Scream - หวีดสุดขีด
หนัง Scream หรือชื่อไทยว่า หวีดสุดขีด ภาคนี้ไม่ใช่การรีบูทแต่อย่างใดจากการที่หายไปเป็น 10 ปี แต่ในภาคนี้จะเป็นเนื้อเรื่องต่อจากเดิม !! เนื้อเรื่องภาคก่อนถ้าจะเล่าคร่าวๆก็คือ หญิงสาวตัวเล็กๆ Sidney Prescott รับบทโดย Neve Campbell ซึ่งเธอเป็นตัวเอกในหนังเรื่องนี้เลย ไม่ว่าเธอจะไปไหนก็ต้องมีคนตาย โดยจะมีตัวละครอีก 2 ตัวที่ตามติดชีวิตเธอมาตลอดคือ Gale Weathers เป็นนักข่าวสาวที่ติดตามชีวิตของ Sidney , Dewey Riley เป็นนายตำรวจที่จะคอยช่วยเหลือหญิงสาวทั้ง 2 มาโดยตลอด โดยในตัวอย่างที่ออกมาก็ยังคงมีเสียงโทรศัพท์และหญิงสาวน่ารัก แต่การโทรมาของฆาตกรสุดโหดนี้ได้มีการดัดแปลงมีทั้งแฮ็กเข้าอินเตอร์เน็ตที่สามารถสั่งประตูเปิดและปิดได้ ยังมีแชทที่ทักมาในโทรศัพท์ส่วนตัวอีก อาจจะมีบางอย่างปรับเพื่อยุคสมัยตามปกติ แต่ที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยคือเธอคนนี้ Sidney ที่ได้รับสายจาก ตำรวจค่อนข้างมีอายุแล้วเพราะผ่านมาหลายภาค Dewey โทรไปบอกกับทาง Sidney ว่า "มันกลับมาแล้วและก่อเหตุไปแล้วถึง 3 ครั้ง"โดยหนังภาคนี้มีการเชื่อมโยงกันของเหยื่อและฆาตกรของแต่ละภาคที่ผ่านมาอีกด้วย ส่วนเรื่องนี้จะจบยังไงและเหยื่อแต่ละคนเป็นใครกันบ้างและฆาตกรที่สืบถอดกันต่อมาจะเป็นใคร ติดตามได้ที่ Scream
A new installment of the 'Scream' horror franchise will follow a woman returning to her home town to try to find out who has been committing a series of vicious crimes.
[รีวิว] SCREAM - หวีดสุดขีด
--- 9.5/10 ---
ภาคต่อที่สมศักดิ์ศรีคำว่าตำนาน
เสน่ห์และกลิ่นอายของต้นฉบับมาเต็ม
เป็นหนังเชือดที่โหด มันส์ ฮา เดาตัวฆาตกรกันสนุกสนาน
ช่วงนี้หนังเก่า ๆ หันมาทำภาคต่อกันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น The Matrix Resurrections (2021), Ghostbusters: Afterlife (2021) หรือ Halloween Kills (2021) ที่นอกจาก Afterlife แล้ว เรื่องอื่นก็ผิดหวังไปตาม ๆ กัน มันจึงทำให้มีการระแวงนิดนึงว่าการหยิบเอาแฟรนไชส์ Scream มาเล่าต่อเนี่ย มันจะแย่ตามมั้ย มันจะแถต่อยังไง คือภาคล่าสุดตั้งแต่ปี 2011 เลยทีเดียว แต่พอดูภาคนี้จบเท่านั้นแหละ...ขุ่นพระ เชือดนี้ที่คิดถึง ดูจบอยากจะลุกขึ้นมาปรบมือดัง ๆ คารวะทีมงานทุกคนจริง ๆ ถึงว่ารายได้เปิดตัวในอเมริกาจะแซงหน้า Spider-Man: No Way Home ไปได้
หากใครสงสัยว่า Scream เป็นหนังแนวไหน มันคือหนัง slasher หรือหนังเชือดไล่ฆ่า ที่ผสมความเป็น Whodunit ตามหาตัวฆาตกรว่าใครทำ และมีความโหด ความมันส์ ผสมด้วยความฮาให้พอยิ้มได้
ไม่รู้จะเล่าเรื่องย่อยังไงเลย เพราะเดี๋ยวมันจะเป็นการสปอยล์ เอาเป็นว่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาค 4 เป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี Ghostface ก็ได้ออกอาละวาดฆ่าคนอีกครั้ง เราจะได้เห็นเหล่าตัวละครวัยรุ่นใหม่ และ 3 นักแสดงจากต้นฉบับอย่าง Sidney Prescott (Neve Campbell), Gale Weathers (Courteney Cox), David Arquette (Dewey Riley) กลับมาพัวพันกับเรื่องราวฆาตกรไอ้หน้าผีอีกครั้ง
นี่คือหนังเชือดที่พูดถึงและล้อเลียนหนังเชือดเรื่องอื่นเต็มไปหมด ที่สำคัญยังจิกกัดหนังตัวเอง ทั้งแซะ ทั้งด่า ทั้งว่าเต็มไปหมด แต่ยังคงคารวะต้นฉบับได้อย่างน่าชื่นชม ผสมผสานความทันสมัยของหนังสมัยใหม่ จากฝีมือการกำกับของ Matt Bettinelli-Olpin และ Tyler Gillett ที่เคยฝากยอดผลงานเอาไว้ใน Ready or Not (เราชอบเรื่องนี้มาก) พอมาเรื่องนี้มันเหมือนเอาจังหวะการเล่า ลูกล่อลูกชน มาผสมผสานความเป็นต้นฉบับ Scream (1996) ของ Wes Craven ที่ลงตัวมากจริง ๆ มีการใช้ซีนต่าง ๆ ที่หลอกให้คนดูตกใจ สงสัย โดยรวมแล้วจังหวะหนังทำได้ดีทุกซีนเลย เรียกได้ว่า Scream ภาคนี้เป็นหนังภาคต่อที่ดีเทียบเท่าต้นฉบับในปี 1996 ได้เลย สมศักดิ์ศรีหนังภาคต่อ และคิดว่าหนังน่าจะทำให้ปลุกตำนานสร้างกระแสความน่าสนใจในหนังเชือดให้กลับมาได้อีกครั้งไม่มากก็น้อย
แต่สิ่งสำคัญสำหรับการมาดูภาคนี้ ควรจะไปดูภาค 1-4 มาก่อน แนะนำให้ไปดูมาก่อนเลย เพราะมันจะอิน และเข้าใจเนื้อหาตัวละคร ความสัมพันธ์ เรื่องราวที่ผ่านมามากกว่า มันจะทำให้ดูสนุกกว่า
ติดใจอยู่นิดเดียวคือบทสรุปตอนจบ ฉากคลี่คลายเฉลยตัวฆาตกร ถ้ามันออกมาในอีกรูปแบบนึงมันน่าจะเพอร์เฟ็คกว่านี้ คือมันทำดีมาตลอดทั้งเรื่องแล้วแหละ ตอนจบมันก็ดีนะจบสวยแล้วแบบนั้นมันมีเหตุผลที่ต้องจบแบบนั้นแหละ แต่ถ้าจริตของเรา ความชอบของเรา อยากให้จบในอีกรูปแบบนึง เรื่องนี้จะเต็ม 10 เลย
สรุปแล้ว Scream เป็นหนังที่ดูสนุกมาก องค์ประกอบความเป็น Scream ครบถ้วนสมบูรณ์ แฟน ๆ แฟรนไชส์นี้ต้องชอบแน่ ๆ ถ้า Wes Craven ได้ดู ต้องยิ้มแก้มปริอย่างแน่นอน เพราะคนดูอย่างเรา...ผมนี่แหละ เดินยิ้มแก้มปรินั่งยิ้มจนจบ End Credits ยันเดินออกจากโรง ยันถึงบ้านยังมีความสุขที่ได้ดูอยู่เลย
ปล. หนังไม่มีฉาก ก่อนและหลัง End Credits
สรุปผลวิจารณ์หนัง