Elemental - เมืองอลวนธาตุอลเวง
เข้าฉาย 22 มิถุนายน 2566
ผู้ชม : 15,569
ผู้กำกับ
: Peter Sohn, Leah Lewis
ความยาวหนัง
: 105.00
Text Size
หนัง Elemental หรือชื่อไทยว่า เมืองอลวนธาตุอลเวง พบเรื่องราวสุดโรแมนติกของวัยรุ่นต่างธาตุ ดำเนินเรื่องใน ธาตุมหานคร ที่ซึ่งไฟ น้ำ ดิน และลม อาศัยอยู่ร่วมกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ Ember เอ็มเบอร์ สาวแก่น หัวไว ไฟแรง ที่เป็นเพื่อนกับ เวด หนุ่มร่าเริง ที่ใช้ชีวิตแบบปล่อยใหลในทุกสถานการณ์ และเข้ามาเปลี่ยนทัศนคติต่อโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่
Elemental Follows Ember and Wade, in a city where fire-, water-, land- and air-residents live together.
Elemental เมืองอลวนธาตุอลเวง ภาพยนตร์แอนิเมชันจากผู้สร้างดิสนีย์และพิกซาร์ เรื่องราวของ Ember สาวน้อยธาตุไฟที่ต้องแบกรับความฝันของพ่อและต้องรับสืบทอดร้านค้าเตาผิงต่อจากพ่อเพื่อให้พ่อได้ภาคภูมิใจ ได้พบกับ Wade หนุ่มชาวน้ำผู้ตรวจสอบของศาลาว่าการฯ ที่บังเอิญโดนดูดเข้ามาตามท่อน้ำของเมืองจนมาถึงร้านค้าเตาผิงของพ่อเธอที่จะต้องพบเจอกับปัญหาครั้งใหญ่ที่อาจทำให้ร้านต้องปิดตัวลงและทำให้พ่อของเธอผิดหวังเอาได้
ต้องบอกเลยว่าใครที่ชอบอนิเมชันแนวโรแมนติก คอมเมดี้ มีดราม่าเคล้านิด ๆ มาทางนี้เลยจ้า ตัวเนื้อเรื่องสมกับเป็นผลงานของดิสนีย์และพิกซาร์สุด ๆ ดูแล้วยิ้มตามได้เรื่อย ๆ ตัวละครก็ออกแบบมาให้น่ารัก ดูง่าย ย่อยง่าย แต่ก็เป็นเนื้อหาที่คาดเดาเส้นเรื่องได้ง่ายมากเช่นกัน รู้สึกว่าตัวเนื้อหาไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนเรื่องก่อน ๆ เท่าไร แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้แย่ มีจังหวะที่เราเองก็อินน้ำตาคลอตามได้อยู่เยอะทีเดียวด้วยความที่เราเองก็อยู่กับครอบครัวเอเชียที่รูปแบบคล้ายกับน้อง Ember ก็เลยอินสุดเลย
ถ้าหากได้ไปสัมผัสแบบเต็มตาในโรงภาพยนตร์ (ส่วนตัวบังเอิญได้รับชมรอบ 3D ไป) ต้องบอกว่างานภาพสวยตาแตกจริง ๆ แต่ละมุมของเมืองผสมผสานแต่ละธาตุให้มีกิมมิคในสิ่งก่อสร้างได้อย่างลงตัว พอมีมิติขึ้นมาก็เหมือนกับว่าเราได้เข้าไปผจญภัยในเมืองกับตัวละครไปด้วย มีการเล่นแสงสี เอฟเฟคที่น่าสนใจ น่าเสียดาย รู้สึกว่าเรื่องนี้จะได้รับการโปรโมทน้อยไปนิดหน่อย
โดยรวมแล้ว Elemental เมืองอลวนธาตุอลเวง โดยส่วนตัวแล้วนับว่าเป็นแอนิเมชันที่สามารถดูได้ง่าย ด้วยเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อน เส้นเรื่องค่อนข้างตรง และคาดเดาง่าย มากับภาพ องค์ประกอบ ที่ดูดีตามมาตราฐานค่ายใหญ่อย่างดิสนีย์และพิกซาร์ ตัวละครมีความน่ารักและมีเอกลักษณ์ชัดเจน แม้จะมีบางจุดของบทที่อาจจะทำให้เรางงกับที่มาที่ไปของตัวละครไปบ้างแต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากเท่าไร ถ้าไม่คิดอะไรมากก็สามารถดูได้แบบเอนจอยเลย แน่นอนว่าเพลงประกอบอย่าง Steal The Show เพราะมากจริง ๆ ดูจบมาแล้วหาฟังวนซ้ำอยู่หลายรอบเลย และเสียงพากย์ไทยก็ดีมาก ๆ เลยด้วย
สรุปผลวิจารณ์หนัง