Halloween Ends - ปิดฉากฮาโลวีน
เข้าฉาย 13 ตุลาคม 2565
ผู้ชม : 8,499
ผู้กำกับ
: David Gordon Green
ความยาวหนัง
: 111.00
Text Size
หนัง Halloween Ends หรือชื่อไทยว่า ปิดฉากฮาโลวีน นี่คือการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายระหว่าง "ลอรี่ สโตรด"และ"ไมเคิล ไมเยอร์ส" ชมตัวอย่างแรก #HalloweenEnds #ปิดฉากฮาโลวีน
The saga of Michael Myers and Laurie Strode comes to spine-chilling climax in this final installment of the franchise.
[รีวิว] HALLOWEEN ENDS - ปิดฉากฮาโลวีน
--- 3.5/10 ---
ภาคต่อสุดเลวร้าย กลายเป็นการปิดตำนานที่น่าผิดหวัง
ถึงจะโหดสะใจแต่ไร้เสน่ห์และน่าหงุดหงิด
Halloween Ends ปิดฉากฮาโลวีนจริง ๆ ราวกับฆ่าปิดฉากแฟรนไชส์ไปด้วย
หนึ่งในไอค่อนแห่งวงการหนังเชือด (slasher) ระดับตำนานอย่าง Michael Myers ในแฟรนไชส์ Halloween ที่มีภาคต่อออกมามากมาย รีบูทก็หลายครั้ง จนกระทั่งไตรภาคล่าสุดของผู้กำกับ David Gordon Green ที่เปิดตัวภาคแรกในปี 2018 เป็นภาคต่อจากต้นฉบับ 1978 ที่ภาคเปิดไตรภาคใหม่นี้ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม สมศักดิ์ศรีภาคต่อแบบสุด ๆ จนในภาคต่อ Halloween Kills (2021) ที่ทำออกมาได้สะเปะสะปะเละเทะเลอะเทอะ แต่ก็ยังแอบหวังว่าในภาคปิดตำนานอย่าง Halloween Ends จะกู้หน้าให้กับแฟรนไชส์นี้และปิดได้อย่างสวยงาม แต่หลังจากได้ดูแล้วคงต้องบอกว่า...น่าผิดหวังไม่ต่างกัน
เป็นไตรภาคต่อที่โดยส่วนตัวรู้สึกแปลกมากว่าทำไมเลือกเดินมาในทิศทางนี้ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ จากต้นฉบับภาคแรกพูดถึงฆาตกรหน้ากากที่ฆ่าพี่เลี้ยงเด็กในคืนฮาโลวีน กลายมาเป็นฆาตกรที่แพร่ความเป็นปีศาจเข้าไปในจิตใจมนุษย์ และในภาคปิด Ends ที่ไม่แน่ใจเลยว่าดูดีกว่า Kills ไหม แต่น่าผิดหวังไม่ต่างกัน เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าไปอยู่ในวิชาเรียนฟิล์มหัวข้อการทำภาคต่อที่ไม่ควรจะเป็น
เราเสียเวลากับเรื่องราวบางอย่างของตัวละครใหม่ในแฟรนไชส์ไปกว่าเกือบชั่วโมง แถมเป็นตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดในเรื่อง ที่ในระหว่างนั้นแทบจะไร้ซึ่งความระทึกขวัญหรือสยองขวัญใด ๆ ทั้งสิ้น แถมยังเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผล การยัดเยียดสถานการณ์ต่าง ๆ นานา บทพูดแต่ละอย่างที่โคตรจะแปลก ตัวละครเต็มไปด้วยการกระทำและการตัดสินใจที่โคตรแปลก จนบางครั้งถึงกับต้องเผลอหลุดขำออกมาเลยว่า จริงดิ? ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็ไม่สมเหตุสมผล ยัดเยียด และบทพูดแปลกทั้งเรื่องนั่นแหละ เหมือนอยากใส่ประเด็นดราม่าอะไรก็ใส่มา อยากให้ตัวละครพูดอะไรก็ยัดมา ราวกับคนเขียนบทหลาย ๆ คนมาหารกันว่าของชั้นจะใส่ตรงนั้น ของผมจะใส่ตรงนี้อะไรทำนองนั้น อีกอย่าง Michael Myers เหมือนกลายเป็นตัวประกอบไปเลย จากที่เคยลุ้นเอาใจช่วยให้ Laurie Strode รอด ภาคนี้กลับอยากให้ Michael Myers ฆ่าซะให้หมดเมือง Haddon Field ไปเลย แต่ละตัวละครในเรื่องนี้ก็น่ารำคาญไม่ต่างกัน
ถึงกระนั้น การฆ่าในภาคนี้ก็ถือว่าโหดใช่เล่น ถึงแม้จะมีไม่เยอะ แต่ก็เข้าขั้นโหดเลยก็ว่าได้ บางตัวละครนี้เห็นจะ ๆ แบบหวาดเสียว บางตัวนี่ตัดเหมือนกลัวเปลืองงบ
หนังมีตอนจบและบทสรุปที่แบบมันต้องขนาดนี้เลยอ่อ ตลกอะ มันตลกด้วยบริบท คือมันไม่ได้ผิดกับแนวทางที่มันเลือกจะมาจบแบบนั้น แต่วิธีการเล่าและนำเสนอมันอะ มันตลก มันแปลก มันจะหาทางลงให้ดีกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ หรอ
ทางด้านการแสดง ก็ไม่ได้น่าชื่นชมสักเท่าไหร่ เล่นกันใหญ่ไม่ต่างจากภาคที่แล้วเลย ผสมกับบทต่าง ๆ ที่น่ารำคาญแล้ว ยิ่งทำให้การแสดงมันน่ารำคาญตามไปจนน่าหงุดหงิด
ข้อดีอีกอย่างคือดนตรีประกอบ การที่ได้ยินซาวที่คุ้นเคยจากต้นฉบับ มาในจังหวะบางอย่างของหนัง ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยเลย
สรุปแล้ว Halloween Ends - ปิดฉากฮาโลวีน ก็ได้เดินทางมาถึงบทสรุปและจุดจบ อันน่าขมขื่น น่าเศร้า น่าผิดหวัง เสียดายที่เปิดไตรภาคต่อมาได้ดีแท้ ๆ ไม่รู้ไปผิดพลาดตรงไหนถึงลงเอยมาแบบนี้ได้ ถึงอย่างไรก็ตามในฐานะแฟนของแฟรนไชส์นี้ ถ้ามี Reboot อีกก็จะติดตาม (แต่คงจะยาก) อย่างที่นักแสดงนำอย่าง Jamie Lee Curtis ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าคนดูจะรู้สึก "โกรธ" เมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้ ใช่ครับ "โกรธมาก" ถึงแม้ Jamie Lee Curtis จะหมายถึงเนื้อหาในเรื่องกับการกล่าวโทษเหยื่อ แต่ผมโกรธการปิดตำนานในครั้งนี้สุด ๆ
สรุปผลวิจารณ์หนัง