U.N.C.L.E. ซึ่งมีสายลับ CIA โซโลและสายลับ KGB เคอร์ยาคิน ทั้งคู่ต้องจำใจทิ้งความบาดหมางและร่วมกันปฏิบัติภารกิจหยุดยั้งองค์กรแห่งอาชญากรรมลับทั่วโลก ซึ่งมีจุดหมายคือการเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีเพื่อทำลายสมดุลของมหาอำนาจ ทว่าผู้ที่บงการพวกเขาได้กลับมีเพียงลูกสาวของนักวิทยาศาสตร์เยอรมันที่หายตัวไปซึ่งเธอคือกุญแจสำคัญสู่การแทรกซึมเข้าองค์กรอาชญากรรม! ทั้งคู่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อหาตัวพ่อของเธอให้พบและปกป้องโลกจากความวินาศนี้ให้ได้!
หนัง The Man from U.N.C.L.E. In the early 1960s, CIA agent Napoleon Solo and KGB operative Illya Kuryakin participate in a joint mission against a mysterious criminal organization, which is working to proliferate nuclear weapons.
ผลงานล่าสุดของ Guy Ritchie ผู้กำกับสุดแนวผู้มีลายเซ็นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่หวือหวาฉูดฉาดและมีเทคนิคพิเศษเปี่ยมด้วยจินตนาการในการดีไซน์ช็อตเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร ตัวละครมีเสน่ห์และคาดเดาไม่ได้และมักมีความยียวนเป็นตราประทับ ส่วนผสมอีกหลายอย่างที่ทำให้หนังของเขาดูสนุกและมอบความสดใหม่ให้ผู้ชมอยู่เสมอ
หนังเล่าย้อนไปในสมัยยุค60 Napoleon Solo ลายลับพิเศษของอเมริกาต้องมาจับมือกับสายลับโซเวียตอย่าง Illya Kuryakin เพื่อแทรกแซงหยุดยั้งปฏิบัติการสร้างระเบิดในเยอรมัน ความที่ทั้งสองชาติมหาอำนาจอันเป็นคู่กัดกันเป็นทุนเดิมทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกันตั้งแต่แรกพบ และปะทะทางคารมพูดจาเสียดเย้ยกันตลอดการทำภารกิจ ในขณะที่ Napoleon เป็นพวกจอมปลอมแปลงปลิ้นปล้อนขี้ขโมย Illya ก็เป็นแบบฉบับความเคร่งขรึมจริงจังของทหารโซเวียต ทั้งสองคาแรคเตอร์สุดขั้วถูกนำมาปะทะกันในซีนต่างๆ แทรกด้วยมุขตลกล้อเลียนชาตินิยมได้อย่างสนุกน่าสนใจ
สิ่งที่คาดหวังได้เสมอจากหนังปะยี่ห้อของ Guy Ritchie คือความสนุกในการดูซีนที่สร้างสรรค์ มันส์และแปลกไปจากหนังเรื่องอื่นๆ เต็มไปด้วยรสนิยมในการใช้เทคนิคและลูกล่อลูกชนแพรวพราวเป็นเอกลักษณ์อย่างหาตัวจับได้ยาก
โดยรวมแล้ว The Man from U.N.C.L.E. อาจไม่สามารถเทียบเท่างานชิ้นโบว์แดงของ Ritchie อย่าง Lock, Stock and Two Smoking Barrels (1998) และคงยากที่จะเห็นหนังที่ท็อปฟอร์มขนาดนั้นของเขาอีกแล้ว แต่ในรสแบบแอคชั่นฮอลลีวู้ดก็ยังนับได้ว่าหนังเรื่องนี้ยังคงมีความแตกต่างและความบันเทิงเฉพาะตัวซึ่งไม่บ่อยเลยที่หนังแอคชั่นฮอลลีวู้ดจะมีลายเซ็นที่เด่นชัดของผู้กำกับทำให้ซีนแอคชั่นมีความแตกต่างออกไป เช่นหนังค่าย Marvel ที่ดูจะพยายามเลือกผู้กำกับที่ไม่ได้มีลายเซ็นในงานชัดนักเพื่อรักษาเอกภาพของแฟรนไชส์
สรุปผลวิจารณ์หนัง