Josee, The Tiger and The Fish - โจเซ่ กับเสือและหมู่ปลา
เข้าฉาย 4 พฤศจิกายน 2564
ผู้ชม : 8,555
ผู้กำกับ
: ทามุระ โคทาโร่
ความยาวหนัง
: 100.00
Text Size
หนัง Josee the Tiger and the Fish หรือชื่อไทยว่า โจเซ่ กับเสือและหมู่ปลา “Josee , The Tiger and The Fish” ผลงานรักโรแมนติกและชีวิตวัยรุ่นจาก Studio Bones ที่จะเติมเต็มหัวใจของคุณให้อบอุ่นไปกับเรื่องราวของ “โจเซ่” และ "สึเนโอะ" ซึ่งสร้างจากนวนิยายเรื่องสั้นของทานาเบะ เซย์โกะซึ่งเคยได้ทำเป็นภาพยนตร์ Live Action เมื่อปี 2003 จะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่น “น้ำตา ความอ่อนโยน ความหลงใหล คือทั้งหมดที่เป็นเรา”
[รีวิว] Josee, The Tiger and The Fish - โจเซ่ กับเสือและหมู่ปลา
--- 6.6/10 ---
ไม่ต้องเตรียมทิชชู่ ไม่มีน้ำตาสักหยด
หนังเพลเซฟ กับเรื่องราวความรัก ความฝันและการให้กำลังใจ ที่ไปไม่สุดสักทาง
นี่คือหนังอนิเมชันที่กระแสดีมาก ๆ ได้รับคะแนนวิจารณ์ 100% เต็มจากเว็บ Rotten Tomatoes (จากนักรีวิว 13 คน) ส่วนบนเว็บ IMDb ได้ไป 7.9/10 จาก 2 พันกว่าคน นับว่าเป็นคะแนนที่สูงมาก และช่วงนี้ก็ไม่มีหนังอนิเมชันมาให้เราดูกันสักเท่าไหร่ มันเลยดึงความสนใจ ทำให้อยากดูได้ไม่ยากเลย
ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ทำงานพิเศษเพื่อหาตังเพื่อทำตามความฝันไปเรียนต่อที่ประเทศเม็กซิโก และมันก็นำพาเขาได้มารับงานพิเศษเป็นคนดูสาวพิการที่ต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ การได้ใช้เวลาร่วมกัน ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์และความผูกพันกันขึ้นมา
หนังไม่มีอะไรซับซ้อน แถมยังดำเนินเรื่องแบบเพลเซฟเล่นง่ายและคาดเดาอะไรไม่ยากเลย มันเลยไม่อยากทำให้เราเอาใจช่วยตัวละครทั้งสองสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะในแง่ของความรัก หรือในแง่ความฝันของทั้งคู่ก็ตาม เรื่องราวความพิการก็นำเสนอออกมาได้อย่างผิวเผิน หรือการไล่ตามฝัน การเสียสละบางอย่างก็ทำได้ไม่ถึงจุดจริง ๆ
ซึ่งมิติตัวละครของทั้งนางเอกและพระเอกก็ดูแบนเกินไป การตัดสินใจบางอย่างของตัวละครก็ดูไร้เหตุผลแบบแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงท้ายการตัดสินใจของนางเอกก็ไม่มีน้ำหนักมากพอที่ควรจะทำแบบนั้นจริง ๆ
หนังมีหลายซีนพยายามบิ้วเรียกน้ำตาคนดู แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทั้งพาร์ทดราม่า หรือพาร์ทซึ้งก็ตาม อาจจะเพราะด้วยการที่ตัวละครมันทำให้เรามีอารมณ์ร่วมด้วยไม่ได้แหละมั้ง
แต่ถึงมันจะเป็นอย่างที่กล่าวไปสองหน้าแรก ตัวหนังมันก็ไม่ได้น่าเบื่อ มันก็ดูได้แบบเพลิน ๆ ไอ้ความไม่น่าเบื่อของมันก็คือโมเม้นน่ารัก ๆ ของคู่พระ-นางนั่นแหละ เคมีทั้งคู่ เรียกรอยยิ้มให้กับคนดูได้อยู่เรื่อย ๆ
และความน่าชื่นชมที่สุดคงเป็นเรื่องงานภาพ ที่ถือว่าทำได้สวยใส่ใจรายละเอียดหลายอย่างได้อย่างน่าชื่นชม
สรุปแล้ว อาจจะเพราะคาดหวังมากเกินไป กับคะแนนวิจารณ์นั่นแหละ เลยทำให้ค่อนข้างผิดหวังเสียมากกว่า ภาพรวมมันยังมีหลายจุดน่าจะเล่นได้ ขยี้ได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็หาทางลงง่าย ๆ เพลเซฟไปซะงั้น แต่ก็นะ สำหรับเราก็เพลิดเพลินกับงานภาพ เสียง และโมเม้นตัวละครเท่านั้นแหละ
สรุปผลวิจารณ์หนัง