ทวงคืน - Tuang-Kuen
เข้าฉาย 13 กรกฎาคม 2565
ผู้ชม : 14,915
ผู้กำกับ
: วรเวช ดานุวงศ์
ความยาวหนัง
: 122.00
Text Size
หนัง Tuang-Kuen หรือชื่อไทยว่า ทวงคืน เมื่อคู่รักยูทูบเบอร์ที่หลายคนอิจฉามากที่สุดกำลังดำเนินมาถึงตอนจบ! กับการบอกเลิกออกสื่อที่จะช็อกสนั่นประเทศ พร้อมการผจญภัยสุดวายป่วงและสยองพองขนที่จะเกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา แล้วงานนี้ใครจะอยู่ ใครจะไป และภารกิจทวงคืนแพทตี้ให้คนทั้งประเทศครั้งนี้จะสำเร็จจริงๆ หรือไม่!? รู้พร้อมกันที่ #ทวงคืน ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
[รีวิว] ทวงคืน
--- 1.6/10 ---
พยายามตลกจนมันตลกกับความไม่ตลก
เป็นหนังที่พยายามเป็นหลายอย่าง แต่ไม่ดีสักอย่าง
โอเวอร์แอ็คติ้ง เล่นใหญ่กว่าละครเวที
ทวงคืน เป็นหนังที่โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จู่ ๆ ก็มีการโปรโมทหนังเรื่องนี้อย่างงง ๆ ไม่รู้เรื่องราว ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ขนาดดูตัวอย่างก็ยังไม่รู้ว่าตกลงหนังมันเกี่ยวกับอะไรกันแน่ มันดูจับฉ่ายมาก เป็นหนังผี หนังรัก หนังตลก ซึ่งพอได้ดูแล้วก็น่าผิดหวังจริง ๆ
หนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักที่ไม่รักกันแล้ว แต่ดันเป็น Youtuber ที่ต้องมารับถ่ายคลิปทำคอนเทนต์คู่รักด้วยกันอีก จนเรื่องราวมันจับพลัดจับผลูมาเจอไลฟ์โค้ช และนำพาไปพบกับหมู่บ้านสุดสยองที่ทั้งสามกำลังโดนทวงคืน!
ยอมรับว่าผิดที่เราส่วนนึงที่คาดคิดว่าหนังจะออกมาในอีกรูปแบบ จะเป็นแบบหนังโรแมนติกคอเมดี้ที่เป็นเรื่องราวระหว่างแดนกับแพทตี้ อารมณ์แบบ 32 ธันวา หรือ ส.ค.ส. สวีทตี้อะไรแบบนั้น แต่...มันดันออกมาเป็นแบบนี้ อะพอเราจับทางหนังได้ยอมรับตัวหนังว่าเป็นแบบนี้มันก็ยังไม่เวิร์คอยู่ดี
หนังมันมีความพยายามสูงมากในหลาย ๆ ด้าน อย่างแรกเลยคือเป็นหนังที่พยายามแบบพยายามเหลือเกินที่จะให้มันตลก ประดิษฐ์ถ้อยคำ การแสดง มุกต่าง ๆ เพื่อให้มันตลก แต่ประเด็นคือมันไม่ตลกไง มันตลกกับความไม่ตลกของหนังเรื่องนี้นี่แหละ หนังพยายามจะผสมผสานหลากหลายแนวเข้ามาด้วยกัน แต่มันไม่ดีสักอย่างเลย
หนังมันจับฉ่ายมากเหมือนอยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่ได้คำนึงที่บท การส่งต่อเรื่องราว การปูเรื่องราว จังหวะต่าง ๆ มันพังมาก คือหนังเรื่องนี้พร้อมจะเกิดทุกอย่างได้ทุกเมื่อ มันก็ดำเนินเรื่องไปแบบนี้จนจบเลย มันจะมีความอิหยังวะตลอดทั้งเรื่อง จากความพยายามเหล่านั้น กลายเป็นความน่าเบื่อจนมันน่ารำคาญสำหรับเราไปเลย หนังความยาวถึง 2 ชั่วโมงนิด ๆ แต่ระหว่างทางกลับไม่มีอะไรจับต้องได้เลย
ตามมาด้วยความพยายามในการแสดง กับการแสดงนี่เล่นใหญ่มากถึงมากที่สุด เล่นใหญ่กว่าละครเวที เล่นใหญ่แบบมองจากดวงจันทร์ก็เห็นอะ คือเข้าใจว่าอยากถ่ายทอดให้ออกมาเป็นการแสดงแบบโอเวอร์แอ็คติ้ง ใหญ่ ๆ แต่เล่นแข็งมาก แข็งจนเราไม่รู้สึกต่อติดกับเรื่องราวและตัวละครไหน ๆ ในเรื่องเลยแม้แต่น้อย ยิ่งแสดงให้มันตลก รับส่งมุกให้มันตลก มันยิ่งกลายเป็นไม่ตลกเสียมากกว่า พอมาพาร์ทจริงจัง ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งเรื่องการแสดงที่ดูจริงและธรรมชาติที่สุดคือฉากสุดท้ายของแดนกับแพทตี้
งานด้านโปรดักชั่นก็เหมือนจะเวิร์คแต่ก็ไม่เวิร์ค แสงสีเหมือนจะสวยแต่หลายซีนมันก็ฉูดฉาดจนเกินไป บางฉากก็มืดเกินจนแทบมองอะไรไม่เห็น มุมกล้องต่าง ๆ ก็มีการใช้มุมกล้องปกติ สลับกับมุมมองผ่านกล้อง Gopro หรือผ่านกล้องมือถือ ที่หลายฉากก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยด้วยซ้ำ
ใครที่จะไปเสพความหล่อเหลาของแดนหรือความน่ารักของแพทตี้ ก็แทบจะไม่มีฉากให้ชวนเขินชวนฟินหรือเซอร์วิสแฟนหน่อยเลย มันไม่ได้จริง ๆ อะ
ที่โอเคที่สุดคงจะเป็นเพลงประกอบ กับเพลง ตลอดไปแสนสั้นที่ขับร้องโดย แดน รวมถึงเพลง ทวงคืน ของ แพทตี้ ก็น่ารักดี เท่านั้นแหละ
สรุปแล้ว ทวงคืนเป็นหนังจับฉ่ายที่พยายามจะเป็นหลายอย่างแต่ทำได้ไม่ดีเลยสักอย่าง เป็นหนังตลกที่ไม่ตลกเช่นกัน ความพยายามที่มากเกินไปไม่ได้ส่งเสริมให้หนังฮาขึ้นเลยแม้แต่น้อย มีความครีเอทอยู่ในตัว แต่ถ่ายทอดออกมาได้พังมาก ๆ คงมีหลายคนชอบ แต่สำหรับเราไม่เลยสักนิด
สรุปผลวิจารณ์หนัง