Soul - อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
เข้าฉาย 25 ธันวาคม 2563
ผู้ชม : 14,462
ผู้กำกับ
: Pete Docter, Kemp Powers
ความยาวหนัง
: 100.00
Text Size
หนัง Soul หรือชื่อไทยว่า อัศจรรย์วิญญาณอลเวง เรื่องราวของครูสอนดนตรีคนหนึ่งที่ได้เกิดอุบัติเหตุจนทำให้วิญญาณของเขาหลุดออกจากร่างมายังดินแดนอันแสนอลเวงและน่าอัศจรรย์ ทำให้เขาต้องหาทางกลับร่างพร้อมๆ กับการเรียนรู้ถึงชีวิตของตัวเองที่เคยผ่านมา
A musician who has lost his passion for music is transported out of his body and must find his way back with the help of an infant soul learning about herself.
[รีวิว] Soul - อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
--- 9/10 ---
เป็นหนังที่เหมาะแก่การส่งท้ายปีจริงๆ
อบอวลไปด้วยความสุขที่เติมเต็มชีวิต
เพราะชีวิต...คือการได้ใช้ชีวิตนี่แหละ
หนังอนิเมชันส่งท้ายปีส่งตรงจาก Pixar กับเรื่อง Soul หรือชื่อไทยว่าอัศจรรย์วิญญาณอลเวง บอกเล่าเรื่องราวของ Joe ชายวัยกลางคนผู้มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีแจ๊สมาโดยตลอด แต่ความจริงเขาก็เป็นเพียงครูประถมสอนดนตรีทั้งนั้น แต่โชคชะตาก็ให้โอกาสเขาได้ไปร่วมวงดนตรีแจ๊สชื่อดัง แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเขาอีกครั้ง เมื่อเขาดันพลาดตกท่อทำให้เขาโคม่าวิญญาณออกจากร่างไปสู่ภพภูมิสุดอัศจรรย์ ที่จะพาไปรู้จักกับคำว่า ชีวิต
ท้ายปีคงไม่มีหนังเรื่องไหนที่จะเยียวยาจิตใจและส่งมอบความสุขได้เท่าเรื่องนี้แล้วแหละ เป็นการฮีลเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมาทั้งปีจริงๆ อาจจะช่วยไม่ได้ไปตลอดหรอก แต่มันเป็นช่วงเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีที่คุ้มค่าจริงๆ
ถือว่าเป็นหนัง Pixar ที่มีความเป็นผู้ใหญ่พอตัวเลยแหละ ประเด็นในเรื่องต่างๆ มันเป็นประเด็นจริงจัง กับการตามหาความหมายของการมีชีวิต แต่หนังก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ความเฮฮาและความน่ารักเอาไว้เฉกเช่นเดิม ที่สำคัญยังคงทัชใจคนดูได้เช่นกัน
ตัวบทถือว่าทำออกมาได้ในระดับโอเค มันมีบางส่วนยังคงไม่สมเหตุสมผล เกิดการตั้งคำถามอยู่บ้าง ทิ้งค้างคาไว้บ้าง (เรื่องนักเรียน, เรื่องเพื่อน, เรื่องแม่) คือถ้าตอนท้ายเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาเป็นภาพเล่านิดๆ หน่อยๆ มันจะลงตัวมากเลย และหลายๆ ครั้งมันก็ราบรื่นเกินไป หาทางลงง่ายเกินไปและดูรีบๆ ไปเสียหน่อย แต่ในภาพรวมมันก็ยังน่าติดตาม และพาคนดูไปเอ็นจอยกับมันได้ไม่ยาก เพราะมันยังคงสนุก ดูง่าย
งานด้านภาพนี่เรียกได้ว่างดงามสุดๆ ทั้งในพาร์ทของวิญญาณที่สร้างสรรค์ อาจดูเป็นตัวละครง่ายๆ เป็นมิตรและสบายตาสุดๆ แต่มันเต็มไปด้วยรายละเอียดงดงามเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นสีสัน หรือแบบเหมือนกาแล็กซี่ไหลๆ ไปที่เส้น อธิบายไม่ถูก 5555 ส่วนในพาร์ทของคนท่ามกลางเมืองใหญ่นี่ก็สวยแบบไร้ที่ติจริงๆ
ชอบความที่หนังค่อยๆ พยายามให้เรารับรู้ เรียนรู้ และสอนเราถึงสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ โดยไม่ต้องให้เหล่าตัวละครมาพูดคำคมหรือยัดเยียดให้เราคล้อยตาม แต่หนังดำเนินมาเรื่อยๆ เรียบง่าย ค่อยเป็นค่อยไป จนมาถึงตอนท้ายเราคล้อยตามและเห็นด้วยกับบทสรุปของหนังอย่างไม่รู้ตัว
ลองหยุดพัก ลองใช้เวลาช้าๆ มองไปรอบๆ เอ็นจอยกับสิ่งเหล่านั้น มันมีความสุขอยู่ทุกมุมมองนั่นแหละ หากถามว่าชีวิตคืออะไร มีชีวิตเพื่ออะไร...มันคือการได้ใช้ชีวิตนี่แหละ
ปล. หนังให้ตัวเอกชอบแจ๊ส ถ้าใส่เพลงแจ๊สมาเยอะๆ กว่านี้จะฟินมาก 555+
สรุปผลวิจารณ์หนัง