C'mon C'mon - ลุงครับ รักคืออะไร
เข้าฉาย 10 มีนาคม 2565
ผู้ชม : 4,245
ผู้กำกับ
: Mike Mills
ความยาวหนัง
: 110.00
Text Size
หนัง C'mon C'mon เรื่องราวของ Johnny (Joaquin Phoenix) นักข่าวที่กำลังออกเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อทำโปรเจคเกี่ยวกับความหวังและวันพรุ่งนี้ เขาได้รับการติดต่อจากน้องสาวที่ฝากให้เขาดูแลหลานชายวัย 8 ปีให้ Jesse (Woody Norman) จึงทำให้เขาต้องพาหลานชายร่วมออกเดินทางพร้อมค้นหาความหมายของคำว่ารัก
When his sister asks him to look after her son, a radio journalist embarks on a cross-country trip with his energetic nephew to show him life away from Los Angeles.
[รีวิว] C'MON C'MON - ลุงครับรักคืออะไร
--- 8/10 ---
ธรรมชาติ เรียบง่าย อ่อนโยน คมคาย
และน่ารัก
C'mon C'mon - ลุงครับรักคืออะไร เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ Johnny (Joaquin Phoenix) นักวิทยุที่กำลังทำโปรเจคเดินทางไปทั่วประเทศอเมริกาคอยสัมภาษณ์เด็ก ๆ และเยาวชนถึงชีวิตในหลากหลายเรื่อง แต่แล้วน้องสาวที่เขาไม่ค่อยได้คุยก็ได้โทรมาแล้วฝากให้เขาคอยดูแล Jesse ลูกชายของเธอตอนที่เธอไม่อยู่ Johnny จึงต้องจำใจพาหนุ่มน้อยออกเดินทางสู่โลกกว้างที่ทั้งสองได้เรียนรู้กันและกันอย่างมากมาย
ตัวหนังใช้ภาพขาวดำในการเล่าเรื่อง สัดส่วนก็จะเกือบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำแบบนี้เหมือนกัน แต่มันให้ความรู้สึกว่ามันอยู่เหนือกาลเวลา มันไม่ได้ดูเก่าและมันก็ไม่ได้ดูใหม่ มันลดทอนส่วนอื่น ๆ ไม่ให้เราหลุดจากเนื้อหา มันกลับกลายเป็นยิ่งทำให้เราโฟกัสเรื่องราวและจ้องมองสองตัวละครลุง-หลานมากขึ้นอีกต่างหาก แต่ฉากคั่น มุมกล้อง การจัดแสง การถ่ายทำออกมาอย่างงดงามไม่แพ้กัน
หากดูจากตัวอย่างและเรื่องย่อ บวกกับเป็นหนังชิงรางวัล อาจจะพาคิดไปได้ว่าดูยากและเป็นหนังดราม่าอะไรทำนองนั้น แต่จริง ๆ หนังมันไม่ได้ดูยาก ไม่ได้ซับซ้อน มันเรียบง่ายและดูธรรมชาติสุด ๆ ผ่านการแสดงของ Joaquin Phoenix และ Woody Norman ที่ไม่ได้หวือหวา แต่พวกเขาแสดงได้ดีมาก เคมีความเข้ากัน การโต้ตอบผ่านบทสนทนาต่าง ๆ เราจะได้เห็นภาพลุง-หลาน เดิน เล่น คุย กิน นอน ทุกอย่างมันออกมาได้ธรรมชาติมาก ราวกับไม่ได้แสดงเลย ไอ้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้แหละที่มันดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันน่ารักและเข้าถึงคนดูได้ง่ายมาก ไม่ต้องมีฉากบิ้วอารมณ์มากมาย ก็ออกมาดกินใจและคมคายสุด ๆ
อีกส่วนที่นำเสนอออกมาได้ดีไม่แพ้ความสัมพันธ์ของลุง-หลาน คือเรื่องราวการทำงานของตัวละคร Johnny เนี่ยแหละ เราจะได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง บทสัมภาษณ์ต่าง ๆ ที่ตัวละคร Johnny ไปถามเด็ก และคำตอบของเด็กเหล่านั้นก็น่าทึ่งมาก ทั้งในแง่ของความคิดและทัศนคติต่าง ๆ มันช่างสะท้อนช่วงเวลาที่อ่อนโยนและเห็นถึงมุมมองของพวกเขาต่อโลกออกมาได้ดีมาก ๆ หลาย ๆ ประโยคนี่กระแทกใจคนวัยที่ไม่เด็กอย่างเราหลายประโยคเหมือนกัน
และไอ้เรื่องราวทั้งสองส่วนนั้นมันมาผสมผสานร้อยเล่าเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างลงตัว แอบมีคิดว่าเด็กโตมาอาจจะสูญเสียความคิด ทัศนคติ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างออกไป ก็น่าเสียดายและน่าใจหายเหมือนกัน และมันก็ย้อนทำให้ตัวเราคิดไปว่าเราก็สูญเสียเรื่องพวกนั้นไปไม่น้อยเลย และในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นว่าเด็กไม่ได้เดียงสาหรืออ่อนต่อโลกขนาดนั้น และทั้งหมดทั้งมวลนั้นหนังเรื่องนี้เราได้เห็นว่าผู้ใหญ่ก็ได้รับอะไรจากเสียงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นไม่น้อยเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง