When Marnie Was There - ฝันของฉันต้องมีเธอ
เข้าฉาย 16 เมษายน 2558
ผู้ชม : 5,707
ผู้กำกับ
: Hiromasa Yonebayashi
ความยาวหนัง
: ไม่ระบุ
Text Size
ผลงานอนิเมชั่นเรื่องสุดท้ายของสตูดิโอจิบลิก่อนหยุดพักการสร้างไปอย่างไม่มีกำหนด ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนคลาสสิกปี 1967 ของ โจแอน จี. โรบินสัน เรื่องราวของ อันนา เด็กผู้หญิงเงียบๆไม่คบค้าสมาคมกับใคร และมีโรคประจำตัวเป็นหอบหืด จนทำให้เธอต้องย้ายจากซัปโปโรไปอาศัยอยู่ต่างจังหวัดที่มีอากาศสะอาดบริสุทธิ์ ซึ่งห่างไกลความเจริญและผู้คน แต่ที่นี่เองเธอก็ได้พบกับเด็กผู้หญิงปริศนาที่ชื่อ มาร์นี่ ที่จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
ความคิดเห็น (0)
GUEST
gfhfgh
5 มีนาคม 2558 09:56:05
ghfghfghf
jghjghjghjghjgh
jghjghjghjghjgh
ความงดงาม ละเอียดอ่อน ลายเส้นที่เคลื่อนไหวอ้อยอิ่งสวยงาม เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของสตูดิโออนิเมชั่นจิบลิเสมอ และนี่คืออนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องสุดท้ายก่อนที่ทางจิบลิจะปิดแผนกภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดยาวลงอย่างไม่มีกำหนดว่าจะเปิดทำการอีกทีหรือไม่เมื่อไหร่อย่างไร ซึ่งถือเป็นการทิ้งทวนที่งดงามไม่น้อยที่เลือกมาเล่าในประเด็นเด็กสาวสองคนผู้แปลกแยก โหยหาความรัก เรียกร้องพื้นที่ๆ จะเป็นของตัวเอง และการพลัดพรากจากลา
หนังว่าด้วยเด็กสาวผู้แปลกแยกกับทุกคน ขี้โรคและเข้ากับใครไม่ได้ แม้แต่แม่ที่ใกล้ชิดก็ถูกเธอผลักออกไปให้เป็นคนอื่นไม่ว่าแม่จะพยายามแสดงความรักความห่วงใยเธอเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอยอมรับหรือสัมผัสได้เลย เธอถูกส่งให้ไปอยู่บ้านญาติของแม่ที่ชนบท หวังว่าบรรยากาศชนบทที่อากาศสดใส ทัศนียภาพสบายตาจะปลอบประโลมทั้งสุขภาพกายและจิตใจของเธอให้ดีขึ้นได้
ทว่าสิ่งที่เด็กสาวค้นพบกับไม่ใช่สิ่งที่คาดหวัง แต่กลับคือการเดินเล่นอันกลายเป็นการเดินทางไปสู่โลกอีกใบหนึ่ง อีกฟากฝั่งริมบึงที่น้ำจะขึ้นทุกตอนเย็นคือบ้านร้างหลังใหญ่ที่เด็กสาวรู้สึกผูกพันอย่างประหลาด นำไปสู่การพบเจอเด็กหญิงผมทองผู้ร่าเริงซึ่งจะกลายมาเป็นคนที่กระทบกระเทือนภายในจิตใจเธอครั้งใหญ่และเปลี่ยนเธอผู้ซึ่งต่อไม่ติดกับความรักจากใครๆ ไปตลอดกาล
เอาเข้าจริงๆ แล้วเขตแดนที่หนังเดินทางไปสำรวจเกือบเข้าไปไกลเกินกว่าประเด็นของเด็กหญิงที่คิดว่าโลกนี้ไม่มีใครรัก เข้าไปในประเด็นรักร่วมเพศหรือรักร่วมสายเลือดด้วยซ้ำไป แต่ตอนสรุปของหนังเองก็ไม่ได้ผลักดันผู้ชมไปสำรวจอะไรไปได้ไกลขนาดนั้น แต่ก็นับว่าเป็นบทสรุปที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าจังหวะช่วงกลางเรื่องจะเอื่อยเฉื่อย และอาจพาหลายคนหลุดจากหนังไปด้วยการเล่นกับความจริงของมัน แต่การขมวดไปสู่ตอนจบก็ทำได้อย่างเรียบง่าย มีพลังและน่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียว
สรุปผลวิจารณ์หนัง