0 Puss+in+Boots+2%3A+The+Last+Wish+-+%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%8B+%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99+%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B9%8A%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%8C+2

Puss in Boots 2: The Last Wish - พุซ อิน บู๊ทส์ 2

เข้าฉาย 29 ธันวาคม 2565
ผู้ชม : 24,815
ผู้กำกับ : Joel Crawford, Januel Mercado
ความยาวหนัง : 105.00
Text Size

หนัง Puss in Boots 2: The Last Wish หรือชื่อไทยว่า พุซ อิน บู๊ทส์ 2 การกลับมาอีกครั้งของแมวผู้กล้า Puss In Boots ที่ในคราวนี้เขาได้ใช้ชีวิตไปแล้ว 8 จาก 9 ชีวิต ครั้งนี้เขาต้องออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่เพื่อค้นหาดาวอำนวยพรที่จะทำให้ความปราถนาเป็นจริงในตำนานและนำชีวิตทั้ง 9 ของเขากลับคืนมา


Puss in Boots discovers that his passion for adventure has taken its toll: he has burned through eight of his nine lives. Puss sets out on an epic journey to find the mythical Last Wish and restore his nine lives.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

30 ธันวาคม 2565 03:32:58

[รีวิว] PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH
--- 6.6/10 ---
การกลับมาที่เติบโตขึ้น แต่ยังคงเพลิดเพลินได้ทุกเพศทุกวัย
งานภาพอนิเมชันที่แตกต่างแต่งดงาม
แต่เนื้อเรื่องยังเรียบง่าย ธรรมดา เดาทางไม่ยาก

Puss in Boots เป็นหนึ่งในตัวละครจากแฟรนไชส์ Shrek ที่ได้รับความนิยมจนมีภาคแยกออกมาในปี 2011 จนกระทั่งผ่านมา 11 ปี ถึงคลอดภาคต่อภาคแยกออกมากับ Puss in Boots: The Last Wish ที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Puss in Boots แต่เพิ่มเติมด้วยเนื้อหาที่เติบโตขึ้น บวกกับงานภาพที่แตกต่างจากเดิม แต่ดูสวยงามและเพลินตาใช่เล่น ซึ่งจริง ๆ เราเฉย ๆ กับแฟรนไชส์ Shrek เรียกได้ว่าไม่ชอบเลยแหละ แต่สิ่งเดียวที่เราชอบจากแฟรนไชส์นี้คือตัวละครอย่าง Puss in Boots เนี่ยแหละ ด้วยคาแรคเตอร์

ภาคนี้เลือกหยิบเอาความเป็น "แมว 9 ชีวิต" มาเล่นกับตัวละคร Puss in Boots ที่ใช้ชีวิตอย่างไม่กลัวตายมาตลอด แต่คราวนี้เขาเหลือแค่ชีวิตเดียว ทำให้เขาต้องออกเดินทางตามหาดาวอำนวยพร เพื่อขอชีวิตของเขากลับมา 

การเล่าเรื่องยังคงเสน่ห์ของ Puss in Boots แต่เพิ่มสีสันด้วยตัวละครอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งตัวละครหมาน้อย หรือตัวละครหมาป่าสุดเท่ คือตัวละครมันสร้างสีสันให้เรื่องได้ดีเลย ตัวเนื้อเรื่องมีการเติบโตขึ้น มีประเด็นที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น (แอบน่าหดหู่ในบางช่วงกับเรื่องราวของบางตัวละคร) แต่ก็ยังสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย ยังคงดำเนินเรื่องแบบเรียบง่ายเข้าใจไม่ยาก เดาทางง่าย สอดแทรกมุกตลกรายทาง และข้อคิด ที่ทั้งหมดก็จัดอยู่ในเนื้อหาที่ธรรมดาดูได้เพลิน ๆ ไม่ได้ชวนว้าวอะไร แถมเรื่องราวมันยังมีอะไรเยอะเกินไป หลายจุดก็เร่งเกินไปโดยเฉพาะช่วงท้าย

แต่สิ่งที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้ต้องยกให้งานภาพ ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้สมจริงเหมือนอย่าง Toy Story อะไรแบบนั้น แต่มันก็มีความสวยในแบบของมัน ในภาคนี้ภาพยังคงเป็นอนิเมชัน แต่ผสมผสานความเป็นคอมิกส์ มันจะมีความรู้สึกคล้าย ๆ กับหนังอนิเมชันอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse ฉากแอ็คชันจะดูมีลูกเล่น ทำได้ดีเลย มีเส้นแบบคอมิกส์ มุมภาพตอนต่อสู้นี่เพลินมาก และฉากตอนท้าย ๆ นี่สีสันจัดจ้านเพลิดเพลินสุด ๆ และงาน CG กับงานปั้นโมเดลก็ทำได้ดีตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น

งานพากย์ก็ยังทำได้ดีเช่นเดิมแบบยกทีม Antonio Banderas ก็ยังไว้ลาย Puss in Boots ได้อย่างครบถ้วน Harvey Guillen ก็ให้เสียงพากย์ Perrito ได้อย่างน่าชื่นชม หรือ Wagner Moura ก็ให้เสียงพากย์หมาป่าได้อย่างโคตรเท่ รวมถึงตัวละครอื่น ๆ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเลย

สรุปแล้ว Puss in Boots: The Last Wish เป็นอนิเมชันทุกเพศทุกวัยที่ดูได้เพลิน (แต่เนื้อหาบางส่วนโคตรดาร์ค) เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน เดาทางง่าย ไม่ได้มีอะไรหวือหวา แต่งานภาพสีสันการเคลื่อนไหวเพลิดเพลินตามากโดยเฉพาะพวกฉากแอ็คชันนี่ทำได้ดีเลย วันหยุดไม่รู้จะดูอะไรก็เข้าไปดูเพลิน ๆ ได้เหมือนกัน

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
5
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
6.6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)