Sick of Myself - ซิค ออฟ มายเซลฟ์
เข้าฉาย 24 พฤศจิกายน 2565
ผู้ชม : 3,168
ผู้กำกับ
: Kristoffer Borgli
ความยาวหนัง
: 95.00
Text Size
หนัง Sick of Myself หรือชื่อไทยว่า ซิค ออฟ มายเซลฟ์ “จะทำยังไงเมื่อหัวใจของคุณไม่ยอมมูฟออน“ เรื่องราวของ ซิงเนอ กับ ธอมัส ที่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอยู่ในช่วงเปราะบาง ในขณะที่อาชีพหน้าที่การงานของแฟนหนุ่มกำลังรุ่งเรืองแซงหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ในฐานะศิลปิน ทำให้เธอคิดหาวิธีพยายามตอบโต้และกระชับความสัมพันธ์ด้วยการวางแผนชั่วร้ายที่จะใช้ "โรคกำเนิดใหม่" มาเป็นสิ่งเรียกร้องความสนใจ แต่กลายเป็นว่ามันมอบแรงดึงดูดจากทั้งสังคมมายังที่เธอ และมากกว่าผลลัพธ์ที่เธอได้คาดหวังไว้
Increasingly overshadowed by her boyfriend's recent rise to fame as a contemporary artist creating sculptures from stolen furniture, Signe hatches a vicious plan to reclaim her rightfully deserved attention within the milieu of Oslo's cultural elite.
[รีวิว] SICK OF MYSELF
--- ?/10 ---
เรื่องราวของหญิงหิวแสง ตรรกะเพี้ยน
ที่ดูจบแล้วแบบ ห๊ะ!? อะไรวะ?
"ห๊ะ!?" คือคำอุทานแรกตั้งแต่หนังจบลง เรานั่งอึ้ง นั่งงง นั่งอึน นั่งแบบไม่รู้ต้องรู้สึกอะไรกับหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่ End-credit ขึ้น เห็นชื่อผู้กำกับ ทีมงาน นักแสดง จนจอดำ ไฟในโรงหนังเปิด ก็ยังคงวงเวียนอยู่กับความคิดตัวเองว่า "ห๊ะ!? อะไรวะ?"
บอกเล่าเรื่องย่อสั้น ๆ ง่าย ๆ ของ Sick of Myself เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่หิวแสงมาก ๆ ต้องการเป็นจุดสนใจมากถึงมากที่สุด เธอมักจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้คนรอบข้างหันมาสนใจในตัวเธอ แล้วเธอก็ใช้วิธีแบบสุดโต่งที่กู่ไม่กลับเพื่อเรียกร้องความสนใจแบบสุด ๆ รู้แค่นี้แหละ แล้วก็มานั่งห๊ะ! ไปตลอดเรื่องแบบผมเนี่ยแหละ
เอาจริง ๆ มันอาจจะมีอะไรแอบแฝงไว้ลึกซึ้งมากมายกว่านั้น แต่ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าหลังดูจบแล้วผมได้อะไรไปจากหนังเรื่องนี้ เข้าไม่ถึงความตั้งใจของผู้กำกับจริง ๆ ถ้าดูตามท้องเรื่องนะมันไม่ใช่หนังมันดูยากนะ มันดูง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ตามเรื่องย่อที่บอก เราจะได้เห็นตรรกะเพี้ยน ๆ ป่วย ๆ จนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นโรคของตัวนางเอกตลอดทั้งเรื่อง แล้วก็ผลกระทบจากสิ่งสุดโต่งที่เธอทำ แล้วก็...แค่นั้นแหละ ที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้ จริง ๆ หนังอาจจะแค่อยากบอกเราว่าในโลกมันมีคนหิวแสงหนักมาก ๆ จนกลายมาเป็นโรคนะ มีคนได้รับผลกระทบจากการกระทำแบบนี้มากมายเลยนะ ก็อาจจะแค่ประมาณนั้น หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น...ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พอมาถึงบทสรุปของหนัง แล้วย้อนกลับมาดูชื่อหนังอีกที คงจะพอสรุปได้ว่า "เออ นางเอกมันก็คงเบื่อตัวเองเหมือนกันแหละ" มั้ง
ถ้าถามว่าหนังมันสนุกมั้ย มันก็สนุกนะ ไม่น่าเบื่อ เพราะหนังมีความตลกร้าย มีการใส่มุกหยอดมาถูกช่วงถูกจังหวะให้คนได้หัวเราะกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวเอกทำ ได้หัวเราะไปกับตรรกะเพี้ยน ๆ ป่วย ๆ ของนางเอก
โอเคเรามาดูถึงงานภาพกันบ้าง หนังมันก็ไม่ได้มีซีนสวย ๆ อะไรเท่าไหร่ หลายฉากก็เป็นการใช้ Handeld ถือกล้องถ่าย มุมกล้องก็ธรรมดา ในด้านการถ่ายทำก็ไม่ได้มีอะไรน่าชื่นชมเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีม make up ก็แต่งหน้านางเอกออกมาได้เจ๋งดี มีทั้งสมจริง และดูเวอร์เกินจริงแบบตั้งใจให้มันเกินจริง
ทางด้านนักแสดงคนอื่นเราเฉย ๆ นะ ยกเว้นนางเอก ที่เข้าถึงบทบาทดี ดูรู้จักตัวละครดีเลยแหละ เธอแสดงได้ธรรมชาติ ตรรกะดูป่วยจริง ดูเพี้ยนจริง แถมยังแสดงได้น่าหมั่นไส้ในบางทีอีกด้วย
สรุปแล้ว Sick of Myself เป็นหนังเรื่องนึงที่เขียนรีวิวยากเหมือนกัน เพราะไม่รู้จะเขียนอะไร หนังมันมีแค่นั้นจริง ๆ อย่างที่บอกว่านอกจากจะได้เห็นความหิวเสียง การต้องการเป็นที่สนใจ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นโรค ก็ไม่รู้ว่าหนังมันแฝงอะไรไว้หรือเปล่า แต่(1)มันก็เป็นหนังที่บันเทิงอยู่เหมือนกัน แต่(2)ก็ยัง "ห๊ะ!?" กับสิ่งที่เกิดขึ้นใน 1 ชั่วโมงครึ่งอยู่ดี เอาจริง ๆ ให้คะแนนไม่ถูกเหมือนกันนะ ไม่รู้จะให้คะแนนอะไรยังไงเลยอะ ขอไม่ให้คะแนนละกั๊น
สรุปผลวิจารณ์หนัง