A Beautiful Day in the Neighborhood
หนัง A Beautiful Day in the Neighborhood สร้างมาจากเรื่องจริงของ Fred Rogers ชายผู้ที่ชาวอเมริกาเรียกกันว่าเพื่อนบ้านคนโปรด นิสัยดี ใจดี โอบอ้อมอารี และเป็นมิตรที่สุดในโลกคนนึง ตัวหนังได้บอกเล่าเรื่องราวของเขาที่ได้ถูกนักเขียนอารมณ์ร้อนรายหนึ่ง Lloyd Vogel ไปสัมภาษณ์เพื่อเขียนคอลัมน์ลงนิตยสาร แต่เมื่อเขาได้พบ Rogers ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล
Based on the true story of a real-life friendship between Fred Rogers and journalist Tom Junod.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
[รีวิว] A Beautiful Day in the Neighborhood
--- 9.6/10 ---
อบอุ่น เป็นหนังที่โคตรมีหัวจิตหัวใจ
ไม่มีใครเหมาะสมกับบทนี้ไปกว่า Tom Hanks อีกแล้ว
รู้สึกดี โชคดี และยินดีที่ได้รู้จักชายที่ชื่อ Fred Rogers
A Beautiful Day in the Neighborhood คือเพลงประจำรายการของ Mr. Rogers’ Neighborhood รายการทีวีชื่อดังตั้งแต่ช่วงปี 1967-2001 นู่นนนนน ซึ่งมีพิธีกรรายการชื่อว่า Fred Rogers ชายผู้ที่ชาวอเมริกันเรียกกันว่าเพื่อนบ้านคนโปรด ชายผู้นิสัยดี๊ดี ใจดี โอบอ้อมอารี และเป็นมิตรที่สุดในโลกคนหนึ่ง และหนังเรื่องนี้ก็บอกเล่าเรื่องราวของชายคนนั้นนั่นแหละ
โดยเนื้อเรื่องจะเล่าถึง Fred Rogers ที่ได้ถูกนักเขียนรายหนึ่งนามว่า Lloyd Vogel ไปสัมภาษณ์เพื่อเขียนคอลัมน์ลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งนักเขียนคนนี้เป็นคนอารมณ์ร้าย แต่เมื่อเขาพบกับ Rogers ตัวเขาก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ไม่แปลก ถ้าใครหลายคนจะไม่เคยได้ยินชื่อของ Fred Rogers เพราะมันอาจจะไม่ได้ดังในบ้านเราสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณดูเรื่องนี้คุณจะได้รู้จักชายคนนี้ และคุณจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็รักเขา นี่ขนาดไม่ใช่ตัวจริงและเรามีเวลารู้จักเขายังไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยนะ เรายังรู้สึกรัก Fred Rogers ขึ้นมาทันทีเลย เหมือนเขาค่อยๆ ซึมเข้าไปในจิตใจเราอย่างไม่รู้ตัว
และผลพวงทั้งหมดที่ทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งต้องชื่นชมแบบชื่นชมในชื่นชมอย่างที่สุด กับการรับบทของ Tom Hanks คือถ้าไม่ใช่เขาก็ไม่รู้ว่าใครเหมาะสมกับบทบาทนี้แล้วจริงๆ ด้วยภาพลักษณ์ผู้ชายแสนอบอุ่นอย่าง Tom Hanks ด้วยแล้วนั้น ไม่มีใครเหมาะไปกว่าเขาแล้วแหละ
หนังมีการดำเนินเรื่องเหมือนเรากำลังนั่งดูรายการ Mr. Rogers’ Neighborhood อยู่ มีการสอดแทรกมุกตลกบ้างประปราย มีการเปิดรายการที่เป็นเอกลักษณ์ของรายการ มีการเปลี่ยนฉากผ่านสิ่งของ ของเล่น รวมถึงเพลงประกอบที่เหมือนรายการนั้นเปี๊ยบ นับว่าเจ๋งดีเหมือนกัน และสามารถร้อยเรียงเรื่องราว มาได้อย่างลงตัว
หนังยังบอกเล่าเรื่องราวหลายๆ อย่างของ Rogers ออกมาได้มากที่สุดเท่าที่จะทำให้คนรู้จักได้ และในระหว่างทางที่เรารู้จักเขา เขายังสอนและให้ข้อคิดอะไรหลายๆ อย่างที่คมคาย และกระแทกใจแบบสุดๆ ทั้งเรื่องครอบครัว, การเจริญเติบโต, การจัดการกับอารมณ์, ชีวิต เรียกได้ว่าเข้าถึงหัวจิตหัวใจคนดูแบบสุดๆ คุณไปดูเรื่องนี้รับรองว่าคุณต้องได้แง่คิดอะไรกลับมาคิดทบทวนชีวิตตนเองบ้างไม่มากก็น้อย
แถมเรายังรู้ถึงเหตุผลของ Rogers อีกด้วยว่าทำไมเขาถึงเป็นคนดีขนาดนั้น เขาต้องเจออะไรมาบ้าง ไม่ใช่ในแง่มุมของใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเท่านั้น เรายังได้เห็นว่าสิ่งที่เขาต้องเจอมีอะไรบ้าง และมันทำให้เขาเป็นยังไง มีประโยคนึงในหนังเขาบอกประมาณว่า เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ เขาก็มนุษย์คนนึงนี่แหละ มีความรู้สึกเหมือนคนอื่นๆ แต่เขาเลือกที่จะแสดงมันออกมาในอีกมุมนึงต่างหาก ถ้าพจนานุกรมมีคำว่า “ดี” บัญญัติความหมายของคำนั้นต้องแปลว่า “Fred Rogers” แน่ๆ
ติดนิดเดียวเท่านั้น หนังดำเนินเรื่องเอื่อยๆ เรื่อยๆ ช้าๆ จนอาจทำให้รู้สึกง่วงได้เลย เข้าใจแหละว่ามันคือซีนอารมณ์ ต้องการบิ้วเรื่องราว ซึ่งมันก็ดีนะ และมันก็ช่วยเรื่องอารมณ์ของหนังได้เยอะเลย แต่ถ้าใครนอนไม่พออาจมีหลับได้เลยนะ แล้วคุณจะพลาดสิ่งดีๆ ไปเยอะเลย กับมีบางเรื่องที่เราอยากให้หนังนำเสนอออกมาด้วยเช่นการช่วยวงการทีวี หรือเรื่องประเด็นเอาคนผิวสีมาออกรายการ เป็นต้น
สรุป A Beautiful Day in the Neighborhood ไม่ใช่หนังสนุก ไม่ใช่หนังตื่นเต้น เราขอเรียกว่ามันเป็นหนังโลกสวยละกัน เป็นหนังที่สอนให้เรามองโลกให้สวย ให้ข้อคิด เรียนรู้ สอน เข้าอกเข้าใจ และอบอุ่นเป็นที่สุด
A BEAUTIFUL DAY IN THE NEIGHBORHOOD
" เมื่อทุกอย่างในชีวิต จะร้ายดีต่างก็หล่อหลอมให้เป็นเรา.. "
109 min | Drama/Bio | Directed by Marielle Heller
หลายคนอาจจะไม่รู้จักชายที่ชื่อว่า เฟร็ด โรเจอร์ส เขาคือพิธีกรเจ้าของรายการเด็กที่ครองใจผู้ชมอเมริกันมานานกว่าหลายทศวรรษในนาม มิสเตอร์โรเจอร์ส ที่ภาพจำของเขาคือผู้ชายใจดี มีศีลธรรม เป็นภาพลักษณ์ของความดีงามในแบบที่อเมริกายึดถือโดยแท้ และเด็กๆ ทุกคนที่โตมาในช่วงเวลาของเขาต่างก็รักเขาทั้งนั้น (แนะนำให้ลองหาสารคดี Won't You Be My Neighbor? มาดูหากอยากรู้จักเขามากขึ้น) เรื่องราวในหนังเรื่องนี้ไม่เชิงว่าเป็น ภาพยนตร์ชีวประวัติของ มิสเตอร์โรเจอร์ส หากแต่ว่าด้วยเรื่องราวของ ลอยด์ โวเกิล นักเขียนจากนิตยสารชั้นนำอย่าง Esquire ที่ได้รับหน้าที่ให้ไปสัมภาษณ์ เฟร็ด โรเจอร์ส ซึ่งตาลอยด์ ขึ้นชื่อมากในเรื่องของการตีแผ่มุมมองด้านมืดของคนที่เขาไปสัมภาษณ์ และแน่นอนว่ากับชายที่แสนดีที่สุดในอเมริกาเขาก็พยายามทำแบบนั้นหากแต่เป็นตัวผู้สัมภาษณ์เองต่างหากที่กำลังถูกโรเจอร์สค้นหาเสียมากกว่า
ค่อนข้างเซอร์ไพร์สมากสำหรับหนังเรื่องนี้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวโดยล้อกับรูปแบบรายการของมิสเตอร์ โรเจอร์ส แต่จากเนื้อหาเด็กกลายเป็นสะท้อนชีวิตของมนุษย์ผู้เต็มไปด้วยปมส่วนตัว เหตุผลส่วนตัว หรืออารมณ์ส่วนตัวซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการแสดงมันออกมาแตกต่างกัน แต่สิ่งเหล่านี้เองก็ทำให้เราทุกคนเป็นมนุษย์ เฉกเช่นเดียวกับ มิสเตอร์โรเจอร์ส ที่เค้าก็ทราบดีว่าตนเองไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เขาแค่มีวิธีจัดการกับมัน ซึ่งในส่วนนี้ถ่ายทอดและเล่าออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ อย่างที่บอกไปว่านี่ไม่ใช่หนังชีวิประวัติหากแต่เป็นหนังดราม่าครอบครัว ที่มีทัศนคติเชิงบวกอย่างสร้างสรรค์และเติมพลังใจให้กับผู้ชม
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหนังคงหนีไม่พ้นการแสดงอันยอดเยี่ยม (อีกครั้ง) จาก Tom Hanks ที่ถ่ายทอดความเป็นเฟร็ด โรเจอร์สได้อย่างละเอียดทั้งท่วงท่า แววตา บุคลิกส่วนตัว เหมือนมากจนขนลุก แต่ที่เสริมให้หนังเยี่ยมกว่าก็คงเป็นอีก 2 นักแสดงอย่าง Matthew Rhys ที่เล่นเป็น ลอยด์ โวเกิล และ Chris Cooper ที่เป็นพ่อลอยด์ คนหลังมาน้อยแต่มาแต่ละทีหนักหน่วงมาก
หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นหนังที่ว่าเรื่องราวผ่านรายการอเมริกันเราจะอินหรือเปล่า ต้องบอกเลยครับว่านั่นเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น หากอยากได้หนังดราม่าที่ถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ได้อย่างยอดเยี่ยม เติมพลังใจแง่บวกให้เราได้บ้าง ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่งเลยครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง