0 Doctor+Strange+in+the+Multiverse+of+Madness+-+%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AC+%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2

Doctor Strange in the Multiverse of Madness - จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย

เข้าฉาย 4 พฤษภาคม 2565
ผู้ชม : 43,996
ผู้กำกับ : Sam Raimi
ความยาวหนัง : 126.00
Text Size

หนัง Doctor Strange 2 หรือชื่อไทยว่า จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness : จอมเวทย์มหากาฬในมัลติเวิร์สมหาภัย ได้ปลดล็อกพหุจักรวาลใน MCU ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา เดินทางไปสู่มิติที่มิอาจหยั่งรู้ได้กับ ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ กับสหายผู้มีพลังพิเศษทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่จะมาร่วมเดินทางไปในพหุจักรวาลที่แสนบิดเบี้ยวและอันตราย เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูลึกลับในครั้งนี้ Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness : จอมเวทย์มหากาฬในมัลติเวิร์สมหาภัย นำแสดงโดย Benedict Cumberbatch, Chiwetel Ejiofor, Elizabeth Olsen, Benedict Wong, Xochitl Gomez, with Michael Stühlbarg, และ Rachel McAdams. ภาพยนตร์กำกับโดย Sam Raimi และอำนวยการสร้างโดย Kevin Feige Louis D’Esposito, Victoria Alonso, Eric Hauserman Carroll โดยมี Jamie Christopher เป็นผู้ร่วมอำนวยการสร้าง และเขียนบทโดย Michael Waldron


In Marvel Studios’ “Doctor Strange in the Multiverse of Madness,” the MCU unlocks the Multiverse and pushes its boundaries further than ever before. Journey into the unknown with Doctor Strange, who, with the help of mystical allies both old and new, traverses the mind-bending and dangerous alternate realities of the Multiverse to confront a mysterious new adversary.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

7 พฤษภาคม 2565 18:29:27

[รีวิว] DOCTOR STRANGE IN THE MULTIVERSE OF MADNESS
จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย
--- 7.7/10 ---
หนังฮีโร่ที่สยองขวัญที่สุดตั้งแต่เคยมีมา
หลอน ระทึก สนุก ตื่นเต้น เซอร์ไพรส์
แต่บทยังธรรมดาและยังไม่สุดเท่าไหร่

ก่อนอื่นต้องบอกว่าโดยส่วนตัวคิดว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการต้องดูซีรีส์ WandaVision มาก่อน เพราะเราจะได้เข้าใจการกระทำตัวละครของ Wanda และจะอินกับมันมากขึ้นว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ ถ้าถามว่าไม่ดูไปแล้วจะรู้เรื่องไหม? จริง ๆ มันก็รู้เรื่องนะ เพราะตัวหนังก็มีพูดถึงหรือกล่าวถึงให้คนดูได้เข้าใจอยู่ แต่ว่าถ้าดูไปเองจะเข้าใจเห็นภาพและอินได้มากกว่า 

ติดตามข่าวมาตั้งแต่แรก ๆ แล้วว่าในหมอแปลกภาคนี้จะมีความเป็นหนังฮีโร่ที่สยองขวัญ โดยได้ผู้กำกับอย่าง Sam Raimi มารับหน้าที่กุมบังเหียนเรื่องนี้ หากใครเคยคิดตามเขามาจะรู้ว่าเขาฝากผลงานหนังสยองขวัญสร้างชื่อไว้ทั้ง The Evil Dead (1981) หรืออย่าง Drag Me to Hell (2009) รวมถึงการทำหนังฮีโร่อย่างไตรภาค Spider-Man ที่แสดงโดย Tobey Maguire เพราะฉะนั้นการก้าวมากำกับหมอแปลกภาคนี้คงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเขาอีกแล้ว ด้วยวัตถุดิบต่าง ๆ มันเหมาะเจาะมาก มันจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ผลมันก็ออกมาเป็นหนังฮีโร่ที่สยอง หลอน ระทึก ตื่นเต้นจริง ๆ เป็นหนังฮีโร่ในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน หลายฉากนี่อย่างกับหนังผีเลยทีเดียว มีความ Jump scare ด้วยในบางฉาก นี่คือจุดที่เราชอบมากที่สุดในเรื่องนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่ Sam Raimi นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเป็นใครที่จะมาทำได้แบบนี้

หนังเต็มไปด้วยแฟนเซอร์วิส ทั้งแฟน Marvel และแฟน Sam Raimi มีมาให้กรี๊ดหลายฉากเลยทีเดียว ถึงแม้บางอย่างเราจะรู้อยู่แล้วแหละ แต่พอได้เห็นในหนังจริง ๆ มันก็ยังคงฟินนั่งไม่ติดเบาะอยู่ดี 

ฉากแอ็คชันในเรื่องนี้ทำได้ดีมาก แต่ละซีนแอ็คชันคือดีไซน์มาได้สร้างสรรค์สุด ๆ บางฉากนี่ต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพลังเหมือนอาจจะโดนเนิร์ฟไปบ้างก็ตาม

ทางด้านการแสดงก็ต้องบอกว่าทำได้ดีจริง ๆ ทั้ง Benedict Cumberbatch ในบท Doctor Stephen Strange ที่ยังคงรับบทบาทเป็นตัวละครนี้ได้อย่างคุ้นเคยและเข้ามือ เพิ่มเติมคือเราได้เห็นมิติของตัวละครนี้มากขึ้นผ่านการแสดงของเขา ตามมาด้วย Xochitl Gomez ในบท Ameica Chavez ก็รับผิดชอบบทบาทตัวเองได้ดี แสดงได้เป็นธรรมชาติท่ามกลางรุ่นพี่ได้อย่างไม่เคอะเขินเลย แต่ที่น่าชื่นชมที่สุดเราขอยกให้ Elizabeth Olsen ในบท Wanda Maximoff/Scarlet Witch เป็นการยกระดับการแสดงของเธอในบทนี้สุด ๆ เรียกได้ว่าพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ไม่คิดเลยว่ามันจะออกมาดีขนาดนี้  การแสดงของเธอในเรื่องนี้ไร้ที่ติมากจริง ๆ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลท่ามกลางความดีงามเหล่านั้น สิ่งที่อ่อนที่สุดคือตัวบท ไม่ใช่ว่าบทไม่ดี แต่มันก็ไม่ได้ถือว่ายอดเยี่ยม อยู่ในระดับกลาง ๆ อาจจะเพราะเราคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรจากความเป็น Multiverse มากกว่านี้ แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ว้าว ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน กลายเป็นแค่หนึ่งในวัตถุดิบที่เอาไว้เล่าของภาคนี้เฉย ๆ ถึงแม้หนังจะมีความยาว 2 ชั่วโมงนิด ๆ แต่ก็ถือว่าดำเนินเรื่องเร็วพอสมควร มันจึงไม่น่าเบื่อ แต่บางอย่างผ่านไปเร็วมาก บทบางอย่างมันเลยหาทางออกแต่ละปัญหาหรือหาจุดคลี่คลายง่ายดายไปหน่อย จนบางทีก็ถึงกับอุทานออกมาเลยว่าอะไรกันครับเนี่ย 

สรุปแล้ว Doctor Strange in the Multiverse of Madness ต้องบอกว่าเป็นหนังที่ดูสนุก เป็น Mood & Tone ที่ต่างออกไปจากหนังฮีโร่เรื่องอื่น ซึ่งทำจุดนี้ออกมาได้ดีมาก ชอบในความสยอง ความหลอนที่นำเสนอออกมาสุด ๆ แต่ผิดคาดในเรื่องของบทไปสักหน่อย คิดว่ามันจะมีอะไรมากกว่านี้

ปล. ตัวหนังมีฉาก Mid-Credits หนึ่งตัวและฉาก Post-Credits อีกหนึ่งตัว 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
7.7
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
10 พฤษภาคม 2565 14:57:11
สนุก​มาก​ครับ หลากหลาย​อารมณ์​ End​ Credit​ อัน​ที่​ 2 ต้อง​ดูให้ได้

ความคิดเห็น (0)

GUEST
บบ
18 มีนาคม 2565 08:22:48
ตั๋วราคาประมาณกี่บาทหรอคะ
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
GUEST
5678
2 พฤษภาคม 2565 08:17:51
ธรรมดา เริ่มต้น200เธอ