I Am Woman - คุณผู้หญิงยืนหนึ่งหัวใจแกร่ง
เข้าฉาย 24 กันยายน 2563
ผู้ชม : 5,903
ผู้กำกับ
: Unjoo Moon
ความยาวหนัง
: 116.00
Text Size
หนัง I Am Woman ปี 1966 Helen Reddy เดินทางมาที่ New York พร้อมกับลูกสาววัย 3 ขวบด้วยเงินเพียง 230 ดอลลาร์ในกระเป๋า, เธอหมดตัวภายในไม่กี่สัปดาห์, ตกหลุมรักในเดือนถัดมา, 5 ปีหลังจากนั้นเธอก็กลายเป็น Superstar ชื่อดัง และเป็นตัวแทนของเฟมินิสต์ในช่วงยุค 70 ที่เขียนเพลงเพื่อซัพพอร์ทการเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง
I AM WOMAN is the story of Helen Reddy, who in 1966 landed in New York with her three-year-old daughter, a suitcase and $230 in her pocket. Within weeks she was broke. Within months she was in love. Within five years she was one of the biggest superstars of her time, and an icon of the 1970s feminist movement, who wrote a song which galvanised a generation of women to fight for change.
[รีวิว] I Am Woman - คุณผู้หญิงยืนหนึ่งหัวใจแกร่ง
--- 9/10 ---
"I am strong, I am invincible, I am woman"
ประโยคจากเพลงในชื่อหนัง บอกเล่าหนังนี้ได้เป็นอย่างดี
แค่เข้าไปฟังเพลง ที่โคตรไพเราะก็คุ้มแล้ว
หากถามผมก่อนไปดูเรื่องนี้ว่า Helen Reddy คือใคร? ผมก็คงตอบไปว่า "ไม่รู้จัก" คุ้นชื่อไหม "ก็คงไม่อีกนั่นแหละ" เคยฟังเพลงของเธอมาก่อนหรือเปล่า "ไม่เคยเลยสักครั้ง" ซึ่งเราไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนเลย เรารู้เพียงแต่ว่าหนัง I Am Woman ก็จะพาเราไปรู้จักเธอคนนี้นี่แหละ
อย่างที่ได้กล่าวไป I Am Woman เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของนักร้องชื่อดังแห่งยุค 70s - Helen Reddy
หนังบอกเรื่องราวที่เธอต้องประสบพบเจอมา อาจจะไม่ใช่เริ่มต้นตั้งแต่เธอยังเด็กว่าทำไมเธอถึงร้องเพลงเพราะ แต่หนังเล่าตั้งแต่เธอได้เดินทางเข้ามายัง New York พร้อมกับลูกของเธอ มาพร้อมกับความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ไม่มีค่ายจะเอาผู้หญิงไปร้องเพลง เพราะในยุคนั้นมันช่างยากเหลือเกินท่ามกลางสังคมความไม่เท่าเที่ยมกันระหว่างชาย-หญิง นั่นจึงทำให้เธอต้องกัดฟันสู้และอยู่ด้วยความฝัน
นั่นคือสิ่งที่หนังเรื่องนี้ได้บอกเล่า ได้พาเราไปรู้จักตัวของเธอ พร้อมๆ สลับกับเพลงอันโคตรไพเราะของเธอ สิ่งที่ชอบมากๆ คือ เวลามีหนังชีวประวัตินักร้องหรือนักดนตรี เรามักจะไม่ค่อยได้เห็นฉากร้องเพลงยาวๆ หรือได้ยินเพลงเต็มๆ เท่าไหร่นัก แต่เรื่องนี้จัดเต็มมาก เพราะตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง เราจะได้ยินเพลงของ Helen Reddy หลายเพลงมาก และไม่ใช่มานิดๆ มาแบบเต็มๆ เพลง 3-4 เพลงเลยทีเดียว และที่สำคัญเพลง I Am Woman นี่โคตรเพราะจนไม่รู้จะบรรยายยังไง
นอกเหนือจากเส้นทางการเป็นศิลปินของเธอท่ามกลางสังคมความไม่เท่าเทียม หนังยังบอกเล่าด้วยว่าตัวเธอได้เกี่ยวข้องเรียกร้องสนับสนุนความเท่าเทียมกันโดยบอกผ่านเพลง I Am Woman ของเธอนี่แหละ ซึ่งเพลงนี้เธอก็ได้แต่งออกมาเพื่อความเท่าเทียมทางเพศด้วย เสียงของเธอเปรียบเสมือนตัวแทนของผู้หญิงทั่วโลก ยิ่งฉากการร้องเพลงตอนจบในงานประท้วงของผู้ชุมนุมเรียกร้องความเท่าเทียมกันที่ Washington D.C. ในปี 1989 ทำออกมาได้โคตรดี ขนลุกเลย สุดยอดมากจริงๆ กินใจ และทรงพลังแบบสุดๆ ซึ่งเพลง I Am Woman ก็ได้กลายมาเป็นบทเพลงสำคัญสำหรับเหล่าผู้เรียกร้องความเท่าเทียมกันของเพศอย่างไม่เป็นทางการ
หนังใช้มูดแอนโทนได้ชาญฉลาดมาก ตั้งแต่หนังเปิดเรื่องที่ Helen Reddy เดินทางเข้ามายัง New York เราจะเห็นได้เลยว่าโทนภาพจะเป็นสีน้ำเงินโทนเย็น ยกเว้นตัวเธอที่ใส่สีน้ำตาลออกส้มไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอคือคนแปลกแยกในสังคมแห่งนี้ และหากสังเกตไปตลอดทั้งเรื่องจะมีบางที่ที่ตัวเธอจะใส่เสื้อผ้าและกลมกลืนกับฉากเหล่านั้น นั่นคือสถานที่ที่เหมาะกับเธอ
ทางด้านนักแสดงถือว่าสอบผ่านแบบสุดๆ ทั้ง Tilda Cobham-Hervey ที่มารับบท Helen Reddy ที่เล่นได้มีเสน่ห์ สง่า เอาอยู่ในทุกฉากไม่ว่าจะแฮปปี้ ฉากน่ารักๆ ฉากดราม่า หรือฉากการแสดงอันทรงพลังเธอก็สามารถเอาอยู่จริงๆ แต่ที่น่าตกใจและเซอร์ไพรส์มาก คือการแสดงของ Evan Peters นักแสดงจากซีรีส์ AHS และผู้รับบท Quicksilver ในจักรวาล X-Men มารับบทเป็น Jeff Wald ผู้จัดการส่วนตัวและสามีของ Helen Reddy เขาระเบิดฟอร์มการแสดงออกมาอย่างสุดยอด เข้าถึงอารมณ์ในแต่ละซีนแบบสุดๆ ฉากระเบิดอารมณ์นี่ดูจริงและดูเยี่ยมมาก ทั้งสองคนแสดงได้อย่างไร้ที่ติจริงๆ
หากจะมีจุดบกพร่องก็อาจจะมีแค่เรื่องราวบางอย่างผ่านไปรวดเร็ว ความลำบาก การพยายามเป็นศิลปินของ Helen Reddy มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ กว่าการที่เธอจะได้ยืนบนเวทีโดยเป็นตัวของตัวเองได้ หรือความสำเร็จในการเป็นศิลปินน่าจะมีอะไรให้เราเห็นความยอดเยี่ยมของเธอได้มากกว่านี้
สรุปแล้ว I Am Woman เป็นหนังชีวประวัติของ Helen Reddy ที่บอกเล่าได้สนุก ไม่มีจุดชวนเบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย เราจะได้เห็นเส้นทางการเป็นศิลปินของเธอว่ากว่าจะไปยืนในจุดนั้นได้เธอต้องเจออะไรมาบ้าง ท่ามกลางสังคมความไม่เท่าเทียมทางเพศ และที่สำคัญการได้ไปฟังเพลงของเธอแบบเต็มๆ ในหลายๆ เพลงของหนังเรื่องนี้ ก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มแล้ว โดยเฉพาะเพลง I Am Woman เพราะมันทั้งเพราะโคตร และทรงพลังแบบสุดๆ
ปล. น้องที่เล่นเป็นลูกของ Helen Reddy ตอนเด็ก โคตรน่ารักกกกก
สรุปผลวิจารณ์หนัง