Indiana Jones and the Dial of Destiny - อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา
เข้าฉาย 28 มิถุนายน 2566
ผู้ชม : 8,827
ผู้กำกับ
: James Mangold
ความยาวหนัง
: 155.00
Text Size
หนัง Indiana Jones and the Dial of Destiny หรือชื่อไทยว่า อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา เมื่อเขาพบว่าตัวเองอยู่ในยุคใหม่และกำลังอยู่ในเส้นทางสู่การเกษียณ อินดี้ จะถึงต้องพยายามหาทางปรับตัวเข้าสู่โลกที่ใหญ่เกินกว่าเขาไปแล้ว แต่เมื่อปีศาจตนเดิมกลับมาในรูปแบบของตัวคู่ปรับเก่า อินดี้ จึงต้องกลับมาสวมหมวกและฟาดแส้ของเขาอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุโบราณอันทรงพลังจะไม่ได้ตกอยู่ในมือของคนชั่ว
Indiana Jones and the Dial of Destiny Coming Soon.
กลับมาอีกครั้งกับการผจญภัยค้นหาขุมทรัพย์โบราณสุดแฟนตาซี อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา หลังจากห่างหายไปนานกว่าสิบปี แฮริสัน ฟอร์ด ก็ได้กลับมารับบทบาทของอินเดียน่าโจนส์อีกครั้งในวัย 80 แต่ทว่ายังคงดูเท่ไม่หยอก โดยเรื่องราวของการผจญภัยในครั้งมีเป็นการตามหาและแก้ปริศนาแป้นนาฬิกาลึกลับที่สามารถบอกทิศทางเพื่อข้ามมิติไปยังช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ของนักคณิตศาสตร์ชื่อดังอย่างอาคิมีดิส แน่นอนว่าโจนส์กลับมาในเครื่องแบบประจำกายหมวกสุดเท่และแส้ของเขา และเหล่าผองเพื่อนที่เคยร่วมผจญภัยกันมาก็กลับมาให้หายคิดถึงกันแน่นอน
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวไม่ได้ติดตามภาพยนตร์แฟรนไชส์นี้มาก่อน แต่ได้ทำการบ้านก่อนมาดูภาคใหม่นี้เรียบร้อยแล้วก็เลยมีความรู้สึกผูกพันเล็ก ๆ กับตัวละครอย่างอินเดียน่า โจนส์หรืออินดี้ ทำให้การได้รับชมภาคใหม่นี้ได้อรรถรสมากขึ้นเนื่องจากพอจะคุ้นเคยกับเรื่องราวของอินดี้ กับการที่อินดี้ต้องฝ่าฝันอุปสรรคต่าง ๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง และแน่นอนว่าเขาสามารถผ่านมันไปได้อยู่แล้ว แทบไม่ต้องคิดอะไรให้มากความเลย ดูจะเป็นสิ่งที่แฟนหนังต้องรู้จุดนี้กันแน่นอนถือว่าตัวหนังค่อนข้างที่จะไม่ได้แปลกใหม่ไปจากเดิมเท่าไรนัก และในภาคนี้ฉากแอคชั่นก็ถือว่าทำออกมาได้มันส์มากดูได้แบบจอย ๆ ส่วนตัวชอบช่วงที่เล่าย้อนเรื่องราวของอินดี้ถึงตอนสมัยหนุ่ม ๆ เข้าไปสอดแนมเพื่อนำโบราณวัตถุกลับประเทศจากกองทัพนาซี (และตัวหนังก็ยังคงเล่าเรื่องถึงนาซีอยู่เช่นเคย) ตัวอินดี้ดูเท่มาก มีการใช้เอฟเฟคย้อนวัยนักแสดงทำให้ดูหนุ่มขึ้น ได้กลิ่นอายถึงภาคเก่า ๆ ที่อินดี้ต้องต่อสู้กับกลุ่มทหารนาซีเพื่อเอาตัวรอดไปให้ได้
พูดถึงตัวละครสมทบภายในเรื่อง แน่นอนว่ามีเหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ของอินดี้กลับมาให้หายคิดถึงกันแน่นอนและที่ขาดไปไม่ได้เลยคือตัวละครสาวพราวเสน่ห์ประจำภาคและเด็กน้อยที่คอยช่วยเหลืออินดี้ในยามคับขัน ภาคนี้ได้ ฟีบี วอลเลอร์-บริดจ์ รับบทเป็น เฮเลนา ชอว์หรือ ”วอมแบต” ลูกสาวบุญธรรมของอินดี้ มาคอยเคียงข้างพ่อทูนหัวในการผจญภัย การแสดงของเธอต้องบอกเลยว่าสามารถช่วยแบ่งเบาแฮริสัน ฟอร์ดไปได้มากทีเดียว เป็นสาวที่มากด้วยเสน่ห์และชาญฉลาด แต่ติดใจตรงบทบางช่วงนิดหน่อยที่อาจจะมีช่องโหว่ให้รู้สึกเอ๊ะ แปลก ๆ และรู้สึกว่าค่อนข้างรวบรัดไปนิดนึง และที่ขาดไปไม่ได้เลยกับดาวร้ายสุดเท่ แมดส์ มิเคลสัน รับบทเป็น เยอร์เกน วอลเลอร์ นักโบราณคดีของกองทัพนาซี ต้องบอกเลยว่าลุงแมดส์เล่นได้ใจเรามาก เป็นตัวร้ายที่เท่ตามฉบับของลุงแมดส์เลย แม้ว่าตอนได้ประจันหน้ากับอินดี้จะโดนเละไม่ใช่น้อยก็ตาม ฮ่า ๆ
โดยรวมแล้ว ส่วนตัวคิดว่า อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตาถือว่าเป็นหนังแฟรนไชส์ที่ไม่ทิ้งกลิ่นอายเดิมไปเลย แม้จะเปลี่ยนตัวผู้กำกับไปแล้วก็ตาม แต่ก็นับว่าแทบจะไม่มีอะไรที่แปลกใหม่เลย เค้าโครงเรื่องแทบจะเหมือนเดิม การดำเนินเรื่องของอินดี้แทบจะคาดเดาได้ทั้งเรื่องจริง ๆ แต่ถ้าดูแบบจอย ๆ ก็ถือว่าดูเพลินเลย นี่ก็นั่งลุ้นไปกับอินดี้ได้เรื่อย ๆ ขอบอกเลยว่า ปู่ยังไหว !
สรุปผลวิจารณ์หนัง