Insidious : The Red Door - วิญญาณตามติด : ประตูผีผ่าน
เข้าฉาย 27 กรกฎาคม 2566
ผู้ชม : 7,703
ผู้กำกับ
: Patrick Wilson
ความยาวหนัง
: 105.00
Text Size
หนัง Insidious : The Red Door หรือชื่อไทยว่า วิญญาณตามติด : ประตูผีผ่าน วิญญาณตามติด…ประตูผีผ่าน ภาพยนตร์สยองขวัญผลงานจากบลัมเฮาส์ และเจมส์ วาน เรื่องลับสั่นสะพรึงของครอบครัวแลมเบิร์ตจะถูกเผยจนคุณต้องผวา เมื่อการปิดตำนานสุดสยอง “จอช” (แพทริค วิลสัน) และ “ดัลตัน” (ไท ซิมพ์คินส์) ต้องเผชิญกับวิญญาณร้ายสุดเฮี้ยนและความลับสุดหลอนของครอบครัวที่ซ่อนอยู่หลังประตูผีผ่าน เมื่อคุณปลุกภูตผี ยิ่งเข้าสู่มิติมืดมากเท่าไร ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น นำแสดงโดย แพทริค วิลสัน, โรส เบิร์น, ไท ซิมพ์คินส์, ลินน์ เชย์ และอีกมากมาย
Insidious : The Red Door The Lamberts 10 years after the last installment, as Dalton begins college.
การตามติดของวิญญาณร้ายได้กลับมาให้รับชมความหลอนกันอีกครั้งกับเรื่องราวของดัลตั้น แลมเบิร์ต (รับบทโดยไท ซิมพ์กินส์) เด็กหนุ่มที่สามารถถอดจิตได้เหมือนกับพ่อของเขากับการตะลุยไปยังปรโลกเพื่อตามหาความจริงในอดีตที่ขาดหายไปอันเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อของเขา จอช แลมเบิร์ต (รับบทโดยแพทริค วิลสัน) ได้มาอยู่ในจุดที่ระหองระแหง ส่งผลให้ทั้งสองคนยิ่งห่างกันออกไปเรื่อย ๆ ประกอบกับการถูกภรรยาขอหย่าและสูญเสียแม่อันเป็นที่รัก จอชที่สมองยังหลง ๆ จากการถูกสะกดจิตให้ลืมจนส่งผบกระทบกับการใช้ชีวิตก็ยิ่งฟุ้งซ่าน จนกระทั่งดัลตั้นได้เข้าเรียนในวิทยาลัยศิลปะและได้ดำดิ่งสู่ก้นลึกของจิตใจจนกระทั่งได้รับรู้สัญญาณบางอย่างจากปรโลก สถานที่ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ต้องบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวได้ติดตามภาพยนตร์แฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ภาคแรกด้วยความที่ส่วนตัวชอบหนังสยองขวัญแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้เรื่องนี้อาจจะมีความงง ๆ หน่อยในช่วงแรก แต่ได้เฉลยทั้งหมดไปแล้วในภาคที่ 2 และคิดว่าจะจบไปจริง ๆ แล้ว แต่ค่ายก็ยังเข็นภาค 3 4 5 ออกมาจนได้ ถ้าถามว่ามีความแตกต่างไปจากเดิมไหม ก็ขอบอกเลยว่า ไม่ การดำเนินเรื่องหลัก ๆ ก็ไม่ได้ฉีกไปจากเดิมเท่าไรนัก ขายฉากตุ้งแช่ได้สมกับที่เป็น Insidios ยังคงทำให้สะดุ้งตัวโยนได้เหมือนเดิมแต่คิดว่าน้อยลงกว่าภาคก่อน ๆ เสียงประกอบก็เป็นเอกลักษณ์ของเขาเลย ตัวภาพยนตร์ก็ยังคงเล่นกับความมืดและฉากที่ชวนให้ลุ้นว่าจะมีอะไรโผล่มา แต่ก็ไม่มี แต่ก็มีอยู่ช่วงนึงที่เล่นกับที่แคบได้ชวนอึดอัดสุด ๆ อยู่เหมือนกัน และแน่นอนว่า ในภาคที่ 5 นี้ ตัวหนังไม่ได้ขายแต่ฉากจั้มสแกร์ ตุ้งแช่กันอย่างเดียว มีการเน้นเรื่องราวของครอบครัวค่อนข้างมาก มีการขยี้ความสัมพันธ์ของจอชและดัลตั้นในเรื่องของความทรงจำในช่วงโคม่าที่ขาดหายไป ช่วงนี้เราน้ำตาซึมไปเรียบร้อย ดูจบออกมาแล้วก็มีแอบหน่วง ๆ ในใจอยู่นิดนึง นักแสดงก็เป็นชุดเดิม บอกเลยว่าแอบรู้สึกผูกพันอยู่ลึก ๆ
ส่วนตัวคิดว่าตัวภาพยนตร์ Insidious ในเรื่องราวของครอบครัวแลมเบิร์ตได้จบไปตั้งแต่ภาคที่ 2 แล้ว แม้จะมีภาคที่ 3 - 4 ซึ่งเป็นภาคที่เล่าไปทางฝั่งของป้าเอลิซและยังไม่ได้ข้องเกี่ยวกับครอบครัวแลมเบิร์ตเท่าไร ก็คิดว่าอาจจะมีภาคต่อแหละ แต่อาจจะเป็นเคสอื่น ๆ ของป้าเอลิซและทีมงานมากกว่าจะวกกลับมาที่ครอบครัวเดิมแบบนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการปิดฉากไปโดยสมบูรณ์แล้วล่ะนะ เว้นก็แต่ถ้าทีมงานจะเอาผีหน้าแดงกลับมาทำต่ออีก แต่เอาจริง ๆ สำหรับภาค 5 นี้ เจ้าผีร้ายตัวนี้ดูไม่ค่อยมีความน่ากลัวเท่าไรแล้ว ยิ่งตอนที่อยู่ในเขตแดนของเจ้าผีตัวนี้ พลังดันกลับไม่ได้ดูน่ากลัว น่ากดดันเท่าภาคแรก ๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งน่าเสียดายมาก
สรุปผลวิจารณ์หนัง