Fantastic Four - แฟนแทสติก โฟร์
เข้าฉาย 6 สิงหาคม 2558
ผู้ชม : 16,270
ผู้กำกับ
: Josh Trank
ความยาวหนัง
: 106.00
Text Size
หนัง Fantastic Four หรือชื่อไทยว่า แฟนแทสติก โฟร์ เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นธรรมดา 4 คนที่สามารถหายตัวสลับเข้าไปในโลกที่มีความอันตรายได้ ซึ่งร่างกายของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าทึ่ง ชีวิตพวกเขาพลิกผันไปอย่างไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ ทั้งทีมต้องศึกษาวิธีควบคุมความสามารถใหม่ของพวกเขา และร่วมมือกันปกป้องโลกจากเพื่อนเก่าที่กลายมาเป็นศัตรูนั่นเอง
Fantastic Four A pair of former high school sweethearts reunite after many years when they return to visit their small hometown.Four young scientists achieve superhuman abilities through a teleportation experiment gone haywire. They must now use these abilities to save the world from an uprising tyrant.
Fantastic Four - แฟนทาสติกโฟร์
100 min | Action/Sci-fi | Directed by Josh Trank
โปรเจคซุปเปอร์ฮีโร่รีเมคเรื่องล่าสุดจาก สี่พลังคนกายสิทธิ์ ในปี 2005 ซึ่งเคยโด่งดังมากในระดับนึง นับจากภาคแรกก็ผ่านมาร่วมสิบปีพอดี ทาง Fox จึงคิดริเริ่มที่จะสร้างใหม่ด้วยมุมมองที่ใหม่ขึ้น สดขึ้น และเพื่อโปรเจ็คที่จะนำมนุษย์กลายพันธุ์ X-Men มารวมกับ F4 โดยได้จอช แทรงค์ ผกก.ที่เคยจับหนังแอนตี้ฮีโร่แล้วบูมอย่าง จอช แทรงค์ ซึ่งเคยกำกับ Chronicle มา จากที่กร่าวไปข้างต้นคงพอจะทราบถึงความคาดหวังของผมในเรื่องนี้ได้ไม่น้อย และด้วยทีมนักแสดงวัยรุ่นที่ต้องบอกว่าน่าสนใจ น่าเสียดายที่หลายต่อหลายอย่างมันไม่เป็นตามที่ผมคิดไว้เลย " แม้แต่นิด !! "
ถ้าถอดพลอตกันจริงๆก็คล้ายๆกับแบบเดิมแหละครับ ที่เด็ก 4 (หรือ 5 คน) ไปรับสารรังสีอะไรบางอย่างมาซึ่งในเวอร์ชั่นนี้พวกเค้าคิดค้นเครื่องเทเลพอร์ตเพื่อจะไปหาแหล่งทรัพยากรในมิติอื่นๆ แต่พอได้รับรังสีมาทำให้ร่างกายของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
ช่วงแรกของหนังเล่าถึงการเจริญเติบโตของรี๊ดและเบน บนเส้นทางของนักวิทย์นักคิด นักประดิษฐ์ที่มีความคิดอยากเปลี่ยนโลกแต่คนอื่นไม่เข้าใจ ซึ่งทำได้ดี แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนได้รับพลังไปแล้วนั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของความห่วย ...
ลองจินตนาการถึงภาคแรกสุดนะครับ แล้วมาดูเรื่องราวทั้งหมดของภาคนี้ หนังใช้เวลาไปกว่า 80หรือ90% ในการปูเรื่องครับ ปูนานมาก จนผมเอะใจว่า เอ๊ะหนังร้อยนาทีเองนะ ซึ่งแน่ล่ะครับเหมือนผกก.ปูนานมากไปจนลืมแล้วพอนึกได้ก็จะมาหักดิบกลับเข้าสู่โหมดไคลแม็กซ์ โหมดบู๊แอคชั่น ซึ่งถามว่าสายไปไหม ก็ต้องบอกว่าสายไปมากๆเลยครับ คือด้วยความที่หักกลับมาแบบนี้ สิ่งที่น่าเกลียดมากๆคือการที่ตัวเองสร้างปม สร้างคอนฟลิคไว้ แต่ดันลืมแก้ และฉากไคลแม็กซ์ก็ไม่ได้มีความพีคใดๆทั้งสิ้น ดูง้องแง้งดูตลกมาก ทำให้หนังทั้งเรื่องไม่สามารถหาความสนุกได้เลย และพอเวลาเหลือน้อยมีการโกงเวลาจนหลุดธีมหนัง (การเติบโต) ไป
ส่วนนี้พูดถึงส่วนที่ห่วยที่สุดนะครับ คือตัวร้าย (และเปิดเผยเนื้อหาส่วนสำคัญ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดร.ดูม หรือ วิคเตอร์ วอน ดูม ถูกตีความใหม่เป็นแฮคเกอร์เป็นนักประดิษฐ์ จะว่าเป็นหัวขบถมีความคิดที่ขวางโลกก็ว่าได้ ซึ่งเขาเองก็ร่วมเดินทางและเกิดอุบัติเหตุไม่ได้กลับมาด้วย ทำให้เขามีพลังซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ต้องบอกว่าโคตรเทพ เพราะไม่ใช่แค่แม่เหล็ก หรือ สายฟ้า แต่สามารถควบคุมอะไรก็ได้ ว้าว แฟนคอมมิคอย่างผมได้แต่ว้าว นี่มันพลังระดับบีอิ้งคอสมิคแล้ว แต่ นั่นล่ะครับ ผมได้ค้นพบวายร้ายในหนังฮีโร่ที่ไร้น้ำยาที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่แล้ว เพราะนอกจากจะไร้เหตุผลแล้ว ยังตายง่ายและโง่มาก จะว่าไม่ถูกจดจำก็ไม่ได้เพราะคงจำไปอีกนาน โอเคหลายคนคงเดาได้ว่ามันมีภาคต่อและมันกลับมาแน่ก็เถอะ แต่ถ้าเราพูดถึงหนังภาคเดียวคือภาคนี้ นั่นเป็นอะไรที่งี่เง่ามากๆ
ก็พออนุมานได้บ้างว่าทั้งหมดทั้งมวลในภาคนี้อาจเป็นการทดลองหรือการปูทางให้กับแพลนของ Fox ที่อยากสร้างจักรวาล หรือ ภาคต่อให้กับ F4 เวอร์ชั่นนี้ แต่อย่างไรก็ดี Fantastic Four ของ จอช แทรงค์ ล้มเหลวในทุกด้าน ทั้งดราม่า ไซไฟที่เขาต้องการ , ความเป็นหนังแอคชั่นฮีโร่ซึ่งไม่มีเลย และ ความสนุก สาระและความบันเทิงซึ่งไม่สามารถหาได้จากหนังเรื่องนี้
สรุปผลวิจารณ์หนัง